หากพูดถึงคำว่า “เป้าหมาย” แต่ละคนคงให้นิยามที่แตกต่างกัน บ้างก็เป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน สุขภาพกายและใจที่แข็งแรง การอยู่บนโลกนี้ด้วยชีวิตที่ยืนยาว ไปจนถึงเรื่องทางใจ ได้เจอรักแท้ หรืออาจจะเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ ประสบการณ์ชีวิต ไปเที่ยวรอบโลก ทุกสิ่งที่เอ่ยมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทุกคนปักธงในใจได้แบบไม่มีผิดถูก รวมถึงไม่มีใครควรไปวิจารณ์การตั้งเป้าหมายของใครว่าแย่หรือไม่ดีด้วย อย่าลืมว่าทุกคนเลือกที่จะมีความสุขและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน
ขึ้นชื่อว่าเป้าหมายจะอยู่ในรูปแบบไหน เป็นเรื่องอะไร JobsDB ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ ด้วยการเอาทริกอย่างการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาฝากกัน รับรองว่าปรับใช้ได้ในทุกเส้นทางของการทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ
เชื่อว่าบางคนอาจจะงง ๆ ว่า กระบวนการคิดเชิงออกแบบ Design Thinking เกี่ยวอะไรกับการใช้ชีวิต หรือจะช่วยให้เราเดินไปถึงเป้าหมายได้อย่างไร จริง ๆ แล้วหลักนี้อยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด บางคนอาจจะใช้อยู่แล้วแต่ไม่รู้ตัว ทีนี้มาจัดเรียงและทำความเข้าใจ เพื่อใช้ Design Thinking อย่างเป็นระบบกันดีกว่า
Design Thinking คือกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ไขปัญหาหรือทำสิ่งนั้นให้ตอบโจทย์มากที่สุด โดยใช้วิธีการที่หลากหลาย ด้วยการเลือกเอาวิธีที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดกับโจทย์นั้น ๆ โดยสามารถพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ ได้ตลอด เพื่อสร้างผลลัพธ์ในอนาคตที่เป็นรูปธรรม และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงสร้างสรรค์ให้เกิดนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์อีกด้วย
การเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งจากกระบวนการคิดเชิงออกแบบ Design Thinking ย่อมช่วยให้เราเข้าใจต้นตอของปัญหาและลงมือแก้ไขได้อย่างถูกต้อง และเป็นลำดับขั้นตอน ได้เห็นถึงภาพรวมว่าส่วนไหนต้องรีบแก้ไขก่อน หรืออะไรที่ไม่ร้ายแรงยังพอรอได้ ทำให้แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถี่ถ้วนและรอบด้านแบบมองทุกมุม
กระบวนการคิดเหล่านี้จึงนำมาใช้กับการวางเป้าหมายในชีวิตได้อย่างไร้ข้อกังขา ทุกเป้าหมายย่อมมีวิถีทาง ขั้นตอน คีย์ลัด ทางตรงทางอ้อม เพื่อให้เราเดินไปถึงเส้นชัยได้อย่างที่หวังไว้
เข้าใจทฤษฎีและความสำคัญของกระบวนการคิดเชิงออกแบบ Design Thinking กันไปแล้ว ทีนี้เราลองมาดูกันว่า แนวคิดนี้จะนำมาประยุกต์กับการไปให้ถึงเป้าหมายของคุณได้อย่างไรบ้าง รับรองว่าช่วยให้เห็นภาพ และนำไปปฏิบัติได้แน่นอน
เพราะความเข้าใจเป็นพื้นฐานสำคัญของทุกการเริ่มต้น ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นกับอะไรก็ตาม จะงาน ความรัก ความสัมพันธ์ การเรียนรู้ การทำความรู้จัก ไปจนถึงการวางเป้าหมายของชีวิต อย่างแรกเราควรตกผลึกความต้องการในใจเราให้ชัดเจน ว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไร อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณมีพลังขับเคลื่อนไปใช้ชีวิตต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอยากที่บอกไปไม่ต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แค่มีค่าทางใจก็เป็นเป้าหมายสำหรับคุณได้
แน่นอนว่าไม่มีใครตอบคำถามเหล่านี้ได้เท่าตัวคุณเอง ความเข้าใจอาจจะเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถาม ลองสมมติเหตุการณ์ขึ้นมาก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจจะนำไปสู่คำตอบของการเริ่มต้นในครั้งนี้ก็เป็นได้
เมื่อเข้าใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการกำหนดให้ชัดเจนว่า เส้นชัยที่คุณกำลังจะเดินไปนั้น ปลายทางจะเจอกับอะไรที่ล้ำค่า ซึ่งการจะกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนได้นั้น ต้องเริ่มเก็บข้อมูลความต้องการของตัวเองอย่างละเอียด อาจจะใช้เวลามากหน่อยก็ไม่เป็นไร ดีกว่าสุดท้ายแล้ว เลือกสิ่งที่ไม่ตรงกับความต้องการมาปักธง ซึ่งอาจจะทำให้ระหว่างทางถอดใจได้ง่าย หรือพอไปถึงปลายทางแล้วกลับไม่ได้รู้สึกมีความสุขอย่างที่คิด แนะนำให้ค่อย ๆ เก็บข้อมูล ให้เวลาตัวเอง ทบทวนเยอะ ๆ แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาประมวลอย่างรอบด้าน
เมื่อได้เป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ก็ถึงเวลาของการหาวิธีที่จะไปให้ถึงดวงดาวแห่งเส้นชัย ซึ่งช่วงนี้อาจจะมาจากกรอบประสบการณ์ของตัวเอง ดูว่าส่วนไหนที่ต้อง push ต้องเติมทักษะบางอย่างหรือปรับจุดอ่อนที่มีให้กลายเป็นจุดแข็ง เพื่อไปให้ถึงเส้นชัยตรงกับเป้าหมายที่วางเอาไว้ หรือจะลองปรึกษาผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญว่ามีทางลัดหรือเทคนิคอะไรแนะนำหรือไม่ เพื่อจะได้มองปัญหาได้อย่างรอบด้านและละเอียดขึ้น บางทีการเดินตามรอยเท้าคนอื่นบ้าง ก็อาจจะพาคุณไปยังเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แบบลดแรงปะทะลงไปได้
การเดินทางไปยังจุดหมายของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนใช้เวลาไม่นาน บางคนใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อไปมุ่งสู่เป้าหมายในชีวิต ยิ่งถ้าเป็นการเดินทางครั้งใหญ่ครั้งสำคัญ คุณเองจะต้องเลือกเส้นทางที่จะไปให้ชัดเจน แน่นอนว่าแต่ละเส้นทางย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน บางเส้นทางขรุขระ มีความขวากหนามเยอะแต่ถึงเป้าหมายได้เร็ว บางเส้นทางอ้อมหน่อยแต่สบายใจไม่กดดัน อยู่ที่ว่าคุณชอบแบบไหน โดยที่ระหว่างนั้นต้องพิจารณาถึงวิธีการแก้ไขในสิ่งที่อาจจะเจอระหว่างทางด้วย แล้วอย่าลืมว่าเรื่องบางเรื่องก็มักจะเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดคิด เตรียมรับมือให้ได้มากที่สุดน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ผ่านขั้นตอนการคิดแล้วคิดอีกกันไปแล้ว ทีนี้ถึงเวลาลงสนามจริงกันสักที ด้วยการลองไปตามเป้าหมายแบบ Prototype ที่วางเอาไว้ในข้อ 4 โดยระหว่างทางที่ก้าวไป ต้องพิจารณาด้วยว่าปัจจัยต่าง ๆ เป็นไปตามที่เราวางแผนหรือตั้งใจเอาไว้ไหม ใช่ไม่ใช่อย่างไรอย่าลืมนำมาทบทวนแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ก่อนนำไปใช้จริงอีกครั้ง อย่ากลัวที่จะผิดพลาด ล้มบ้าง พักบ้าง ก็ให้โอกาสตัวเองและให้อภัยตัวเองให้ได้ เหมือนที่เราพร้อมที่จะให้อภัยคนอื่นอยู่เสมอ
กระบวนการคิดแบบ Design thinking ดีตรงที่ไม่ได้มีสูตรสำเร็จอะไรตายตัว คุณไม่จำเป็นต้องยึดตามแบบแผนหรือวางเป้าหมายเหมือนใคร ทุกคนมีสิทธิ์เลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง จะใช้เวลาเดินไปถึงเป้าหมายช้าหรือนานไม่สำคัญเท่าระหว่างทาง เราได้เรียนรู้อะไรจากตรงนั้น อย่างน้อยการได้ตั้งต้นหาเป้าหมายจากแนวคิดนี้ ก็ทำให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้ว่าอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร ไม่ชอบอะไร ความสุขของเราอยู่ตรงไหน
คุณอาจเลือกหยิบสิ่งที่พอทำได้ที่จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นมีความสุขขึ้นมาทำก่อนก็ได้ เพื่อเป็นการทดลองว่าไอเดียนี้คุณชอบจริง ๆ หรือเปล่า และเป็นสิ่งที่เหมาะกับตัวคุณจริง ๆ ไหม ถ้าไม่ใช่ก็แค่เริ่มใหม่ แค่นั้นเอง บางครั้งการสิ่งที่ไม่ชอบก็เป็นคุณค่าอย่างหนึ่งพอ ๆ กับการเจอว่าชอบอะไร
ค้นหางานที่ใช่ ตอบโจทย์ชีวิตและเป้าหมายชีวิตที่มีความสุข ผ่านแอปพลิเคชัน JobsDB แอปหางานที่จะทำให้การหางานที่ใช่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับคุณอีกต่อไป