สรุปมาให้แล้ว! วุฒิการศึกษาคืออะไร สำคัญต่อการสมัครงานมากแค่ไหน

สรุปมาให้แล้ว! วุฒิการศึกษาคืออะไร สำคัญต่อการสมัครงานมากแค่ไหน
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 26 November, 2024
Share

Key Takeaway

  • วุฒิการศึกษา เป็นเอกสารที่รับรองการสำเร็จการศึกษาออกโดยสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรอง ส่วน Transcript จะแสดงรายละเอียดผลการเรียนและเกรดเฉลี่ย แต่ใบเทียบวุฒิการศึกษา ใช้เทียบความเท่าเทียมของวุฒิการศึกษาจากต่างประเทศ ออกโดยกระทรวงศึกษาธิการ 
  • ระดับของวุฒิการศึกษา แบ่งเป็นประถมศึกษา (ป.6) มัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ปริญญาตรี (ป.ตรี) ปริญญาโท (ป.โท) และปริญญาเอก
  • วุฒิการศึกษาสำคัญในชีวิตการทำงาน เพราะใช้เป็นเกณฑ์สมัครงาน กำหนดเงินเดือนเริ่มต้น และแสดงความรู้ในสาขาวิชา ทั้งยังใช้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งและสอบเลื่อนระดับในราชการ สร้างโอกาสในการพัฒนาสายอาชีพอีกด้วย
  • ทางเลือกอื่นนอกจากวุฒิการศึกษา เช่น การฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้น การเรียนออนไลน์ การฝึกงาน ฝึกอาชีพ การเรียนเพื่อใบประกอบวิชาชีพ การสร้างผลงานส่วนตัว (Portfolio) การศึกษานอกระบบ (กศน.) การเทียบโอนประสบการณ์ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ในปัจจุบัน นอกจากยื่นเรซูเม่แล้ว แทบจะทุกสายงานจำเป็นต้องใช้วุฒิการศึกษาเพื่อที่สามารถเข้าไปทำงานได้ และเพื่อเป็นหลักฐานว่าเรามีประสบการณ์ในการเรียนด้านนั้นๆ จริงๆ แต่วุฒิการศึกษาจะมีกี่ระดับ สำคัญต่อการสมัครงานมากน้อยแค่ไหน แล้ววุฒิการศึกษากับ Transcript ต่างกันอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ!

ทำความรู้จัก วุฒิการศึกษา คืออะไร

ทำความรู้จัก วุฒิการศึกษา คืออะไร

วุฒิการศึกษาเป็นเอกสารสำคัญที่ออกโดยสถาบันการศึกษา เพื่อรับรองว่าบุคคลนั้นได้สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อนุปริญญา ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก 

เอกสารนี้มีความสำคัญในการใช้เป็นหลักฐานประกอบการสมัครงาน การศึกษาต่อ หรือการขอรับรองวิชาชีพต่างๆ โดยมีหลายรูปแบบ เช่น ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษา (High School Diploma) หรือปริญญาบัตรในระดับอุดมศึกษา (Degree Certificate) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันคุณวุฒิ และความรู้ความสามารถของผู้สำเร็จการศึกษานั่นเอง

พัฒนาการของวุฒิการศึกษาในประเทศไทย

พัฒนาการของวุฒิการศึกษาในประเทศไทย

ระบบวุฒิการศึกษาในประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงปฏิรูประบบการศึกษาให้ทันสมัยแบบตะวันตก จากเดิมที่การศึกษาจำกัดอยู่แค่ในวัดและวัง มาสู่การจัดตั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอย่างเป็นระบบ 

ในอดีตวุฒิการศึกษามีเพียงไม่กี่ระดับและจำกัดอยู่ในกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นให้ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงปริญญาเอก และเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างทั่วถึง 

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาหลักสูตรที่หลากหลาย รวมถึงการเทียบโอนวุฒิการศึกษาระหว่างประเทศ เพื่อรองรับการศึกษาและการทำงานในยุคโลกาภิวัตน์มากยิ่งขึ้น

ประเภทของวุฒิการศึกษาในระดับต่างๆ

เรามาทำความเข้าใจประเภทของวุฒิการศึกษาในระดับต่างๆ กันก่อนดีกว่า 

การศึกษาขั้นพื้นฐาน

การศึกษาขั้นพื้นฐานจะรวมระยะเวลาการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งหมด 12 ปี ดังนี้

ประถมศึกษา

  • วุฒิที่จะได้รับ: ประกาศนียบัตรประถมศึกษา (ป.6)
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 6 ปี 

มัธยมศึกษาตอนต้น

  • วุฒิที่จะได้รับ: ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 3 ปี 

มัธยมศึกษาตอนปลาย

  • วุฒิที่จะได้รับ: ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6)
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 3 ปี 

สายอาชีพ

  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
  • วุฒิที่จะได้รับ: ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 3 ปี 

ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)

  • วุฒิที่จะได้รับ: ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (Diploma) เทียบเท่าอนุปริญญา
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 2 ปี วุฒิ ปวส. คือวุฒิที่สามารถศึกษาต่อปริญญาตรีได้ บางมหาวิทยาลัยให้เทียบโอนหน่วยกิต เพื่อเรียนต่อโดยใช้เวลา 2 ปี 

อุดมศึกษา

ระดับปริญญาตรี (ป.ตรี)

  • วุฒิที่จะได้รับ: ปริญญาบัตร เช่น วิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) หรือศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) 
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 4 ปี (แล้วแต่คณะ)

ระดับปริญญาโท (ป.โท)

  • วุฒิที่จะได้รับ: ปริญญามหาบัณฑิต (เช่น วท.ม. หรือ ศศ.ม.) 
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 2 ปี 

ระดับปริญญาเอก 

  • วุฒิที่จะได้รับ: ปริญญาดุษฎีบัณฑิต (เช่น ปร.ด. หรือ Ph.D.)
  • ระยะเวลาในการศึกษา: ปกติใช้เวลาเรียน 3-5 ปี
วุฒิการศึกษากับ Transcript แตกต่างกันอย่างไร

วุฒิการศึกษากับ Transcript แตกต่างกันอย่างไร

วุฒิการศึกษา และ Transcript มีความแตกต่างกันในด้านรายละเอียดและการใช้งาน โดยวุฒิการศึกษาเป็นเอกสารที่รับรองการสำเร็จการศึกษา แสดงเพียงชื่อหลักสูตร ระดับการศึกษา และวันที่สำเร็จการศึกษา ส่วน Transcript หรือใบแสดงผลการเรียน จะมีรายละเอียดมากกว่า โดยแสดงรายวิชาที่เรียนทั้งหมด เกรดในแต่ละวิชา เกรดเฉลี่ยรวม และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาตลอดหลักสูตร 

เอกสารทั้งสองนี้มักใช้ควบคู่กันในการสมัครงานหรือศึกษาต่อ เพื่อให้ผู้รับสามารถประเมินทั้งระดับการศึกษาและความสามารถทางวิชาการของผู้สมัครได้ละเอียดมากขึ้น

วุฒิการศึกษา VS. ใบเทียบวุฒิการศึกษา

วุฒิการศึกษา VS. ใบเทียบวุฒิการศึกษา

วุฒิการศึกษาและใบเทียบวุฒิการศึกษาต่างกันในด้านผู้ออกเอกสารและวัตถุประสงค์ โดยวุฒิการศึกษาเป็นเอกสารที่ออกโดยสถาบันการศึกษาเพื่อรับรองการสำเร็จการศึกษาในระดับนั้นๆ 

ส่วนใบเทียบวุฒิการศึกษาเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานที่มีอำนาจในการรับรองและเทียบเคียงวุฒิจากต่างประเทศ หรือวุฒิที่ไม่ตรงตามมาตรฐานของประเทศ ให้เทียบเท่ากับระดับการศึกษาในระบบการศึกษาในประเทศ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาต่อหรือการประกอบอาชีพ

ความสำคัญของวุฒิการศึกษาต่อชีวิตการทำงาน

ในสังคมปัจจุบัน วุฒิการศึกษามีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาอาชีพและโอกาสในชีวิต โดยเป็นเกณฑ์คัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับการสมัครงาน กำหนดเงินเดือน และความก้าวหน้าในอาชีพ นอกจากนี้ยังเป็นใบเบิกทางสำหรับการศึกษาต่อ การขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือการทำงานในต่างประเทศ 

อย่างไรก็ตาม ในยุคดิจิทัลที่เน้นทักษะและประสบการณ์มากขึ้น วุฒิการศึกษาจึงเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งในการพัฒนาตัวเอง ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงาน

ข้อดี-ข้อเสียของระบบวุฒิการศึกษา

ระบบวุฒิการศึกษา หรือระบบการศึกษาในปัจจุบัน มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจน ดังนี้

ข้อดี

ระบบวุฒิการศึกษามีข้อดีหลายอย่างที่ส่งผลต่อการพัฒนา ทั้งระดับบุคคลและสังคม โดยเป็นมาตรฐานในการวัดและรับรองความรู้ความสามารถของผู้สำเร็จการศึกษา ช่วยให้องค์กรและสถาบันต่างๆ สามารถคัดกรองและจัดวางบุคลากรได้อย่างเหมาะสมตามคุณสมบัติ 

นอกจากนี้ยังเป็นแรงจูงใจให้บุคคลพัฒนาตัวเองผ่านการศึกษาสู่ระดับที่สูงขึ้น เปิดโอกาสในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสต่างๆ ในสังคม และยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศอย่างเป็นระบบอีกด้วย

ข้อเสีย

ระบบวุฒิการศึกษามีข้อจำกัดและข้อเสีย ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมหลายอย่าง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับวุฒิการศึกษามากเกินไปจนละเลยความสามารถและประสบการณ์จริง ทำให้เกิดค่านิยมการเรียนเพื่อวุฒิมากกว่าการเรียนเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ 

นอกจากนี้ยังสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคม เนื่องจากโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาระดับสูงไม่เท่าเทียมกัน ส่งผลให้ผู้ที่มีความสามารถแต่ขาดโอกาสทางการศึกษาเสียเปรียบในการประกอบอาชีพ อีกทั้งระบบวุฒิการศึกษายังไม่อาจสะท้อนความรู้ความสามารถที่แท้จริงได้ เพราะบางครั้งการได้วุฒิมาอาจไม่ได้หมายถึงการมีทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานจริงเสมอไป

วุฒิการศึกษากับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล

วุฒิการศึกษากับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล

เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นในยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาและระบบวุฒิการศึกษาอย่างชัดเจน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถ Upskill และเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนแบบเดิม ซึ่งก่อให้เกิดรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ ดังนี้

  • การเรียนออนไลน์แบบเต็มรูปแบบผ่านสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรอง
  • หลักสูตร MOOCs จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
  • การเรียนรู้แบบไมโครเครดิต (Micro-credentials)
  • การเรียนรู้แบบผสมผสาน (Hybrid Learning)
  • แพลตฟอร์มการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • การฝึกอบรมทักษะเฉพาะทางผ่านระบบออนไลน์

แนวโน้มในอนาคต ระบบวุฒิการศึกษาจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยอาจมีการยอมรับประกาศนียบัตรจากการเรียนออนไลน์ การสะสมหน่วยกิตจากหลายแหล่ง รวมถึงการให้ความสำคัญกับทักษะและความสามารถจริงมากกว่าวุฒิการศึกษาแบบเดิม อีกทั้งยังอาจเกิดรูปแบบการรับรองคุณวุฒิแบบใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น

ทางเลือกอื่นนอกเหนือจากวุฒิการศึกษาแบบเดิมๆ

ทางเลือกอื่นนอกเหนือจากวุฒิการศึกษาแบบเดิมๆ

ทักษะและประสบการณ์จริง สะท้อนความสามารถในการทำงานได้ดีกว่าวุฒิการศึกษา หลายองค์กรจึงให้ความสำคัญกับ ‘ทักษะที่จำเป็น’ (Essential Skills) เช่น การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร มากกว่าวุฒิการศึกษา โดยประสบการณ์ทำงานจริงจะช่วยพัฒนาทักษะที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ในห้องเรียน

ซึ่งการรับรองทักษะ และความสามารถรูปแบบอื่นมีหลายรูปแบบ ดังนี้

  • ใบรับรองวิชาชีพ (Professional Certification) ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  • การสอบมาตรฐานวิชาชีพต่างๆ เช่น CompTIA, Microsoft Certification สำหรับด้านไอที
  • Portfolio ผลงานที่แสดงถึงความสามารถจริง
  • การรับรองทักษะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น LinkedIn Skill Assessments

ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีหลายองค์กรที่มีแนวคิดการจ้างงานโดยไม่พิจารณาวุฒิการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง เช่น Google และ Apple ซึ่งไม่กำหนดวุฒิการศึกษาขั้นต่ำ แต่จะเน้นการทดสอบทักษะและความสามารถจริงในการคัดเลือก พิจารณาจากประสบการณ์ทำงาน ผลงาน และการทดสอบความสามารถ เพื่อให้โอกาสผู้ที่มีความสามารถแต่ขาดโอกาสทางการศึกษานั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการศึกษาในระบบอีกด้วย ดังนี้

  • การศึกษานอกระบบ (กศน.) มีความยืดหยุ่นด้านเวลาเรียนและสามารถเทียบโอนประสบการณ์ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการวุฒิการศึกษาแต่ไม่สามารถเรียนในระบบปกติได้ 
  • การเทียบโอนประสบการณ์ นำประสบการณ์ทำงานมาเทียบเป็นหน่วยกิต ช่วยลดระยะเวลาการศึกษา เหมาะกับผู้มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน
  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพเฉพาะทาง เช่น ใบประกอบวิชาชีพครู ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ ใบอนุญาตทนายความ ใบอนุญาตวิศวกร หรือใบอนุญาตนักบัญชี
  • หลักสูตรระยะสั้นเฉพาะทาง เช่น Bootcamp สำหรับสายงานเทคโนโลยี หลักสูตรฝึกอบรมวิชาชีพ และการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ

สรุป

วุฒิการศึกษามีความสำคัญในชีวิตการทำงาน เพราะเป็นเกณฑ์ในการรับสมัครงาน กำหนดเงินเดือน และพิจารณาเลื่อนตำแหน่งในราชการ ทั้งนี้ยังสร้างโอกาสในการพัฒนาสายอาชีพอีกด้วย ในสังคมไทย วุฒิการศึกษายังคงสำคัญในระบบราชการและองค์กรใหญ่ 

แต่ในภาคเอกชนและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเริ่มให้ความสำคัญกับทักษะและประสบการณ์มากขึ้น การมีวุฒิการศึกษาและทักษะควบคู่กันจะทำให้มีความได้เปรียบในตลาดแรงงาน และมีโอกาสประสบความสำเร็จในอาชีพมากขึ้น

หากพร้อมทำงาน มาฝากประวัติกับ Jobsdb เลย ที่นี่ช่วยให้การสมัครงานราบรื่น ด้วยฟีเจอร์ใช้งานนง่าย หางานตามทำเลและตำแหน่งที่ต้องการ พร้อมเทียบเงินเดือนที่อยากได้

อ่านเพิ่มเติม

สามารถเข้าไปดูบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ career-advice/category/first-job

More from this category: งานแรก

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สำรวจหัวข้อที่เกี่ยวข้อง

เลือกสิ่งที่สนใจเพื่อเรียกดูอาชีพที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา