รวม 25 AI Tools เครื่องมืออัจฉริยะ ตัวช่วยทำงาน ที่ชาวออฟฟิศควรรู้!

Key Takeaway

• AI หรือปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องจักรหรือซอฟต์แวร์สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้เหมือนมนุษย์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาและปรับปรุงการทำงานในชีวิตประจำวัน
• AI Tools ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การจัดการข้อมูล การสร้างไอเดียใหม่ และการประมวลผลที่รวดเร็ว ลดเวลาที่ต้องใช้กับงานซ้ำซ้อน
• AI ไม่ได้มาแทนที่คนแต่ช่วยเสริมความสามารถ หากใช้ให้เหมาะสมจะช่วยพัฒนาทักษะและเพิ่มคุณค่าในงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจของมนุษย์

AI Tools คือเครื่องมืออัจฉริยะที่ถูกพัฒนาโดย AI Engineer มาเพื่อช่วยในการทำงาน ทั้งการทุ่นแรง ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และยังช่วยกระตุ้นไอเดียใหม่ๆ ทำให้คุณประหยัดเวลาและทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม บทความนี้ได้รวบรวม 25 AI Tools สุดล้ำที่ชาวออฟฟิศควรรู้มาให้แล้ว มาดูกันว่ามีตัวไหนบ้างที่จะช่วยยกระดับการทำงานของคุณ!

1. ChatGPT

ChatGPT เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยตอบคำถาม แก้ปัญหา และสร้างเนื้อหาในหลายรูปแบบ เช่น การเขียนบทความ อีเมล หรือการสื่อสารในทีม สามารถประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในงานเอกสาร ช่วยสร้างเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์และปรับแต่งตามความต้องการ

ค่าใช้จ่าย: มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน (เริ่มต้นที่ $20/เดือน สำหรับเวอร์ชัน Pro)

เว็บไซต์: https://openai.com/chatgpt

2. Claude 

Claude เป็น AI ที่เชี่ยวชาญในการสนทนาและการเขียนเชิงสร้างสรรค์ สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ปรับปรุงเอกสาร และตอบคำถามได้ในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการใช้งานในทีมที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพในการทำงาน

• ค่าใช้จ่าย: ฟรีสำหรับการใช้งานพื้นฐาน มีแบบเสียเงินสำหรับการใช้งานที่สูงขึ้น
• เว็บไซต์: https://www.anthropic.com/index/claude

3. Perplexity

Perplexity เป็น AI ช่วยค้นหาข้อมูลที่แม่นยำและตอบคำถามจากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ ช่วยประหยัดเวลาในการค้นคว้าหรือทำความเข้าใจหัวข้อที่ซับซ้อน ทำให้สามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง

• ค่าใช้จ่าย: ฟรี
• เว็บไซต์: https://www.perplexity.ai

4. Copy.AI

Copy.AI เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างข้อความสำหรับงานครีเอทีฟ เช่น คำโฆษณา อีเมล หรือโพสต์โซเชียลมีเดีย ช่วยประหยัดเวลาในการคิดเนื้อหา เพิ่มความน่าสนใจ และช่วยให้เนื้อหาดูมีเอกลักษณ์ตรงตามความต้องการของผู้ใช้

• ค่าใช้จ่าย: มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน (เริ่มต้นที่ $36/เดือน)
• เว็บไซต์: https://www.copy.ai

5. YouChat

YouChat เป็นแชตบอต AI ที่ช่วยค้นหาและตอบคำถามในรูปแบบการสนทนา ใช้เป็นผู้ช่วยในการแก้ปัญหาและให้คำแนะนำแบบโต้ตอบ ช่วยให้การค้นหาข้อมูลและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว

• ค่าใช้จ่าย: ฟรี
• เว็บไซต์: https://you.com/chat

6. Prompt Lab AI 

Prompt Lab AI ช่วยปรับแต่งและออกแบบคำสั่ง (Prompts) สำหรับ AI Tools อื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ใช้งาน AI ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

• ค่าใช้จ่าย: ฟรี
• เว็บไซต์: https://promptlab.ai

7. Copyleaks

Copyleaks เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยตรวจสอบความซ้ำซ้อนของเนื้อหาในเอกสาร บทความ หรือคอนเทนต์ต่างๆ ช่วยให้การตรวจสอบคุณภาพงานเขียนมีประสิทธิภาพและลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์

• ค่าใช้จ่าย: มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน (เริ่มต้นที่ $9.16/เดือน)
• เว็บไซต์: https://copyleaks.com

8. Seapik AI

Seapik AI เป็นเครื่องมือช่วยสร้างภาพและกราฟิกอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับนักออกแบบที่ต้องการภาพประกอบที่มีคุณภาพสูง สามารถใช้งานได้ง่าย แม้ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกราฟิก

• ค่าใช้จ่าย: ฟรี
• เว็บไซต์: https://www.seapik.com

9. Jasper

Jasper เป็น AI Tool ที่เชี่ยวชาญในการเขียนคอนเทนต์คุณภาพสูง เช่น บล็อก โพสต์โซเชียล หรือข้อความโฆษณา ช่วยประหยัดเวลาและสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของแบรนด์

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $49/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.jasper.ai

10. Anyword

Anyword เป็น AI Tool ที่ช่วยวิเคราะห์และปรับข้อความโฆษณาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารการตลาดและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้า

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $79/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.anyword.com

11. Writesonic

Writesonic เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างบทความ โพสต์โซเชียล และคำโฆษณาในเวลาอันรวดเร็ว เหมาะสำหรับนักการตลาดหรือผู้ที่ต้องการคอนเทนต์คุณภาพสูงโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเนื้อหาเอง

• ค่าใช้จ่าย: มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน (เริ่มต้นที่ $19/เดือน)
• เว็บไซต์: https://writesonic.com

12. Google Bard

Google Bard เป็น AI จาก Google ที่สามารถตอบคำถามและสร้างเนื้อหาจากข้อมูลล่าสุดบนอินเทอร์เน็ต มีความสามารถในการให้ข้อมูลอัปเดตและช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ค่าใช้จ่าย: ฟรี
• เว็บไซต์: https://bard.google.com

13. Craftly

Craftly เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างเนื้อหาหลายประเภท เช่น บล็อก คำโฆษณา และคำอธิบายผลิตภัณฑ์ ช่วยประหยัดเวลาและสร้างข้อความที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับงานเขียนที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $29/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.craftly.ai

14. Surfer

Surfer เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับ SEO โดยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดและช่วยปรับปรุงบทความให้ติดอันดับในเครื่องมือค้นหา ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $49/เดือน
• เว็บไซต์: https://surferseo.com

15. Beautiful.ai

Beautiful.ai เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างงานนำเสนอแบบมืออาชีพ สามารถจัดการเลย์เอาต์และดีไซน์ได้อัตโนมัติ ทำให้ประหยัดเวลาในการออกแบบสไลด์และนำเสนองานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ค่าใช้จ่าย: ฟรีสำหรับฟีเจอร์พื้นฐาน มีแผน Pro ที่เริ่มต้นที่ $12/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.beautiful.ai

16. Grammarly

Grammarly เป็น AI ที่ช่วยตรวจสอบและแก้ไขไวยากรณ์ การสะกดคำ และการใช้ภาษาในงานเขียน ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของเอกสารหรือเนื้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อนำไปส่งต่อ

• ค่าใช้จ่าย: มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน (เริ่มต้นที่ $12/เดือน)
• เว็บไซต์: https://www.grammarly.com

17. Canva

Canva เป็นเครื่องมือ AI ช่วยออกแบบกราฟิกและสื่อที่ใช้งานง่าย สามารถสร้างโปสเตอร์ แบนเนอร์ และโพสต์โซเชียลได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องมีพื้นฐานด้านกราฟิก

• ค่าใช้จ่าย: ฟรีสำหรับแผนพื้นฐาน มีแผน Pro ที่เริ่มต้นที่ $12.99/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.canva.com

18. DALL.E 2

DALL.E 2 เป็น AI สำหรับสร้างภาพจากข้อความคำอธิบาย ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และสร้างภาพประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับงานออกแบบหรือโปรเจกต์สร้างสรรค์

• ค่าใช้จ่าย: ฟรีสำหรับการใช้งานจำกัด มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามการใช้งาน
• เว็บไซต์: https://openai.com/dall-e

19. Descript

Descript เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยแก้ไขเสียงและวิดีโอแบบครบวงจร มีฟีเจอร์ช่วยแปลงเสียงเป็นข้อความ ตัดต่อเสียง และแก้ไขวิดีโอได้ง่ายๆ ในที่เดียว รวมถึงยังมีฟีเจอร์ AI สำหรับการตัดต่ออัตโนมัติ

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $12/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.descript.com

20. Genei

Genei เป็น AI ช่วยสรุปเนื้อหาเอกสารหรือบทความยาวๆ เพื่อลดเวลาการอ่าน โดยสามารถดึงข้อมูลสำคัญออกมาอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับนักเรียน นักวิจัย หรือผู้ที่ต้องการประหยัดเวลา

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $9.99/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.genei.io

21. Growbots

Growbots เป็นเครื่องมือ AI ไว้ช่วยทำการตลาดแบบอัตโนมัติ เช่น การส่งอีเมลเพื่อหาลูกค้าเป้าหมาย ช่วยลดเวลาในการหาลูกค้าใหม่และเพิ่มโอกาสการขาย เหมาะสำหรับการทำงานด้านฝ่ายขาย

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $49/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.growbots.com

22. Synthesia

Synthesia เป็นเครื่องมือสำหรับสร้างวิดีโอที่มีตัวละคร AI พูดในรูปแบบต่างๆ เหมาะสำหรับการสร้างวิดีโอเทรนนิ่ง การนำเสนอ หรือวิดีโอสื่อการสอน

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $30/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.synthesia.io

23. Time Doctor

Time Doctor เป็นเครื่องมือ AI Tool ช่วยติดตามเวลาในการทำงานของทีมและตัวบุคคล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเวลาและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น

• ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $7/เดือน
• เว็บไซต์: https://www.timedoctor.com

24. Calendly

Calendly เป็น AI Tool ช่วยจัดตารางนัดหมายและประชุม ช่วยให้การจองเวลาทำงานร่วมกันเป็นเรื่องง่ายและลดปัญหาความซ้ำซ้อนในการจัดการปฏิทิน

• ค่าใช้จ่าย: ฟรีสำหรับแผนพื้นฐาน มีแผน Pro ที่เริ่มต้นที่ $8/เดือน
• เว็บไซต์: https://calendly.com

25. ProfilePicture.ai

ProfilePicture.ai เป็น AI ช่วยออกแบบรูปโปรไฟล์ที่ดูเป็นมืออาชีพ สามารถปรับแต่งให้เข้ากับภาพลักษณ์และแบรนด์ส่วนตัว เหมาะสำหรับการใช้งานบนแพลตฟอร์มโซเชียลหรือเว็บไซต์

• ค่าใช้จ่าย: ฟรีสำหรับฟีเจอร์พื้นฐาน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานขั้นสูง
• เว็บไซต์: https://www.profilepicture.ai

สรุป

บทความนี้ได้รวบรวม 25 AI Tools ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลายด้าน เช่น การเขียน การออกแบบ การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการเวลา ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน ประหยัดเวลา และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับชาวออฟฟิศที่ต้องการพัฒนาทักษะและประสิทธิภาพในงานของตน

แม้ AI อาจถูกมองว่าแย่งงานมนุษย์ แต่แท้จริงแล้วเป็นตัวช่วยที่ทรงพลัง หากเราใช้ร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น blockchain อย่างถูกวิธี จะช่วยยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะอาชีพที่ AI จะมาแทนมักเป็นงานที่ซ้ำซาก แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้คนพัฒนาทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญ หากคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ Jobsdb พร้อมช่วยค้นหางานที่ตอบโจทย์และให้คำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในสายงานของคุณ