บางคนพอได้ยินคำ Coaching ก็อาจจะรู้สึกไม่ค่อยชอบใจหรือใส่ใจคอนเทนต์สไตล์นี้มากนัก JobsDB เข้าใจถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะเราเชื่อว่าทุก ๆ คนย่อมอยากใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ โดยไม่อยากให้ใครมาชี้นำเราไปในทางใดทางหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิ์เลือกที่จะใช้ชีวิตภายใต้ปัจจัย เงื่อนไขและความสุขที่แตกต่างกัน ใครจะมา Coaching ได้ดี เท่าตัวเรา Coaching ตัวเอง
Coach ตัวเอง
ทุกคนย่อมรู้จักตัวเองดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมาย ความสุขในชีวิต ไปจนถึงโกลด์ต่าง ๆ ที่วางเอาไว้ เราเองคือคนที่รู้ว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ มีอุปสรรคอะไรบ้างที่รั้งหรือยึดเหนี่ยวชีวิตไว้ ต่อให้เรายึดแนวทางการ Coach ของคนอื่นที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาแล้ว นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า “สิ่งเหล่านั้นคือสูตรสำเร็จ” ทุกคนมีแนวทางชีวิตที่แตกต่างกัน
บทความนี้เลยจะขอพาทุกคนมาร่วม Coaching ตัวเองกันแบบสบาย ๆ เสมือนเป็นการตั้งเป้าหมายพัฒนาตัวเองไปด้วยกัน เพื่อเป็นคุณคนเดิมในเวอร์ชันที่ดีกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญของการตั้งเป้าหมาย คือการลงมือทำ ช่วงแรกอาจจะยากหน่อย ลองเริ่มจากการค่อย ๆ ปรับไปจนกลายเป็นนิสัยและวินัยที่มั่นคง แล้วความสำเร็จจะเป็นของเราในสักวันหนึ่ง
เริ่มกันที่ข้อแรก “อย่าผัดวันประกันพรุ่ง” ประโยคที่เหมือนจะได้ยินกันมาบ่อย แต่เชื่อว่าน้อยคนจะทำได้จริง เข้าใจว่าความขี้เกียจเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร แถมเข้ามาแล้วมักไม่ค่อยจะออกไป
เท่าที่เห็นจากกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัว และชีวิตการทำงาน วิถีผัดวันประกันพรุ่งเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนกลุ่มนี้เลือกที่จะไม่ทำ เพราะพวกเขาให้คุณค่ากับเวลา หรือ Time Value เป็นสำคัญ เข้าใจว่าช่วงแรกของการผัดงานเป็นสิ่งที่สบาย แต่สุดท้ายแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การตัดใจเผชิญหน้ากันตั้งแต่แรก ยิ่งทำให้เรามีเวลามากขึ้นในการจัดการหรือแก้ไขสิ่ง ๆ นั้น หากเรามาเร่งทำตอนถึงกำหนดส่งงาน คุณภาพของงานย่อมลดลงอย่างแน่นอน การลงมือทำในเวลาที่ต้องทำ คือหัวใจหลักสำคัญของการบริหารเวลาในชีวิต
เมื่อเราดำเนินชีวิตมาจนถึงวัยหนึ่ง เราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ทุกคนบนโลกกลม ๆ ใบนี้ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด ทุกความล้มเหลวคือบทเรียนและประสบการณ์สำคัญ ซึ่งตัวเราเองต้องรู้จักเรียนรู้เพื่อไม่ให้ผิดซ้ำ ๆ กับเรื่องดังกล่าวได้อีก และทุก ๆ ความผิดพลาด สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้ทุกคนหลงลืม นั่นก็คือ “ให้กำลังใจตัวเอง”
เป็นปกติของทุกข้อผิดพลาด ย่อมนำมาซึ่งความเสียใจ ไม่มีใครอยากล้มเหลวหรือดูเป็นคนขี้แพ้ในสายตาคนอื่น ล้มอย่างไรไม่สำคัญเท่าการลุกให้ไว แต่การจะยืนหยัดได้เข้มแข็งและแข็งแกร่งที่สุดนั้น กำลังใจต้องมาจากตัวของคุณเอง ต่อให้คนอื่นจะมองหรือว่าร้ายคุณอย่างไร สิ่งสำคัญคือคุณเองต้องเอาความคิดซ้ำเติมแย่ ๆ ออกไปให้ได้ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอดีตได้ มีแต่วันนี้และปัจจุบันให้แก้ไขเท่านั้น (ต่อให้โลกจะโบยตีคุณแค่ไหน คุณเองต้องโอบกอดตัวเองให้ได้มากที่สุด)
เข้าใจว่าวงการความขี้เกียจเข้าแล้วออกยากพอ ๆ กับการกินบุฟเฟ่ ใคร ๆ ก็อยากใช้ชีวิตสบาย วันหยุดก็อยากนอนไถมือถือไปเรื่อย ๆ บนเตียง ขี้เกียจวันนี้สบายวันนี้ เอาเข้าจริงการปล่อยให้ตัวเองได้ผ่อนคลายบ้างไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่อย่าเพลินกับความสบายจนกลายเป็นคนขี้เกียจ จนเสียการเสียงานนั่นก็ไม่ใช่สิ่งถูกต้อง
หลักการง่าย ๆ ของการขจัดความขี้เกียจ คือพยายามจัดสรรหรือแบ่งเวลา ดูว่าเรามีงานหรือมีอะไรที่ต้องจัดการบ้างในช่วงนี้ ให้เวลากับการเล่นโซเชียลมีเดียได้วันละกี่ชั่วโมง การมีตารางที่แน่ชัดจะช่วยให้คุณหักห้ามใจ ไม่เช่นนั้น ความบันเทิงต่าง ๆ จะดึงเวลาของสิ่งที่จำเป็นต้องทำออกไป อาจจะค่อย ๆ ปรับไปทีละนิด ลดเวลาการเล่นมือถือหรือดูสื่อออนไลน์ลง ตอบข้อความช้าลงก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร
พอพูดถึงเรื่องเป้าหมาย หลายคนอาจจะรู้สึกกดดัน เพราะไม่ได้มีอะไร Focus ที่ชัดเจน จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่โต ถึงขนาดต้องมีบ้าน มีคอนโดฯ หรือประสบความสำเร็จในอาชีพการงานจนได้สายสะพาย ซึ่งถ้าใครมีแพชชันกับสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องผิด
ลองหาเป้าหมายที่เป็นความสุขของคุณแล้วตั้งโกลด์ไว้ อาจจะเป็นเรื่องทำอาหารให้เก่งขึ้น ลดการใช้โซเชียลมีเดียเปลี่ยนมาอ่านหนังสือให้ได้เดือนละเล่ม หรือเพิ่มทักษะอะไรก็ตามปีละหนึ่งอย่าง จะอะไรก็ได้ ถึงจะเป็นก้าวเล็ก ๆ แต่ก็ขอให้เป็นเป้าหมายที่มีความสุข และทำให้คุณมีกำลังใจจะก้าวไปอย่างไม่กดดัน เพราะระหว่างทางก็มีค่าพอ ๆ กับปลายทาง
สิ่งสำคัญคือความมุ่งมั่น ยึดมั่นทำสิ่ง ๆ นั้นให้สำเร็จ เพราะนอกจากจะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว ในแง่ของความรู้สึกก็เป็นการเติมเต็มสีสันชีวิตของคุณเองได้อีกด้วย
ข้อสุดท้ายเป็นเรื่องของการเข้าใจถึงปัญหา คล้ายกับว่าปล่อยวางอย่างไรให้ถูกวิธี ก่อนอื่นเลยอยากให้ทุกคนมองว่า ปัญหาบนโลกนี้มีด้วยกันกว้าง ๆ สองรูปแบบ คือปัญหาที่แก้ได้และปัญหาที่แก้ไม่ได้
หากเป็นปัญหาที่แก้ได้ คุณก็แค่จัดการสิ่งที่ต้องทำไปตามลำดับขั้นตอน และสิ่งที่ควรจะเป็น สุดท้ายแล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรให้ถือว่าคุณทำดีที่สุดแล้ว และพยายามจำข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาเป็นบทเรียน ส่วนปัญหาที่แก้ไม่ได้นั้น เป็นเรื่องที่ต่อให้คุณพยายามแค่ไหน ผลลัพธ์และความรู้สึกต่าง ๆ ท้ายที่สุดแล้วอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง ให้คุณยอมรับอย่างเข้าใจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ทำใจ” อย่าแบกทุกเรื่องติดตัวไปโดยใช่เหตุ ละทิ้งได้ละทิ้ง ใจของคุณก็จะเบามากขึ้น ให้มองว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญเหมือนกันหมด เราทำได้ดีที่สุดแล้ว
จริง ๆ แล้วการ Coach ตัวเองก็เหมือนได้ทบทวนตัวเอง ว่าเรายังมีข้อผิดพลาดหรืออะไรต้องเรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนไหน มีอะไรที่เราหลงลืมไประหว่างทางหรือเปล่า ถือเป็นการพัฒนาตัวเองอย่างหนึ่ง เพื่อให้เราเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม อย่าให้เวลาหมุนไปโดยไม่ได้เรียนรู้อะไร มาอยู่บนโลกนี้ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มและจิตใจที่เข้มแข็งไปด้วยกัน
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลดี ๆ อัปเดตได้ที่ JobsDB แอปพลิเคชันหางานชั้นนำของไทย!