Key Takeaway
มิจฉาชีพออนไลน์เกลื่อนเมือง อยากซื้ออะไรต้องดูให้ชัวร์ เช็กให้ดีก่อนกดโอนเงิน เพราะเราอาจตกเป็นเหยื่อจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ตลอดเวลา ดังนั้น การรู้เท่าทันถึงวิธีของมิจฉาชีพ และตระหนักถึงการโกงก่อนกดโอนเงินทุกครั้ง จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก โดยบทความนี้จะมาแนะนำ 8 วิธีเช็กคนโกงง่ายๆ รู้เท่าทันเหลี่ยมมิจฉาชีพ ทำได้อย่างไร ไปดูกัน!
ในยุคที่การซื้อขายเป็นเรื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส การเช็กคนโกง และการเช็กเลขบัญชีคนโกง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และควรตระหนักถึงทุกครั้งก่อนกดโอนเงิน เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนโกง ลดโอกาสเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่มาหลอกเอาเงินเราไปแล้วไม่ส่งของได้ ป้องกันการสูญเสียเงินโดยใช่เหตุ และไม่ต้องมาหัวหมุนแจ้งความหลังจากโดนโกงให้เสียสุขภาพจิตอีกด้วย
ในปัจจุบัน วิธีการโกงมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น แค่การเช็กคนโกงผ่านรายชื่อมิจฉาชีพอาจไม่พอ เพราะมิจฉาชีพเริ่มใช้บัญชีม้ากันมากขึ้น
โดยบัญชีม้า คือบัญชีธนาคารที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อดำเนินการผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน หรือการหลอกลวงผู้อื่น โดยบัญชีเหล่านี้มักจะไม่ได้ใช้โดยเจ้าของบัญชีจริง แต่จะถูกใช้โดยมิจฉาชีพที่จ้างวานให้เปิดบัญชี หรือขโมยข้อมูลส่วนตัวเพื่อเปิดบัญชีออนไลน์
บัญชีม้าเป็นตัวการที่ทำให้การเช็กคนโกงผ่านรายชื่อมิจฉาชีพไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะมิจฉาชีพสามารถใช้ชื่อปลอม หรือข้อมูลที่ถูกขโมยมาเพื่อเปิดบัญชี แถมยังเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อน ทำให้ติดตาม และตรวจสอบได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้น การเช็กคนโกงแบบคร่าวๆ ทำได้ด้วยการให้ความสำคัญกับการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า หรือผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลการติดต่อของร้านค้า ดูรีวิว และคะแนนจากลูกค้าเก่าๆ และพิจารณานโยบายการคืนสินค้าว่ามีความชัดเจน และเป็นธรรมหรือไม่
เมื่อได้ทำความรู้จักกับกลโกงของมิจฉาชีพยุคใหม่กันไปแล้ว มาดู 8 วิธีเช็กคนโกง ร้านโกง เพจปลอม ดูได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้การซื้อของออนไลน์ปลอดภัย ได้สินค้าจริง ไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ดังนี้
วิธีเช็กคนโกงขั้นแรกก่อนซื้อสินค้า หรือบริการ ควรตรวจสอบชื่อเพจ และ URL ร้านค้าให้ถี่ถ้วนก่อนโอน โดยชื่อเพจ และ URL ของร้านค้าออนไลน์ต้องชัดเจน และสื่อถึงตัวตนของร้านค้านั้นๆ หากพบว่าชื่อเพจ หรือ URL ดูน่าสงสัย เช่น มีการใช้ชื่อที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้า หรือบริการ หรือมีการใช้อักขระพิเศษมากเกินไป ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพได้
นอกจากนี้ ควรระวังเรื่องเพจปลอมด้วย เพราะเพจปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้น มักจะมีชื่อคล้ายเพจจริง เพื่อสร้างความสับสนให้แก่ลูกค้า โดยมักจะมีอักษรพิเศษซ่อนอยู่ในชื่อเพื่อให้สังเกตเห็นได้ยาก เช่น เพจจริงชื่อ “Jobsdb” แต่อาจมีเพจปลอมใช้ชื่อ “Jobsdb.” เป็นต้น
วิธีเช็กคนโกงขั้นต่อมา เป็นวิธีที่ง่ายดาย และเชื่อถือได้ นั่นก็คือการเช็กเครื่องหมายยืนยันตัวตน (Verified Badge) ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าเพจนั้น เป็นเพจอย่างเป็นทางการของบุคคล หรือองค์กรที่มีชื่อเสียง หากเพจที่คุณกำลังสนใจไม่มีเครื่องหมายนี้ ให้ลูกค้าตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับเพจเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจกดโอนเงิน
การเช็กคนโกงด้วยการดูข้อมูลในหน้า About ของเพจ หรือหน้าร้านค้า เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า เช่น ประวัติความเป็นมา ที่อยู่ ข้อมูลการติดต่อ และนโยบายการคืนสินค้า ให้ดูว่าข้อมูลเหล่านี้ครบถ้วน เชื่อถือได้หรือไม่ หากร้านค้า หรือเพจมีข้อมูลในส่วนนี้ที่กำกวม ไม่ชัดเจน หรือไม่ใส่ข้อมูลในส่วนนี้ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าไม่มีความน่าเชื่อถือ
การดูรีวิวจากลูกค้าเก่าๆ เป็นตัวการันตีถึงความน่าเชื่อถือได้จริง การเช็กคนโกงทำได้โดยการอ่านรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อสินค้า หรือใช้บริการจากร้านค้านั้นมาก่อน เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้ดีขึ้น แถมยังเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้าอีกครั้งด้วย เพราะหากพบรีวิวในทางลบจำนวนมาก อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาของร้านค้านั้น
หลังจากตรวจสอบร้านค้ากันไปแล้ว มาดูว่าก่อนกดโอนเงินต้องดูอะไรบ้าง โดยการเช็กคนโกงผ่านตัวบัญชี ในขั้นแรกคือการเช็กข้อมูลบัญชีก่อนกดโอนเงิน ให้ตรวจเช็กว่าชื่อบัญชี และเลขบัญชีที่เราจะโอนไปนั้นตรงกับ รายชื่อห้ามโอนเงิน หรือเลขบัญชีคนโกงหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดปกติ เข้าข่ายคนโกง ให้หยุดทำรายการโอนเงิน หรือลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางร้านค้า หรือผู้ที่เราจะโอนเงินให้ทันที
การค้นหาข้อมูลเจ้าของบัญชีธนาคารที่ร้านค้าแจ้งไว้ เช่น ชื่อ-นามสกุล หรือเบอร์โทรศัพท์ ในอินเทอร์เน็ตอย่าง Google หรือ Facebook อาจช่วยให้ไปเจอรายชื่อห้ามโอนเงินได้ เป็นการช่วยประเมินความน่าเชื่อถือที่ทำได้ง่ายๆ แค่ไม่กี่คลิก และหากลองค้นหาแล้วไม่พบว่ามีประวัติการโกง ก็ถือว่าเป็นไฟเขียวให้เราโอนเงินได้
หลังจากที่ลองเช็กคนโกงผ่านตัวบัญชีแล้วพบว่าน่าสงสัยแล้ว รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างธนาคาร หรือตำรวจทันที เพื่อให้พวกเขาตรวจสอบ และระงับบัญชีรายชื่อห้ามโอนเงินทันที ป้องกันไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
เมื่อมิจฉาชีพมีวิธีโกงใหม่ๆ เราในฐานะผู้บริโภคเอง ก็มีวิธีป้องกันแบบใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะในตอนนี้มีเว็บไซต์เช็กประวัติ เช็กคนโกง ผ่านเว็บไซต์ได้แล้วที่ เช็กก่อน.com เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลของบัญชีที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการโกงมาไว้ในที่เดียว
เพียงกรอกเลขบัญชีที่น่าสงสัย เบอร์โทร หรือ URL ร้านค้า ก็ช่วยประเมินความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
แล้วในกรณีที่โดนหลอกไปแล้วต้องทำอย่างไร? มาดูกันว่าเราสามารถดำเนินการ เพื่อพยายามเรียกคืนเงิน และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคตอีกได้อย่างไรบ้าง โดยมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนแรกหลังจากโดนโกง ให้ติดต่อธนาคารต้นทาง โดยการโทรหาสาขาของธนาคารที่ใช้บริการทันที เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเกี่ยวกับการโอนเงินที่เกิดขึ้น โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเงิน วันที่ และเวลาที่โอน และข้อมูลของผู้รับเงิน หากยังทันท่วงที หรือการโอนเงินยังไม่สำเร็จ ธนาคารจะช่วยระงับการทำธุรกรรม หรือคืนเงินได้
จากนั้นให้เข้าแจ้งความทันที เพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับการถูกหลอกลวง โดยให้ไปที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน และกรอกแบบฟอร์มแจ้งความ โดยเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สำเนาใบโอนเงิน ข้อมูลบัญชีของผู้รับเงิน และหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วเจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูล และดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับคดีนี้
ขั้นตอนสุดท้าย ให้ติดต่อธนาคารปลายทางเกี่ยวกับการหลอกลวงที่เกิดขึ้น เพื่อขอให้ทางธนาคารตรวจสอบบัญชีของผู้รับเงิน ธนาคารปลายทางอาจมีวิธีการในการช่วยระงับบัญชี หรือคืนเงินให้ได้ ในกรณีที่มีหลักฐานเพียงพอเกี่ยวกับการโกงที่เกิดขึ้น
เพียงทำตามขั้นตอนการเช็กคนโกง และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า หรือเว็บไซต์ขายของที่บทความนี้ได้แนะนำไป เท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนโกงได้แล้ว แต่อย่าลืมว่ามิจฉาชีพมักมาในรูปแบบ และวิธีการที่แยบยล แปลกใหม่ขึ้นทุกวัน
ดังนั้นเราต้องมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับกลโกงให้มากขึ้น มีสติตื่นรู้ก่อนกดโอนเงินทุกครั้ง และหากโดนโกงขึ้นมา ให้รีบทำตามวิธีที่ทางบทความนี้ได้ให้ไป ก็อาจจะช่วยให้ได้เงินคืน หรือระงับการโอนเงินได้ทันท่วงทีนั่นเอง