Resume กับ Portfolio ต่างกันอย่างไร เช็กให้ชัวร์ก่อนส่งอีเมลPortfolio

Resume กับ Portfolio ต่างกันอย่างไร เช็กให้ชัวร์ก่อนส่งอีเมลPortfolio
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 20 May, 2024
Share

เรื่องที่ต้องรู้! Resume กับ Portfolio ต่างกันอย่างไร?

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่กำลังจะเริ่มต้นสมัครงานใหม่ หรือเหล่าน้อง ๆ First Jobber กำลังสงสัยว่า Resume ต่างจาก Portfolio อย่างไร?” หรือ “Portfolio กับ Resume เหมือนกันไหม ใช้แทนกันได้หรือเปล่า?” เพราะ Resume และ Portfolio ต่างเป็นเอกสารที่ใช้ในการแสดงทักษะ ประสบการณ์ ผลงาน และความสามารถเหมือนกัน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก ทำเอาบางคนส่งผิดส่งถูกไปหลายรอบเลยทีเดียว

ใครที่กำลังกังวลในเรื่องนี้อยู่สามารถวางใจได้เลย เพราะบทความนี้จะพาคุณมาคลายข้อสงสัยและหาคำตอบว่า Resume คืออะไร?  Portfolio คืออะไร? และ Resume ต่างจาก Portfolio อย่างไร? เมื่ออ่านจบแล้ว คุณสามารถแยกออกได้ทันทีว่าแต่ละอย่างหน้าตาแบบไหน ต้องใส่ข้อมูลอะไรบ้าง รับรองว่าส่งไปสมัครงานที่ไหนก็มีลุ้น! เพราะดูเป็นมืออาชีพและพร้อมทำงานสุด ๆ !

Resume คืออะไร?

Resume คือเอกสารที่ประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัว, ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงานหรือประสบการณ์การทำงาน, ทักษะที่คุณมี, กิจกรรมที่คุณเคยเข้าร่วม, รางวัลและความสำเร็จที่คุณได้รับ และวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายในการทำงาน ซึ่งเราจะใส่ข้อมูลลงไปแบบสั้น ๆ กระชับ ไม่ยืดเยื้อ เมื่อ HR หรือบริษัทได้อ่าน Resume ของคุณแล้ว จะรู้ว่าคุณคือใคร เคยทำอะไรมาบ้าง และจะสามารถประเมินแบบเบื้องต้นได้ว่าคุณเหมาะสำหรับตำแหน่งงานที่คุณสมัครเข้ามาหรือไม่

สิ่งที่คุณควรเขียนลงไปใน Resume 

  • ข้อมูลส่วนตัว : ชื่อ-นามสกุล, ข้อมูลติดต่อ (อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่)

  • รูปภาพ : ภาพที่ถ่ายอย่างเป็นทางการหรือกึ่งทางการ ใส่เสื้อเชิ้ตหรือสูทดูเรียบร้อยภูมิฐาน (ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและสายงาน)

  • ประวัติการศึกษา : วุฒิการศึกษา สถาบันการศึกษา คณะ สาขา และปีที่จบการศึกษา

  • ประวัติการทำงาน : ชื่อบริษัท ตำแหน่ง รายละเอียดงาน และระยะเวลาที่ทำ (เรียงจากปัจจุบันไปอดีต)

  • ทักษะ : แนะนำให้ใส่ทักษะเด่น ๆ ที่คุณมีลงไป ทั้ง Hard Skill (ความเชี่ยวชาญในสายงาน) และ Soft Skill (ทักษะที่ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น) โดยให้เน้นไปที่ Hard Skill ที่คุณอยากนำเสนอหรือสำคัญกับตำแหน่งงาน

  • กิจกรรม : กิจกรรมที่คุณเคยทำและประโยชน์ที่ได้รับ

  • รางวัลและความสำเร็จ : รางวัลที่เคยได้รับ หรือความสำเร็จที่คุณรู้สึกภาคภูมิใจ

  • เป้าหมายในการทำงาน : สิ่งที่คุณคาดหวังจากการทำงาน

เทคนิคการเขียน Resume ให้น่าสนใจ

  • ความยาวประมาณ 1-2 หน้า (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ แต่ถ้าจบได้ใน 1 หน้าจะดีมาก)

  • ใส่เนื้อหาเท่าที่จำเป็น กระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย

  • ใช้ภาษาที่เป็นทางการ มีการสะกดคำอย่างถูกต้อง

  • เลือกรูปแบบตัวอักษรที่มีหัว เพื่อให้อ่านได้ง่าย ๆ 

  • ทำ Resume เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

  • ใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน (ถ้าคุณสมัครงานหลายตำแหน่งที่มีเนื้องานแตกต่างกัน ควรทำ Resume แยกกันจะเป็นการดีที่สุด)

  • ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน เพื่อให้อ่านง่ายที่สุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องตกแต่งให้สวยงามมากนัก

Portfolio คืออะไร?

Portfolio คือแฟ้มสะสมผลงานที่คุณเคยทำมาหรือเรียกได้ว่าเป็นแฟ้มที่รวบรวมความสำเร็จของคุณเอาไว้ก็ได้เช่นกัน ซึ่ง Portfolio จะประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัว, ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน, เกี่ยวกับตัวเอง, ทักษะ, เป้าหมาย และตัวอย่างผลงาน โดยเน้นไปที่การแสดงข้อมูลในลักษณะของรูปภาพ แสดงผลงานที่ยากจะอธิบายเป็นข้อความ จึงเหมาะสำหรับสายงานการออกแบบหรือทำเกี่ยวกับศิลปะ อาทิ สถาปนิก ช่างภาพ หรือนักออกแบบ

ประเภทของ Portfolio

  1. Portfolio แบบออฟไลน์ จะอยู่ในลักษณะสิ่งพิมพ์หรือการจัดทำเป็นรูปเล่ม มักจะถูกใช้เวลาที่คุณต้องเดินทางเข้าไปสัมภาษณ์งานในบริษัทโดยตรง 

  2. Portfolio แบบออนไลน์ จะอยู่ในลักษณะของเว็บไซต์ หรือไฟล์ PDF ที่สามารถเปิดชมผ่านทางออนไลน์ได้เท่านั้น เหมาะสำหรับการส่งแนบไปกับอีเมลสมัครงาน หรือการสัมภาษณ์งานออนไลน์

Portfolio สมัครงาน ต้องมีอะไรบ้าง?

  • ข้อมูลส่วนตัว : ชื่อ-นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่

  • ประวัติการศึกษา : วุฒิการศึกษา สถาบันการศึกษา คณะ สาขา และปีที่จบการศึกษา

  • ประวัติการทำงาน : บริษัท ตำแหน่ง ความรับผิดชอบ และระยะเวลาการทำงานในแต่ละบริษัท

  • เกี่ยวกับเรา : บอกเล่าถึงเป้าหมาย แรงบันดาลใจ ความสนใจ ในแง่ของการทำงานแบบสั้น ๆ 

  • ทักษะ : ความสามารถในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการทำงาน

  • ผลงาน : ผลงานที่โดนเด่นและเป็นที่น่าภาคภูมิใจสำหรับเรา

  • ช่องทางอื่น ๆ  : แนบโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ที่เอาไว้แสดงผลงานลงไปด้วย 

เทคนิคการทำ Portfolio ให้โดดเด่น

  • เริ่มต้นแสดงผลงานด้วยชิ้นงานที่ดีและโดดเด่นที่สุดในหน้าแรก ๆ 

  • นำเสนอเฉพาะผลงานที่มีคุณภาพและเหมาะกับตำแหน่งงาน

  • อธิบายข้อมูลของผลงานแต่ละชิ้นสั้น ๆ อาทิ คอนเซ็ปต์, จุดประสงค์, ผลลัพธ์ และระยะเวลา เป็นต้น

  • จัดเรียงประเภทของผลงานให้ชัดเจนและเป็นระเบียบเรียบร้อย

  • ตกแต่งและจัดวางผลงานให้สวยงาม ดูง่าย ไม่รกสายตา

  • ใช้โทนสีที่สบายตา ดูสุภาพ และไม่ฉูดฉาดเป็นพื้นหลัง เพื่อให้ผลงานดูเด่นออกมา

  • สามารถใส่ใบประกาศ (Certificate) ที่ได้รับจากสถาบันต่าง ๆ ลงไปได้

สรุป Resume กับ Portfolio ต่างกันอย่างไร?

สรุปว่า Resume กับ Portfolio เหมือนกันในส่วนของการนำเสนอข้อมูลส่วนตัวและประวัติต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่าคุณคือใคร เคยผ่านประสบการณ์ใดมาบ้าง และมีความแตกต่างกันในเรื่องของรูปแบบของเนื้อหาที่ใช้ในการนำเสนอ โดย Resume จะเน้นเนื้อหาที่เป็นข้อความกระชับ ๆ และมีดีไซน์อันเรียบง่าย ส่วน Portfolio จะเน้นเนื้อหาที่เป็นรูปภาพแสดงผลงานแต่ละชิ้น มีดีไซน์สวยงาม และไม่จำกัดว่าจะต้องมีกี่หน้าเหมือน Resume

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้และเข้าใจความแตกต่างของ Resume กับ Portfolio ได้เป็นอย่างดี และสุดท้ายนี้ ขอฝากคำแนะนำสำหรับน้อง ๆ จบใหม่อีกสักนิด ว่าก่อนที่จะส่งอีเมลสมัครงาน อย่าลืมตรวจเช็กรายละเอียดและความถูกต้องของเอกสารทุกชิ้น รวมถึงเนื้อหาในอีเมลก่อนส่งให้เรียบร้อยก่อน และควรส่งอีเมล 1 ฉบับไปยัง 1 บริษัทเท่านั้น ไม่ควรส่งครั้งเดียวไปหาหลาย ๆ บริษัทพร้อมกัน เพราะอาจจะทำให้อีเมลสมัครงานกลายเป็นอีเมลขยะ (Junk Mail) และดูไม่เป็นมืออาชีพได้นั่นเอง

More from this category: Resumes

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สำรวจหัวข้อที่เกี่ยวข้อง

เลือกสิ่งที่สนใจเพื่อเรียกดูอาชีพที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา