Key Takeaway
สภาพสังคมในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้หลายคนมีอาการ Burn Out จนส่งผลต่อการทำงาน มาสร้างการคิดบวก ให้เราสามารถก้าวไปข้างหน้าแล้วตามให้ทันโลก! ด้วยการทำความรู้จัก Design Thinking หรือการคิดเชิงออกแบบว่าคืออะไร พร้อมศึกษาตัวอย่างธุรกิจ ที่นำแนวคิดนี้มาพัฒนาองค์กรให้ก้าวสู่โลกสมัยใหม่
Design Thinking หรือการคิดเชิงออกแบบ คือกระบวนการคิดรูปแบบหนึ่ง เป็นการพยายามทำความเข้าใจสมมติฐานที่เป็นสาเหตุของปัญหา เพื่อที่ต่อมาจะได้หาวิธีแก้ไขปัญหาได้ถูกจุด จนทำให้สามารถพัฒนาไปสู่แนวคิดใหม่ๆ ได้ โดยวิธีการคิดแบบนี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ด้วย ทำให้สามารถพัฒนาการทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
Design Thinking เป็นกระบวนการคิดเชิงออกแบบที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กระบวนการคิดนี้ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
ขั้นตอนแรก ให้เริ่มจากการทำความเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งก่อน โดยเน้นการเข้าใจผู้ใช้หรือกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ความต้องการและสภาพแวดล้อม เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด กระบวนการนี้ยังรวมถึงการตั้งคำถาม สร้างสมมติฐาน เพื่อกระตุ้นความคิดในเชิงสร้างสรรค์ จนสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ จนทำให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและตรงประเด็น
ต่อมาเป็นการกำหนดปัญหาให้ชัดเจน ขั้นตอนนี้เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อระบุปัญหาที่แท้จริง กำหนดขอบเขตและทิศทางการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน เพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ
จากนั้นเริ่มระดมความคิด นำเสนอ และรวบรวมแนวคิดที่หลากหลายในการแก้ไขปัญหา โดยไม่จำกัดกรอบความคิด เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่กว้างสำหรับการวิเคราะห์ และสรุปผลต่อไป นอกจากนี้การระดมความคิดยังช่วยให้มองเห็นมุมมองและปัญหาที่หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย
มาถึงขั้นตอนการสร้างต้นแบบจำลอง ซึ่งเป็นการออกแบบและสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ หรือนวัตกรรม ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ได้วางแผนไว้ เพื่อนำไปใช้ในการทดสอบและใช้ต่อในชีวิตจริง ซึ่งเป็นการลงมือปฏิบัติตามแนวคิดที่ได้กำหนดไว้นั่นเอง
ต่อไปเป็นการทดสอบปัญหา โดยเป็นการนำต้นแบบหรือแนวทางการแก้ไขปัญหามาทดลองใช้จริง เพื่อประเมินประสิทธิภาพ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาต่อไปในอนาคต
กระบวนการคิดแบบ Design Thinking มีความสำคัญต่อการแก้ปัญหา และการพัฒนาองค์กร ดังนี้
โดยปกติเราจะมีแนวทางการแก้ปัญหาที่ไม่เป็นระบบและไม่ผ่านการคิดให้รอบด้านเท่าที่ควร แต่กระบวนการคิดแบบ Design Thinking จะมาช่วยทำให้เกิดการวิเคราะห์ปัญหาอย่างรอบคอบ และเป็นลำดับขั้นตอนมากขึ้น ทำให้สามารถเข้าใจปัญหาได้อย่างลึกซึ้ง และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
กระบวนการคิดแบบ Design Thinking อยู่บนพื้นฐานของการคิดที่หลากหลาย จึงมีการระดมความคิดและแชร์ไอเดียต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เกิดมุมมองที่หลากหลายมุมมอง นำไปสู่ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
กระบวนการคิดแบบ Design Thinking สร้างทางเลือกมากมาย หลากหลายมุมมอง ทำให้เกิดการวิเคราะห์ตัวเลือกเหล่านี้ จึงช่วยให้สามารถเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดได้นั่นเอง
กระบวนการคิดแบบ Design Thinking ช่วยสร้างแนวคิดแบบ Creative Thinking ได้ เพราะการฝึกคิดหลากหลายรูปแบบ หลายวิธีการ หลายมุมมอง จะช่วยพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ได้ดี แม้จะเป็นความคิดแปลกๆ แต่ก็เป็นเรื่องราวใหม่ๆ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการแก้ปัญหาและการบริหารจัดการต่อไปในอนาคต
กระบวนการคิดแบบ Design Thinking ช่วยเสริมสร้างการคิดอย่างเป็นระบบขององค์กรได้ เพราะเมื่อบุคลากรได้รับการฝึกให้คิดอย่างเป็นระบบ จะส่งผลให้องค์กรมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเพิ่มศักยภาพทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กรได้มากขึ้น
เราอาจยังไม่เห็นภาพว่าจะนำกระบวนการคิดแบบ Design Thinking มาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไร ต่อไปมาดูตัวอย่างธุรกิจแบรนด์ดัง ที่นำหลัก Design Thinking มาใช้ให้เกิดประโยชน์
Netflix เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการใช้ Design Thinking ในการพัฒนาธุรกิจ โดยเน้นเข้าใจในความต้องการ ปัญหา และความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งนำไปสู่การสร้าง Business Model ที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน
Reed Hastings ผู้ก่อตั้ง Netflix เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ปัญหาในการเช่าวิดีโอแบบเดิม เช่น ข้อจำกัดด้านระยะเวลาการเช่า ราคา และค่าปรับ ซึ่งเป็นปัญหาร่วมกันของผู้บริโภคหลายคน การเข้าใจปัญหาเหล่านี้จึงทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
นอกจากนี้ Netflix ยังใช้กลยุทธ์การทดสอบตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มให้บริการสตรีมวิดีโอแก่ผู้ใช้ เพื่อทดลองและสร้างความคุ้นเคย มีการปรับปรุงและพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 10 ปี การทดสอบและการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งนี้ ส่งผลให้บริการของ Netflix เติบโตอย่างก้าวกระโดด และกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์
Airbnb เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้ Design Thinking ในการแก้ปัญหาธุรกิจ โดยเมื่อเริ่มต้นกิจการ บริษัทประสบปัญหายอดจองที่พักต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ธุรกิจเสี่ยงไปไม่รอด ทีมผู้ก่อตั้งจึงตัดสินใจใช้หลักการ Design Thinking ด้วยการเข้าไปทำความเข้าใจมุมมองของลูกค้า จึงค้นพบว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ราคาหรือรูปแบบธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของ ‘รูปภาพ’ ที่ไม่น่าดึงดูดใจเท่าที่ควร
จากสมมติฐานว่า ‘รูปไม่สวยทำให้คนไม่จองเข้าพัก’ ทีม Airbnb จึงออกไปถ่ายภาพที่พักใหม่ให้สวยงามและน่าสนใจมากขึ้น จากนั้นนำมาทดลองใช้บนเว็บไซต์ ผลปรากฏว่ายอดจองที่พักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของ Design Thinking ที่เน้นการเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของผู้ใช้งานและสร้างวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ โดยไม่ได้เป็นอะไรที่ซับซ้อน เป็นเพียงการปรับปรุงคุณภาพของรูปภาพ แต่เพราะเป็นการแก้ไข ‘อย่างถูกจุด’ ผ่านการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง จึงสามารถฟื้นธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
H&M เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ Design Thinking เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในยุค New Normal ที่การซื้อขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทได้ปรับตัวโดยเพิ่มสินค้าในช่องทางออนไลน์ โดยมีสินค้ามากกว่าครึ่งที่จำหน่ายเฉพาะบนเว็บไซต์
การเติบโตของยอดขายออนไลน์นำมาสู่ความท้าทายด้านการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น H&M จึงใช้กระบวนการ Design Thinking เพื่อแก้ปัญหานี้ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและความต้องการของลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผลลัพธ์คือการพัฒนา ‘บรรจุภัณฑ์ไร้พลาสติก’ (Plastic-free Packaging)
นวัตกรรมนี้ช่วยลดการสร้างขยะที่ย่อยสลายยากทั่วโลก สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ารักษ์โลก ลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ และเพิ่มกำไรธุรกิจ โดยใช้ Design Thinking แก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ คำนึงถึงพฤติกรรมมนุษย์และสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
Design Thinking คือกระบวนการคิดที่เข้าใจสาเหตุของปัญหาเพื่อแก้ไขได้ตรงจุด และพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ ช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มองปัญหาในหลายมิติ ค้นพบทางเลือกหลากหลายและมีประสิทธิภาพ การระดมความคิดช่วยเลือกวิธีที่ดีที่สุดในแต่ละสถานการณ์ มีประโยชน์ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร
นอกจากนี้ ยังเป็นการฝึกความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างนวัตกรรมและกระบวนการใหม่ๆ ช่วยพัฒนาบุคลากรและองค์กรให้สามารถแข่งขันและปรับตัวในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
มาหางานออนไลน์ และองค์กรที่ส่งเสริม Design Thinking ได้ที่ Jobsdb เว็บไซต์ที่มีฟีเจอร์หางานได้ตามทำเลที่ต้องการ ตำแหน่งที่อยากทำ และเงินเดือนที่ถูกใจ ช่วยให้การหางานสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น