วิกฤต COVID-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาขณะนี้ ส่งผลต่อคนทำงานและผู้สมัครงานที่ได้รับผลกระทบทั้งทางด้านสุขภาพและการทำงาน ไม่ว่าสุขภาพกายที่มีความเสี่ยงจากการรับเชื้อไวรัสจากสถานที่ต่างๆ จนหลายๆบริษัทสั่งให้พนักงานทำงานแบบ Work from Home อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ในขณะที่อีกหลายๆคนก็ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นต้องหยุดงานหรือต้องออกจากงาน ส่งผลต่อทั้งเรื่องสุขภาพจิตและความเครียดที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี สิทธิจากประกันสังคมสามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวได้
สิทธิประกันสังคมในการช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มีอะไรบ้าง
โรคโควิด-19เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งเป็นไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎ เมื่อร่างกายได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่าตัวนี้แล้ว เชื้อจะแพร่ไปตามเยื่อบุที่คอ ระบบทางเดินหายใจ และปอดจากนั้นจะแพร่ขยายเชื้อในร่างกายให้มากขึ้นโดยจะส่งผลรุนแรงที่สุดเมื่อเชื้อไปฝังตัวที่ปอดและเกิดการทำลายเนื้อเยื่อของปอดมากขึ้น ระยะฟักตัวของโควิด-19 อยู่ที่ 2 วันถึง 27 วัน ในบางรายแม้จะมีเชื้ออยู่แต่กลับไม่แสดงอาการป่วยออกมาแต่อย่างใด แต่สำหรับคนที่มีอาการไอแห้ง มีไข้ เจ็บคอ และอันตรายที่สุดคือการหายใจไม่สะดวก
ผู้ที่มีความเสี่ยงในการติด COVID-19 มีดังนี้
ผู้ประกันตนที่มีอาการดังกล่าวลำบากสามารถเข้ารับการตรวจรักษา รวมถึงซักประวัติในโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามในการตรวจรักษาผู้ป่วยที่มีสิทธิประกันสังคมจะต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริงว่ามีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ มีญาติป่วยเป็นไข้หวัดหรือไม่ เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินอาการได้อย่างถูกต้อง สำหรับผู้ที่เข้าข่ายว่าติดไวรัสโคโรนาจะมีการส่งตรวจทางแล็ปเพื่อพิสูจน์ทราบอาการให้แน่ชัดโดยไม่ต้องจ่ายค่าตรวจรักษา หรือค่ายาแต่อย่างใด
หากผู้ประกันตนไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิในพื้นที่ได้ เช่น อาศัยอยู่ต่างจังหวัด สามารถเข้ารักษาได้ในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้หรือโรงพยาบาลรัฐได้ทุกแห่งตามระบบประกันสังคม จะสามารถเบิกจ่ายได้เป็นกรณีฉุกเฉินหรือฉุกเฉินสถานที่ได้ภายใน 72 ชั่วโมง
หากอาการไม่เข้าข่าย ไม่แนะนำให้ขอตรวจเองเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการรับเชื้อที่โรงพยาบาล
(27 เม.ย 2563) สำนักงานประกันสังคมได้มีมาตรการช่วยเหลือในการลดอัตราเก็บเงินสมทบดังนี้
ขยายระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบให้แก่นายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 งวดค่าจ้างเดือนมี.ค. เม.ย. พ.ค.63 ออกไปอีก 3 เดือน
หากมีนายจ้างได้หักเงินสมทบผู้ประกันตนงวดเดือนมีนาคม 2563 ในอัตราเดิม ร้อยละ 5 และนำส่งสำนักงานประกันสังคมแล้วนั้น ผู้ประกันตนที่ชำระเกินกลุ่มนี้ขอให้นายจ้างยื่นเรื่องขอรับเงินสมทบคืนส่วนที่ชำระเกินจากสำนักงาน เพื่อสำนักงานจะจ่ายเงินคืนผ่านทางนายจ้างเพื่อคืนเงินสมทบให้กับผู้ประกันตนต่อไป สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินสมทบคืน โดยจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร จังหวัด สาขา ที่ท่านสะดวก
1. กรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย
2. กรณีว่างงานจากการลาออก หรือถูกเลิกจ้าง
ทั้งนี้อัตราของค่าจ้างจะคิดจากฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ยังได้รับสิทธิ์รับเงินชดเชยจากประกันสังคมในฐานะผู้ว่างงาน ผ่านการ ลงทะเบียนผู้ว่างงาน ทั้งกรณีได้รับผลประทบจากโควิด-19 รวมถึงกรณีอื่นๆตามเงื่อนไขกำหนด
หมายเหตุ
โดยที่ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40 นั้น ไม่มีเงื่อนไขในการขอรับประโยชน์ในกรณีว่างงานจากสำนักงานประกันสังคม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 เห็นชอบให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40 ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการดูแลและเยียวยา แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ (ยกเว้นเกษตรกร) ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้ 5,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2563 ) สามารถลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือผ่านทางโครงการเราไม่ทิ้งกัน
สำหรับใครได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ หรือต้องเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นกับสถานการณ์ในการทำงาน ท่านสามารถใช้สิทธิ์จากประกันสังคมได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด jobsDB ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน
#คว้าโอกาสที่ใช่ให้ชีวิตได้เรียนรู้
#jobsDB
หางานได้ง่ายกว่าเดิมผ่าน application บนมือถือจากjobsDB
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android