Key Takeaway
หลายคนคุ้นเคยกับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่สำหรับบางองค์กรหรือกลุ่มบริษัทที่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลนั้น มีเกณฑ์การยื่นภาษีที่แตกต่างจากนี้ มาทำความรู้จัก ภาษีนิติบุคคล คืออะไร ฐานภาษีในการคำนวณ พร้อมช่องทางการยื่นทั้งแบบไปยื่นเองและทางออนไลน์ ได้ในบทความนี้!
ภาษีนิติบุคคลหรือภาษีเงินได้นิติบุคคล คือภาษีที่เรียกเก็บจากบริษัทหรือองค์กรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ได้แก่ กลุ่มบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มูลนิธิ หรือสมาคมที่ประกอบกิจการและมีรายได้
ภาษีนิติบุคคลมีลักษณะสำคัญ คือเป็นภาษีที่จัดเก็บจากกำไรสุทธิของบริษัท คำนวณจากรายได้หักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ โดยอัตราภาษีปกติอยู่ที่ 20% ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ และมีรายจ่ายบางส่วนที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้
ภาษีนิติบุคคลมีระยะเวลาการยื่นประกอบด้วยการยื่นแบบครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ภายในเดือนสิงหาคม และการยื่นแบบประจำปี (ภ.ง.ด.50) ภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี
สำหรับผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีนิติบุคคล นอกเหนือจากบริษัทต่างๆ แล้ว ยังรวมถึงกลุ่มนิติบุคคลอื่นๆ ด้วย ดังนี้
นิติบุคคลที่ได้รับการยกเว้นภาษี แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ นิติบุคคลที่ไม่ต้องเสียภาษีโดยสถานะ เช่น หน่วยงานราชการไทย (กระทรวง ทบวง กรม) องค์การของรัฐบาล สหกรณ์ และนิติบุคคลอื่นๆ ที่จัดตั้งตามกฎหมายไทย
อีกกลุ่ม คือนิติบุคคลที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายพิเศษ ดังนี้
ตามประมวลรัษฎากร บริษัท และนิติบุคคล ต้องคำนวณภาษีเงินได้จากฐานภาษีที่แตกต่างกัน โดยแบ่งเป็นกรณีต่างๆ ดังนี้
กลุ่มที่ต้องจ่ายภาษีเงินได้จากกำไรสุทธิ คือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ กิจการที่ดำเนินการเป็นทางค้าหรือหากำไร และกิจการร่วมค้า
การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด. 51) มีหลักเกณฑ์ดังนี้
โดยมีการคำนวณภาษีง่ายๆ ดังนี้
การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด. 50) มีหลักเกณฑ์ดังนี้
โดยมีการคำนวณภาษีง่ายๆ ดังนี้
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีส่วนนี้ ได้แก่ กิจการขนส่งระหว่างประเทศของนิติบุคคลต่างประเทศ และมูลนิธิหรือสมาคมที่มีรายได้ โดยมีฐานภาษี ดังนี้
สำหรับการยื่นแบบ กิจการขนส่งควรยื่น ภ.ง.ด. 52 ภายใน 150 วันหลังสิ้นรอบบัญชี ส่วนมูลนิธิหรือสมาคมควรยื่น ภ.ง.ด. 55 ภายใน 150 วันหลังสิ้นรอบบัญชี พร้อมบัญชีรายได้ที่ผ่านการรับรอง
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีส่วนนี้ ได้แก่ นิติบุคคลต่างประเทศที่ไม่ได้ประกอบกิจการในไทยแต่ได้รับเงินได้จากไทย ซึ่งจะเสียภาษีโดยวิธีหัก ณ ที่จ่าย ถือเป็นการเสียภาษีเด็ดขาด จะมีเงินได้ที่ต้องหักภาษี คือเงินได้จากการทำงาน (ม.40(2)) ค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธิอื่นๆ (ม.40(3)) ดอกเบี้ย เงินปันผล ผลประโยชน์จากการลงทุน (ม.40(4)) ค่าเช่า (ม.40(5)) รวมถึงรายได้จากวิชาชีพอิสระ (ม.40(6))
โดยมีอัตราภาษี และการยื่นแบบ ดังนี้
ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีส่วนนี้ ได้แก่ นิติบุคคลที่จำหน่ายกำไรออกนอกประเทศ การจำหน่ายกำไร ที่มีการโอนกำไรไปชำระหนี้ หรือตั้งเป็นเจ้าหนี้ต่างประเทศ การขออนุญาตซื้อและโอนเงินตราต่างประเทศจากกำไร รวมถึงการกระทำอื่นๆ ที่มีผลเช่นเดียวกัน
การคำนวณภาษี จะมีอัตราภาษีอยู่ที่ 10% ของจำนวนเงินที่จำหน่าย ส่วนการยื่นแบบควรยื่น ภ.ง.ด. 54 ภายใน 7 วันนับจากสิ้นเดือนที่จำหน่ายกำไร ยื่นเฉพาะเมื่อมีการจำหน่ายกำไรออกนอกประเทศเท่านั้น
โดยการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล สามารถยื่นได้ทั้ง 2 ช่องทาง ทั้งการไปยื่นเองที่สรรพากรและการยื่นแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่จะช่วยให้ทุกขั้นตอนสะดวก รวดเร็ว และไม่ยุ่งยากอีกต่อไป
กรณียื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 ให้ยื่นแบบภายใน 2 เดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือน โดยนับตั้งแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี แต่ถ้าจะยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ให้ยื่นแบบภายใน 150 วัน โดยนับตั้งแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
หมายเหตุ! เพื่อความสะดวกปและรวดเร็ว กรณีการยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด. 50 ภ.ง.ด. 51 ภ.ง.ด. 53 และ ภ.ง.ด. 54 สามารถยื่นแบบผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้เลย
ต่อไปเป็นขั้นตอนการยื่นภาษีนิติบุคคลผ่านเว็บไซต์สรรพากร ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
กรณียื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 ให้ยื่นแบบภายใน 2 เดือน 8 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือน โดยนับตั้งแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี แต่ถ้าจะยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ให้ยื่นแบบภายใน 158 วัน โดยนับตั้งแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
ในส่วนของภาษีนิติบุคคลนั้น มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากมาย ที่จะช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้มากขึ้น ดังนี้
หากไม่ได้ยื่นภาษีนิติบุคคล หรือเลยกำหนดการยื่นไปแล้ว อาจมีโทษถึงขั้นปรับเงินเลยทีเดียว ไปดูกันว่า กรณีไหนต้องโดนลงโทษอะไรบ้าง
ภ.ง.ด. 51 คือการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในช่วงกลางปี หากไม่ได้ยื่น หรือมีการกระทำผิดอันใด จะมีบทลงโทษ ดังนี้
กรณีไม่ยื่นหรือยื่นช้า: จะต้องเสียเงินเพิ่ม 20% ของภาษีที่ต้องชำระ และปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย)
กรณีประมาณการกำไรผิดพลาด: ถ้าประมาณการขาดเกิน 25% ของกำไรสุทธิจริง จะต้องเสียเงินเพิ่ม 20% ของภาษีที่ชำระขาด ยกเว้นว่ามีเหตุอันสมควร
กรณียื่น ภ.ง.ด. 50 เมื่อสิ้นรอบบัญชี: ควรยื่นภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นรอบบัญชี ต้องมีผู้สอบบัญชีรับรองงบการเงิน แล้วนำภาษีที่จ่ายตาม ภ.ง.ด. 51 มาหักก่อนชำระส่วนที่เหลือ
ภ.ง.ด. 50 คือการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในช่วงปลายปี หากไม่ได้ยื่นหรือมีการกระทำผิดอันใด จะมีบทลงโทษ ดังนี้
กรณีไม่ชำระภาษีภายในกำหนด (150 วัน): จะต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน โดยจะนับเป็นรายเดือน (เศษเดือนนับเป็น 1 เดือน) ซึ่งจะคิดจากวันที่พ้นกำหนดถึงวันที่ชำระ และมีเงินเพิ่มสูงสุดไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม
กรณีไม่ยื่นแบบและไม่ยื่นบัญชี: จะถูกปรับไม่เกิน 4,000 บาท ตามมาตรา 35 โดยอ้างอิงตามมาตรา 17, 68 และ 69 แห่งประมวลรัษฎากร
ภาษีนิติบุคคลคือภาษีที่เรียกเก็บจากกำไรสุทธิของบริษัทหรือองค์กรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โดยคำนวณจากรายได้ หักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง อัตราภาษีปกติจะอยู่ที่ 20% ของกำไรสุทธิ และบางรายจ่ายสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วย
ภาษีนิติบุคคลมีการยื่น ทั้งแบบครึ่งปี (ภ.ง.ด. 51) ที่ต้องยื่นภายในเดือนสิงหาคม และแบบประจำปี (ภ.ง.ด. 50) ที่ต้องยื่นภายใน 150 วันหลังสิ้นรอบบัญชี สามารถยื่นได้ที่กรมสรรพากรหรือยื่นแบบออนไลน์ได้แล้ว เรียกได้ว่าสะดวก รวดเร็วมากๆ
มาสร้างรายได้พร้อมการงานที่มั่นคงได้ที่ Jobsdb ด้วยฟีเจอร์การค้นหางานได้ตามทำเลที่ต้องการ อยากจะทำอาชีพอะไร ตำแหน่งอะไร หรือเงินเดือนเท่าไร ที่นี่มีให้เลือกครบครัน อีกทั้งยังใช้งานสะดวกอีกด้วย