ในหนึ่งวันชาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ ใช้เวลาอยู่ที่ออฟฟิศไม่น้อยกว่า 9 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ถ้าไม่นับเวลาที่เราต้องนอนในแต่ละวันแล้ว เวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ออฟฟิศ มากกว่าเวลาที่เราใช้อยู่ที่บ้านด้วยซ้ำ ทำให้เพื่อนร่วมงานกลายมาเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เราต้องใช้เวลาใช้ชีวิตอยู่ด้วยเป็นอันดับต้น ๆ และแน่นอนว่ากว่าจะเติบโตมาถึงช่วงวัยที่ต้องทำงาน ทุกคนก็ได้ฟอร์มตัวตนของตัวเองมาระดับหนึ่งแล้ว เลยทำให้สังคมออฟฟิศเป็นสังคมแห่งความหลากหลาย และเมื่อต้องทำงานด้วยกันก็ย่อมต้องมีผลกระทบซึ่งกันและกันเอง บางคนเจอเพื่อนในออฟฟิศดี ก็ดีไป ชีวิตก็จะแฮปปี้มีความสุขได้ เพราะแม้ว่างานจะไม่ดี หรือหัวหน้าไม่เข้าใจ แต่อย่างน้อยก็มีเพื่อนในออฟฟิศที่คอยเข้าใจและสร้างรอยยิ้มให้ แต่ถ้าสังคมออฟฟิศของคุณมีเพื่อนร่วมงานที่ก็ไม่รู้ว่าเค้าดีจริงหรือแค่แกล้งทำเพื่อผลประโยชน์และล่ะก็ คุณก็อาจจะเป็นทุกข์ได้ ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเพื่อนร่วมงานคุณเป็นคนแบบไหน
คนที่ชอบเก็บตัว ไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นหรือแผนกอื่น ขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ชอบอยู่แต่ในมุมเล็กๆ ของตัวเอง
คนที่ไม่ชอบแสดงความคิดเห็นในเวลาที่ควรพูด เช่น ในที่ประชุม หรือปรึกษางานกัน
คนที่รับฟังทุกความเห็น รับฟังทุกคำแนะนำ แต่ไม่แก้ไขหรือปฏิบัติตาม
คิดโปรเจ๊กต์เก่ง ฝันใหญ่ พูดได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ไม่พอถึงเวลาลงมือทำจริง ทำไม่ได้อย่างที่พูด
เพื่อนร่วมงานที่ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ ๆ มาตรการใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ หรือวิธีการทำงานใหม่ ๆ และยังไม่ชอบปรับตัว ชอบแสดงออกทางพฤติกรรม เช่น การชักสีหน้า ไม่ให้ความร่วมมือ เมื่อไม่พอใจกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น
คนที่ไม่ชอบพัฒนาตัวเอง เคยทำอะไรแบบไหนมาก็ทำต่อไปแบบนั้น ไม่ต่อยอดงาน ไม่ชอบสร้างสรรค์อะไรใหม่ ไม่เสนอตัวทำงานยาก เพื่อพัฒนาความสามารถและประสิทธิภาพงาน
พวกที่ไม่ชอบปฏิบัติตามกฎของบริษัท มี mindset ว่า กฎมีไว้แหก เช่น ชอบมาสาย ไม่ลาล่วงหน้า แต่งตัวไม่เหมาะสม
คนที่ชอบทำงานคนเดียว ไม่ชอบทำงานกับคนอื่น ไม่รู้จักทำงานเป็นทีม ไม่ชอบแชร์ความคิดเห็น ชอบทำงานคนเดีนว เป็นเจ้าของผลงานคนเดียว ชอบที่จะโดดเด่นคนเดียว หรือได้หน้าคนเดียว ไม่ชอบให้เครดิตเพื่อนร่วมทีม
คนที่ไม่มีจรรยาบรรณในการทำงาน ชอบหาโอกาสเอาเปรียบหรือฉวยโอกาสจากคนอื่นอยู่เสมอ หรือไม่ก็ชอบเรียกร้องสิทธิอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่สนใจคนรอบข้าง ทั้งที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีอย่างเต็มที่
ชอบมองโลกในแง่ร้าย คิดลบไม่พัก ไม่เคยมองใครดี ชอบจับผิดคนอื่น ขี้นินทา สร้างความแตกแยกในที่ทำงาน ชอบยุให้คนอื่นทะเลาะกัน
ชอบเปรียบเทียบไปซะทุกเรื่อง ทั้งเปรียบเทียบว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นยังไง งานนี้ดีกว่างานนั้นยังไง เจ้านายคนนี้ดีกว่าคนนั้นยังไง
คนที่เชื่อมั่น ยึดมั่นในความคิดของตัวเอง จนไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น มองโลกจากมุมของตัวเองเท่านั้น ไม่เคยทำความเข้าใจคนอื่น ทุกอย่างที่ตัวเองคิดดีทั้งหมด และทุกคนต้องทำตามความคิดของตัวเองเท่านั้น
คนที่ชอบชี้ปัญหา สร้างประเด็น แต่ไม่ชอบหาทางออกทางแก้ไข หรือหาข้อสรุปใด ๆ เลย เน้นปัดปัญหาไปให้พ้นตัวเอง หรือให้คนอื่นมาแก้แทน
คนที่ไม่ได้ทำงานเก่ง แต่เอาใจเจ้านายเก่งมาก นายทำอะไรก็ดีก็ถูกไปหมดทุกอย่าง โดยที่ไม่สนเลยว่าจะมีผลกระทบอะไรบ้าง เน้นให้เจ้านายรัก แต่งานไม่ต้องดี หรือใครจะเดือดร้อนยังไงก็ได้
คนที่เก่งเรื่องสร้างภาพให้ตัวเองดูดี แต่ความเป็นจริงไม่เป็นอย่างนั้น เช่น ชอบทำตัวเหมือนเองเก่ง พูดเสนอความเห็นเก่ง แต่จริง ๆ ไม่สามารถทำงานได้ หรือทำให้ตัวเองดูยุ่งทั้งวัน แต่จริง ๆ นั่งเล่นเฟสบุ๊คอยู่
คนที่ไม่สามารถแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ เอาปัญหาส่วนตัวมาทำให้กระทบงาน เช่น อกหักจนไม่สามารถทำงานได้ หรือเอานิสัยส่วนตัวของเพื่อนร่วมงานมาตัดสินการทำงานของคนนั้น ๆ เช่น ชอบเพื่อนคนนี้ ก็อำนวยความสะดวกเรื่องงานให้คนนี้เป็นพิเศษ จนไม่สนใจว่างานอาจจะพังเพราะการทำแบบนี้ก็ได้
คนที่ทำงานไปวัน ๆ ไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานให้ดี ไม่แรงบันดาลใจ ทำงานแบบไม่มีชีวิตชีวา ไม่มีความสุข
ชอบลาป่วย แบบที่ไม่รู้ว่าวันนี้ป่วยจริงหรือป่วยปลอม เช่น ท้องเสียบ่อย ปวดตัวบ่อย ไม่สบายบ่อย อาหารเป็นพิษทุกสัปดาห์
คนที่ชอบอู้ไม่ยอมทำงาน เช่น ทำทีเป็นเดินไปคุยงาน แต่คุยงาน 15 นาที นอกนั้นเน้นเม้าท์ ลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย เดินไปเอาน้ำ ซื้อกาแฟวันละหลาย ๆ ครั้ง
คนที่คาดหวังสูง มีภาพฝันงานแบบหนึ่ง แต่พอมาทำงานจริงแล้วเป็นอีกแบบหนึ่งก็ไม่สามารถทนได้ จนทำให้ไม่อยากทำงาน ชอบหางานใหม่อยู่เสมอ เพื่อหวังจะได้เจองานที่ใช่ ทำงานที่ใดที่หนึ่งไม่นาน
ถ้าบังเอิญว่าในออฟฟิศของใครมีเพื่อนร่วมงานชวนป่วน แบบที่เรากล่าวไปแล้วด้านบน และคิดอยู่ว่าจะหาวิธีรับมือ หรือจัดการกับเพื่อนร่วมงานเหล่านี้ยังไงดี เรามี 6 วิธีง่าย ๆ ให้คุณลองเอาไปปรับใช้กับสถานการณ์ของคุณดู
เพื่อนร่วมงานชวนป่วนมักทำให้เราหงุดหงิดไม่มากก็น้อย สิ่งแรกที่ทำได้ได้ควรทำก็คือ “ตั้งสติ” และใจเย็น ๆ ไม่แสดงอารมณ์ที่จะทำให้สถานการณ์แย่ หรือทำงานได้ยากขึ้นโดยไม่จำเป็น และยังช่วยให้คิดหาทางแก้ปัญหาได้ดีกว่าเดิมด้วย
เลี่ยงการปะทะโดยใช้อารมณ์ แทนที่จะโต้กลับอย่างรุนแรงด้วยการทะเลาะ ลองเปลี่ยนมาเป็นการเจรจาด้วยเหตุผลด้วยการยึดหลักการทำงานให้ออกมาดีโดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่เสีย
พฤติกรรมชวนป่วนในที่ทำงานเป็นกันได้ง่ายมาก เพราะเราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ หรือบางครั้งอาจเผลอเป็นโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอ ถ้ารู้ว่าเราเริ่มเข้าข่ายชวนป่วนแล้ว ให้รีบปรับปรุงตัวเองให้เร็วที่สุด
ถ้าจะใช้วิธีนี้เราแนะนำให้เริ่มจากเพื่อนร่วมงานที่พร้อมเปิดใจและเปิดรับก่อน รวมถึงเลือกวิธีการพูดให้ถูกจริตคนที่เราอยากเตือน โดยหลักสำคัญต้องยึดหลักประสิทธิภาพการทำงานและเหตุผลเป็นหลัก
ถ้าเราคิดว่าพูดเองไม่ได้ ลองปรึกษาหัวหน้าให้ช่วยพูดแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเลือกหัวหน้าที่พร้อมรับฟังและมีเหตุผลด้วย
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและดีที่สุดที่จะทำให้คุณอยู่ได้ในที่ทำงานเป็นอย่างดี แม้ว่าใครจะทำงานไม่ดีหรือไม่ตั้งใจทำงาน สร้างความปั่นป่วนในที่ทำงานแค่ไหน แต่ถ้าคุณตั้งใจทำงานของตัวเองให้ดีแล้ว แม้เพื่อนร่วมงานจะแย่หรือจะตั้งใจกลั่นแกล้งคุณแค่ไหน เชื่อได้ว่าหัวหน้างานจะต้องเห็นความจริงอยู่แล้ว เพราะค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน เพราะฉะนั้นขอแค่คนตั้งใจทำงาน ปฏิบัติตัวให้ดี ไม่หวั่นไหวกับเพื่อนร่วมงานช่างป่วน คุณก็จะสามารถทำงานได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนได้ไม่ยาก
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
คว้างานที่ใช่ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า