Key Takeaway
อย่างที่ใครๆ ก็พูดกันว่า ‘การกระทำสำคัญกว่าคำพูด’ บางสิ่งบางอย่างจึงไม่จำเป็นต้องพูดออกมา เพียงแค่สัมผัสเล็กน้อยก็ทำให้บางคนผ่อนคลายจากความทุกข์ใจได้ มารู้จักศัพท์อย่างสกินชิพ (Skinship) ว่าคืออะไร ช่วยอัปความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ได้ในบทความนี้
สกินชิพ (Skinship) คือการสัมผัสทางร่างกายที่สร้างความรู้สึกดีและเสริมสร้างความผูกพันระหว่างกัน คำว่า ‘Skinship’ เป็นคำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ มาจากการผสมระหว่างคำว่า Skin (ผิวหนัง) และ Relationship (ความสัมพันธ์) ซึ่งเริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เดิมคำว่า Skinship หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า Wasei-eigo นั้น ใช้เฉพาะกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก แต่ปัจจุบันได้ขยายความหมายครอบคลุมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและคู่รักด้วย
การ Skinship เป็นการแสดงความรักผ่านการสัมผัสที่ก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แล้วการ Skinship มีอะไรบ้าง? สกินชิพเป็นการสัมผัสในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือ แตะไหล่ สัมผัสเบาๆ นวด กอด ลูบศีรษะ หรือจูบ ล้วนเป็นรูปแบบของ Skinship ที่ช่วยเสริมสร้างความรัก และความผูกพันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การศึกษาด้านประสาทวิทยาแสดงให้เห็นว่าเมื่อเกิดการสัมผัสระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแม่กับลูก เพื่อนกับเพื่อน หรือคู่รัก ร่างกายจะเกิดการตอบสนองผ่านระบบประสาทรับความรู้สึก หรือที่เรียกว่า Somatic Sensory System ซึ่งทำหน้าที่รับรู้และส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลาง จากนั้นสมองจะประมวลผลเพื่อประเมินว่าการสัมผัสนั้นปลอดภัยหรือไม่ หากสมองตีความว่าปลอดภัย ผู้ถูกสัมผัสจะเกิดความรู้สึกผ่อนคลายและมั่นคงทางอารมณ์
มีการวิจัยว่าการสกินชิพช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารเคมีสื่อประสาท โดยเฉพาะโดปามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ผลที่ตามมาคือความเครียดลดลง บรรเทาอาการซึมเศร้า และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ด้วยเหตุนี้ Skinship จึงเป็นการสื่อสารความรักผ่านภาษากายที่ทรงพลัง สามารถสร้างความอบอุ่นใจได้ไม่แพ้คำพูด และยังสามารถแสดงออกได้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
หากวันหนึ่งรู้สึกหมดไฟทำงาน การมีจิตวิทยาในการทำงานก็ช่วยให้หลุดพ้นจากความรู้สึกแย่ๆ แล้วปรับมุมมองให้คิดบวกมากขึ้นได้ และการสกินชิพ ก็มีส่วนช่วยปลอบประโลมใจและสร้างความอบอุ่นใจ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและมั่นคงขึ้นได้เมื่อเกิดความรู้สึกแย่ๆ เหล่านี้
ใครมีรักในออฟฟิศ อย่าลืมมอบความสบายใจให้แก่กันด้วยการสกินชิพ ซึ่งคือการสัมผัสทางร่างกายที่ช่วยปลอบประโลมใจในยามที่รู้สึกไม่สบายใจ โดยมีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่า การสัมผัสมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมจิตใจ โดยเฉพาะในทารกแรกเกิดที่ได้รับความอบอุ่นจากการสัมผัสของแม่ ซึ่งช่วยในการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และยังช่วยลดการร้องไห้ได้อีกด้วย
การสกินชิพ โดยเฉพาะการกอด มีผลดีต่อร่างกาย โดยจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและความรู้สึกปลอดภัย อีกทั้งยังส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ดังที่งานวิจัยจากนักจิตวิทยาและนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน สหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าการกอดเป็นรูปแบบการสัมผัสที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้การกอดยังช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดความดันโลหิต และส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้นอีกด้วย
หลายคนอาจมาถึงจุดที่ต้องเลือกระหว่างงานกับครอบครัว แต่จะดีกว่าถ้าเราสามารถชั่งน้ำหนักความสำคัญของทั้งสองอย่างได้เท่ากัน การสกินชิพ เช่น การกอด ซึ่งกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความผูกพันทั้งทางอารมณ์และสังคม อีกทั้งยังช่วยลดความวิตกกังวล ความกลัว และความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ในทางตรงกันข้ามหากร่างกายขาดการสัมผัส อาจเกิดภาวะ Touch Starvation หรือ Skin Hunger ซึ่งก่อให้เกิดความเครียด วิตกกังวล และภาวะหดหู่
เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะเช่นนี้จะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ความตึงของกล้ามเนื้อ และอัตราการหายใจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันและระบบย่อยอาหาร รวมถึงอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในระยะยาวอีกด้วย
ในชีวิตการทำงาน หากเจอเพื่อนร่วมงานที่ Toxic จะยิ่งทำให้เหนื่อยกับงานได้มากกว่าเดิม การมีเพื่อนร่วมงานที่ดี จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราทำงานต่อไปได้อย่างมีความสุข หากขาดการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง จะยิ่งทำให้เครียดและวิตกกังวลได้ง่าย
การ Skinship มีส่วนช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ เพราะช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนออกซิโตซิน ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะฮอร์โมนที่ส่งเสริมความผูกพันและเสริมความสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างบุคคล ทำให้การเข้าใจกันกับผู้อื่นเป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราจะเห็นได้ในบางวัฒนธรรมที่มีการใช้การสัมผัส เช่น การจับมือหรือการกอด เป็นการทักทายกันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ ซึ่งการสกินชิพในลักษณะนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เอื้อต่อการเปิดใจพูดคุย และนำไปสู่การสร้างความสนิทสนมได้อย่างรวดเร็ว
การสกินชิพมีผลต่อการทำงานของสมองโดยกระตุ้นการหลั่งสารโดปามีน ซึ่งช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและสงบ โดยสังเกตได้จากอัตราการเต้นของหัวใจที่ช้าลง การศึกษาคลื่นสมองด้วยเครื่อง PET Scan แสดงให้เห็นว่าในภาวะที่มีความเครียด การสกินชิพผ่านการจับมือ สามารถช่วยลดความถี่ของคลื่นสมองให้สงบลงได้
ผลการทดลองพบว่า การสัมผัสกับคนที่มีความรักต่อกันจะให้ผลที่ดีที่สุด แม้กระทั่งการสัมผัสกับคนแปลกหน้าก็ยังให้ผลในเชิงบวกที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้การสกินชิพยังมีส่วนช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นการนวดให้คนรัก การกอด หรือแม้แต่กิจกรรมการดูแลร่างกายอย่างการทำเล็บหรือการทำสปา ล้วนเป็นรูปแบบของการสกินชิพที่ช่วยสร้างความรู้สึกสงบและปลอดภัยให้กับร่างกายได้
แม้การ Skinship จะเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกที่ดีผ่านการสัมผัสระหว่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย เนื่องจากบางคนอาจรู้สึกไม่สบายใจกับการถูกสัมผัสตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือการถูกกอดในที่สาธารณะ การแสดงออกด้านการสัมผัสที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ได้ โดยบางคนอาจรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ หรือรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ชอบการสกินชิพ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศ
ดังนั้นการกำหนดขอบเขตที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ทราบถึงระดับการสัมผัสที่อีกฝ่ายยอมรับได้ รวมถึงควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของเวลาและสถานที่ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้การสกินชิพเป็นประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพและความสัมพันธ์ในระยะยาว จึงต้องเคารพความต้องการของผู้อื่นเสมอ แม้จะเป็นคนใกล้ชิดอย่างคู่รัก เพื่อน หรือครอบครัวก็ตาม
การสกินชิพ คือการสัมผัสทางร่างกายที่สร้างความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้ดี เป็นการสัมผัสในรูปแบบต่างๆ เช่น การจับมือ แตะไหล่ สัมผัสเบาๆ นวด กอด ลูบศีรษะ หรือจูบ ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารเคมี เช่น โดปามีนและเซโรโทนิน ทำให้ลดความเครียดและอาการซึมเศร้า อีกทั้งยังทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย
การสกินชิพ ช่วยปลอบใจในยามที่ไม่สบายใจ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันและทำให้รู้สึกปลอดภัย แต่ก่อนจะไป Skinship ใคร ต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายก่อน เพราะบางคนอาจรู้สึกไม่สบายใจกับการถูกสัมผัส จนทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย
มาสร้างความสัมพันธ์ดีๆ กับเพื่อนร่วมงาน ตามหาองค์กรที่เป็นมิตรต่อสุขภาพจิต สามารถหางานได้ที่ Jobsdb เว็บไซต์ช่วยหางานที่มีฟีเจอร์การค้นหางานตามทำเลที่ต้องการและการเปรียบเทียบเงินเดือน ช่วยให้คุณตามหางานที่ถูกใจได้เพียงไม่กี่คลิก