ทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนนิสัยตัวเอง พัฒนาชีวิตให้เข้าใกล้ความสำเร็จอีกขั้น

ทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนนิสัยตัวเอง พัฒนาชีวิตให้เข้าใกล้ความสำเร็จอีกขั้น
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 17 January, 2025
Share

Key Takeaway

  • ทฤษฎี 21 วัน เป็นทฤษฎีที่ใช้ความคุ้นชินในการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 21 วัน ทำให้เราสามารถทำสิ่งใหม่นั้นต่อไปเรื่อยๆ ได้จนกลายเป็นนิสัย
  • ทฤษฎี 21 วัน ริเริ่มมาจากแพทย์ที่สังเกตว่าคนไข้ที่ผ่านการผ่าตัดมาแล้ว จะใช้เวลา 21 วัน ในการสร้างความคุ้นชินต่อร่างกายของตนเอง เพื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและการปรับตัว
  • เราสามารถลองทำตามทฤษฎี 21 วัน เพื่อสร้างนิสัยและการเปลี่ยนแปลงที่ดีของเราได้ เช่น การออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ การอ่านหนังสือ หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ 

อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ใช้เวลาไม่นานเลย เพียงแค่เริ่มต้นจาก ทฤษฎี 21 วัน เราก็สามารถกลายเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้น ใช้ข้อดีจากความเคยชินให้กลายมาเป็นเครื่องมือพัฒนาตัวเอง เรามาดูกันว่าเพียงแค่ 21 วันนี้ เราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง พร้อมกับไอเดีย Challenges ที่น่าสนใจ ไปดูพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย! 

รู้จักทฤษฎี 21 วัน คืออะไร

รู้จักทฤษฎี 21 วัน คืออะไร

ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ (Dr.Maxwell Maltz) ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ผู้เสนอแนวคิด ‘กฎ 21 วัน’ ซึ่งเริ่มมาจากการสังเกตพฤติกรรมของคนไข้หลายคนที่มักจะใช้เวลา 21 วัน ในการฟื้นฟูและปรับตัวให้ชินหลังจากผ่านการผ่าตัด 

จากการสังเกตนี้ ดร.มอลตซ์สันนิษฐานว่าผู้คนมักจะใช้เวลาประมาณ 21 วัน ในการยอมรับและปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น และทำให้สิ่งใหม่นั้นกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตด้วยเวลา 21 วัน ดังนั้นหลักการของทฤษฏี 21 วัน คือการที่เราทำพฤติกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน จนในที่สุดพฤติกรรมนั้นจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา กลายเป็นการเปลี่ยนนิสัยตัวเองได้ภายใน 21 วัน 

ทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนนิสัยตัวเองด้วย Challenges สุดเจ๋ง!

ทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนนิสัยตัวเองด้วย Challenges สุดเจ๋ง!

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราทำมานานนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่เพียงแค่เวลา 21 วันนี้ ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้เราสามารถอัปสกิลหรือสร้างสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองขึ้นมาใหม่ได้เช่นกัน เรามาดูกันว่าหากจะใช้ ทฤษฏี 21 วันในการเปลี่ยนนิสัยตัวเอง มี Challenges อะไรบ้างที่น่าสนใจ  

1. ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก สามารถเริ่มได้เลยไม่ต้องรอเริ่มพรุ่งนี้! หลายๆ คนมักมีวลีที่ติดปากติดใจว่า ‘เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลด’ เพราะการเริ่มต้นมันยาก แต่การลดน้ำหนักนั้นหากเรามุ่งมั่นและตั้งใจ ก็สามารถทำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร งดของทอด อาหารหวาน และไม่ทานดึก เพียงแค่เปลี่ยนนิสัยการกิน 21 วัน ก็จะทำให้ต่อไปร่างกายเราจะคุ้นชินกับการทานอาหารดีๆ ช่วยทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น และแน่นอนว่าจะเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีของการลดน้ำหนักเลยทีเดียว 

2. เข้านอนหัวค่ำ ตื่นตอนเช้าตรู่

การนอนไวอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่การตื่นให้เช้าคงเป็นเรื่องที่หลายๆ คน ขอลาก่อน แต่รู้ไหมว่าพฤติกรรมการนอนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเรา เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายเราได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ได้เผาผลาญในระหว่างที่เรานอนหลับแล้ว จะช่วยทำให้เรารู้สึกสดชื่นและแจ่มใสในระหว่างวันด้วย 

หากใครที่อยากเปลี่ยนนิสัยตัวเองเพียงแค่ 21 วันนี้ ร่างกายเราก็จะเคยชินกับระบบการนอนและการตื่น จนอาจทำให้เราไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกอีกต่อไป แถมยังได้ใช้เวลาชีวิตเพิ่มขึ้นระหว่างวันอีกด้วย 

3. ออกกำลังกายวันละ 30 นาที

ในตอนเริ่มต้นของการออกกำลังกายถือเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายมากๆ สำหรับคนที่เพิ่งจะเริ่ม เพราะอาจจะรู้สึกท้อ เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 

แต่หากเราออกกำลังกายเพียงวันละ 30 นาที ติดต่อกันตามทฤษฎี 21 วัน ในวันต่อๆ ไป อาการปวดเมื่อยของเราก็จะลดน้อยลงและรู้สึกสดชื่นขึ้นเมื่อได้ออกกำลังกาย อีกทั้งการออกกำลังกายจะช่วยทำให้สมองเราปลอดโปร่งได้อีกเช่นกัน บอกได้เลยว่าการออกกำลังกายเป็นการเปลี่ยนนิสัยตัวเองที่น่าลองมากๆ เลยทีเดียว 

4. ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาการขาดน้ำส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้มากกว่าที่คิด 

ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี ซึ่งการดื่มน้ำให้เป็นนิสัยสามารถเริ่มได้จากการพกขวดน้ำหรือแก้วน้ำไว้ใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน ในรถ หรือใกล้มือ เพื่อช่วยให้เราสามารถดื่มน้ำได้บ่อยขึ้นและติดเป็นนิสัยที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว 

ทานอาหารที่มีประโยชน์

5. ทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารมีบทบาทสำคัญในการสะท้อนถึงสุขภาพของเรา หากเราทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนแลพเพียงพอ ร่างกายของเราก็จะมีความแข็งแรงและมีพลังในการทำงานมากขึ้น 

หากใครที่ไม่ชอบทานผัก อาจลองปรับเปลี่ยนนิสัยการกินของตัวเองง่ายๆ โดยเริ่มจากการทานผักที่ไม่ขม หรือทานผักชิ้นเล็กๆ ที่ผสมในมื้ออาหาร รวมไปถึงการดื่มน้ำผักผสมผลไม้เพื่อช่วยให้สามารถทานผักได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 

เพียงแค่เราลองปรับเปลี่ยนนิสัยการกินของตัวเอง 21 วัน รับรองได้เลยว่าสุขภาพของเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัดแน่นอน 

ทฤษฎี 21 วัน - อ่านหนังสือวันละ 15 นาที

6. อ่านหนังสือวันละ 15 นาที

การอ่านหนังสืออาจเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับหลายคนและอาจทำให้รู้สึกง่วงนอนได้ แต่แท้จริงแล้วการอ่านหนังสือถือเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกสมาธิที่ดี ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้และความรู้รอบตัวได้ 

หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอ่านหนังสือประเภทไหน แนะนำให้เลองอ่านบทความออนไลน์ตามหัวข้อที่เราสนใจ หรือประเด็นข่าวสารที่น่าติดตาม การอ่านนอกจากจะช่วยเพิ่มสมาธิและการจดจ่อแล้ว ยังทำให้ทักษะในการสื่อสารของเราได้จากตัวอย่างการใช้ภาษาในบทความและหนังสือต่างๆ อีกด้วย

7. เริ่มเก็บเงินจริงจัง   

การออมเงินเป็นสิ่งที่เรามักถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แต่พอนานวันเข้าก็ลืมหรือขาดหายจากการออมเงินแบบจริงจังไป เรามาลองใช้ทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนนิสัยตัวเองในด้านการออมเงิน เพื่อให้เรามีวินัยในการออมเงินกันจริงจังอีกสักครั้ง 

เราสามารถเริ่มออมเงินได้จากการตั้งเป้าให้แน่นอนว่าแต่ละวันเราจะแบ่งเงินออมเป็นสัดส่วนเท่าไร อาจจะลองหยอดกระปุกทุกวัน หรืออาจใช้วิธีเปิดบัญชีแล้วโอนเงินเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ พอเมื่อถึง 21 วัน และเราได้เห็นยอดเงินเก็บที่เพิ่มขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้เรามีกำลังใจในการออมต่อไป และอาจพัฒนาเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคตที่มั่นคง

ทฤษฎี 21 วัน - เริ่มทำ Bullet Journal

8. เริ่มทำ Bullet Journal

การทำ Bullet Journal เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างสมาธิและการจดจ่อ คล้ายกับการอ่านหนังสือ อีกทั้งยังช่วยทำให้เราได้กลับมาโฟกัสและทบทวนชีวิตในแต่ละวัน ทั้งในเรื่องของความรู้สึก สิ่งที่เราทำสำเร็จหรือยังทำไม่ได้ รวมถึงการมองย้อนกลับไปยังสิ่งที่ดีและสิ่งที่เรายังสามารถพัฒนาได้

การบันทึกประจำวันเช่นนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง และหากเราลองเขียนอย่างต่อเนื่องตามทฤษฎี 21 วัน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตและพัฒนาตนเองในอีกรูปแบบได้เช่นกัน

9. ลงเรียนคอร์สที่สนใจ

ลงเรียนคอร์สที่เราสนใจเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้อย่างจริงจังมากขึ้น เพราะจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำและให้คำปรึกษาแก่เรา ไม่ว่าจะเป็นคอร์สทำอาหาร คอร์สศิลปะ คอร์สดนตรี คอร์สออกกำลัง คอร์สเพิ่มพูนทักษะที่เกี่ยวข้องการสายอาชีพเพื่อพัฒนาตนเองในการทำงาน หรือคอร์สการออมและการลงทุน 

ไม่ว่าเราจะสนใจเพิ่มพูนความรู้และทักษะแบบใดก็ตาม หากเราได้ลองเรียนรู้แบบจริงจังและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเปลี่ยนนิสัยตัวเองให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีคุณค่าต่อชีวิตของเราในระยะยาว

ทฤษฎี 21 วัน - เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

10. เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

การท้าทายตัวเองด้วยการลองทำสิ่งใหม่ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเลิกผัดวันประกันพรุ่ง! เพราะหากยังมัวแต่เลื่อนต่อไปเรื่อยๆ เราอาจไม่ได้เริ่มต้นหรือทำอะไรสำเร็จเลย 

ดังนั้นหากต้องการเปลี่ยนแปลงนิสัยของตัวเอง ลองใช้ทฤษฎี 21 วัน โดยเริ่มลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจอย่างจริงจัง เมื่อเราทำได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 21 วัน นิสัยใหม่ที่เราสร้างขึ้นก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา และช่วยให้เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ได้ในที่สุด 

11. เลิกนิสัยคิดลบ

การปรับเปลี่ยนความคิดอาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ไม่เกินความสามารถของเราแน่นอน หลายครั้งเรามักมองตัวเองในแง่ลบหรือมองสถานการณ์ต่างๆ อย่างไม่สร้างสรรค์ แต่หากลองเปลี่ยนมุมมอง โดยมองเรื่องแย่ๆ ให้เป็นโอกาสเรียนรู้ และขอบคุณ สิ่งดีๆ และสิ่งเล็กๆ ในแต่ละวัน จะช่วยให้เรามองเห็นความสุขจากรอบตัวได้ง่ายขึ้น 

การเปลี่ยนความคิดและนิสัยตัวเอง เริ่มได้จากการทำอย่างต่อเนื่องตามทฤษฎี 21 วัน เมื่อลองทำบ่อยๆ จะช่วยให้เราค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้น และมองชีวิตด้วยมุมมองที่สดใสกว่าเดิม

ทฤษฎี 21 วัน - เริ่มจีบคนที่เราชอบ

 

12. เริ่มจีบคนที่เราชอบ

การจีบคนที่เราชอบด้วยทฤษฎี 21 วัน เขาว่ากันว่าเวิร์คและได้ผลสุดๆ เพราะน้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน! เพราะความสม่ำเสมอและใส่ใจสามารถสร้างความประทับใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย พูดคุย ส่งแชทหากัน หรือแชร์เพลงให้กันในทุกๆ วัน การแสดงออกถึงความใส่ใจเหล่านี้จะช่วยให้เขาค่อยๆ รู้สึกผูกพัน 

หากเราลองทำติดต่อกัน 21 วัน และหยุดติดต่อในวันที่ 22 อาจเริ่มสงสัยและกลายเป็นฝ่ายคิดถึงเราจนต้องติดต่อกลับมาเอง เคล็ดลับสำคัญคือทำด้วยความจริงใจและอย่ากดดันเขามากเกินไป ความสม่ำเสมอและความเป็นตัวของตัวเองจะทำให้เขาแพ้ใจเราในที่สุด  

สรุป

การเริ่มเปลี่ยนนิสัยด้วยทฤษฎี 21 วัน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและท้าทายตนเองได้แบบไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย พักผ่อน รักษาสุขภาพ หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้พร้อมทั้งในชีวิตและการทำงาน หากทำต่อเนื่อง ความเปลี่ยนแปลงที่ดีจะตามมาแน่นอน 

Jobsdb มีบทความช่วยพัฒนาทักษะใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตนเอง เรียนรู้เทคโนโลยี หรือเตรียมตัวสำหรับงาน และช่วยเพิ่มความก้าวหน้าทางอาชีพ พร้อมรวบรวมงานหลากหลายที่ตรงกับทักษะและความต้องการ เพื่อเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพของคุณ

More from this category: การพัฒนาด้านอาชีพ

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา