สิ่งที่ผู้คนจะนึกออกเมื่อได้ยินชื่อของ Microsoft คือชุดผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์สำหรับงานสำนักงานซึ่งหลายคนได้ใช้อย่างจริงจังในชีวิตการทำงาน อาทิ Microsoft Word, Microsoft Excel, และ Microsoft PowerPoint และอีกหลายคนอาจจะคิดถึงเป็นชื่อซอฟต์แวร์อื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันออกด้วย แตกต่างกันไปในแต่ละคน ตามแต่ลักษณะงาน และในขณะเดียวกัน ชื่อ Microsoft ก็คงทำให้คิดถึงอดีตผู้นำหัวเรือใหญ่ Microsoft อย่าง Bill Gate
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ตำแหน่ง CEO ของบริษัท Microsoft ได้ถูกส่งผ่านไปให้กับผู้อื่น เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอออกสู่ท้องตลาดก็ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบไป จึงสะท้อนตำแหน่งทางการตลาดของ Microsoft ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
คุณโอม ศิวะดิตถ์ ผู้ดำรงตำแหน่ง National Technology Officer ของบริษัท Microsoft ในประเทศไทย ได้นำเสนอว่า ทางบริษัทไม่ได้กำลังขายซอฟต์แวร์อย่างที่หลายคนยังเข้าใจอยู่ แม้การทำงานของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Microsoft Office จะคงเดิม ในเรื่องการตอบสนองความต้องการใช้งาน แต่ระบบที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ Microsoft 365 ที่ใช้กันในปัจจุบันคือ คือ Cloud Computing ซึ่งการทำงานมีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บางเรื่อง เช่น มีตัวสนับสนุนการค้นหารูปภาพและช่วยกำหนดธีมของงานที่นำเสนอเมื่อเปิดการทำงานของ Microsoft PowerPoint เป็นต้น
Microsoft ในปัจจุบันมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การใช้ดิจิทัลขององค์กรต่าง ๆ โดยการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มให้กับผู้คน ผ่านการสนับสนุนของระบบ Intelligence Cloud และ Intelligent Aid ซึ่งทำให้มนุษย์ไม่ได้ทำงานโดยลำพัง แต่มีปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกบางจุดหรือในบางงานเสมอ โดยการปรับตำแหน่งทางการตลาดเช่นนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Microsoft ที่มุ่งมั่นจะใช้ระบบของตนเพื่อเสริมสร้างทุกคนและทุกองค์กรให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น (Achieve More)
การที่ทุกคนและทุกองค์กรจะประสบความสำเร็จมากขึ้น ทาง Microsoft เน้นวัดผลของตน ว่ามีส่วนในการสร้างเศรษฐกิจในระดับต่าง ๆ ดังนี้
นอกจากนี้ Microsoft ยังมีแนวคิดว่า เทคโนโลยีของตนจะต้องเหมาะกับผู้ใช้งานทุกประเภท ทุกคนต้องเข้าถึงได้ ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนปกติ คนที่มีความต้องการพิเศษ หรือคนที่มีอุปสรรคอันเนื่องมาจากสภาพร่างกายที่ผิดปกติในการเคลื่อนไหว ก็จะต้องได้รับการส่งเสริมให้เข้าถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้อย่างทั่วถึง
การดำเนินงานของ Microsoft มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่เชื่อมต่ออยู่กับเทคโนโลยีของ Cloud ทาง Microsoft จึงต้องมีนโยบายที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนในตลาด
ภารกิจสุดท้ายที่เน้น คือการคำนึงถึงความยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยี Cloud ทาง Microsoft เชื่อและดำเนินการในรูปแบบที่ลดการใช้คาร์บอนเมื่อเทียบกับในอดีต จัดสรรการใช้น้ำอย่างเหมาะสม เช่นเดียวกับการบริหารจัดการขยะหรือของเสียที่จะทิ้ง
การบริหารการดำเนินงานเพื่อให้สำเร็จตามภารกิจ บริษัทมีกลยุทธ์ที่ต้องดำเนินการ หนึ่งในกลยุทธ์ คือการค้นหาคนที่เหมาะสมกับงาน โดยองค์กรมีทิศทางที่จะจ้างคนโดยให้น้ำหนักที่ Digital Skills ไว้มาก เพราะบริษัทเองมองไปถึงอนาคตที่ยุคต่อไปของบริษัทคือยุคของ Quantum Computer และเทคโนโลยีทางด้าน Cyber Security
คุณโอม ศิวะดิตถ์ ระบุถึงคุณลักษณะของคนที่ Microsoft ต้องการตัวมาทำงาน โดยลงรายละเอียดดังต่อไปนี้
Half-Life of Skills เป็นแนวคิดเรื่องระยะเวลาใช้ประโยชน์ของทักษะ ว่าปกติแล้วเมื่อคนเราเรียนรู้ทักษะสักอย่างหนึ่งแล้วเวลาผ่านไป 5 ปี ประโยชน์ของทักษะนั้นจะลดลงไปครึ่งหนึ่ง และพอผ่านไป 10 ปี ทักษะนั้นก็อาจไม่เป็นที่ต้องการ ไม่ทำประโยชน์ ดังนั้นทุกคนจึงควรมองหาทักษะใหม่ ๆ ที่จะฝึกฝนได้ เป็นการ Upskill
ทาง Microsoft เองเห็นความสำคัญของคนที่จะได้พัฒนาตัวเอง จึงจัดทำเว็บไซด์สำหรับลงทะเบียนเพื่อพัฒนา Digital Skills ที่ https://docs.microsoft.com/en-us/learn/ ซึ่งนอกจากจะเรียนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว ยังสามารถกดเข้ารับการทดสอบเพื่อรับใบประกาศนียบัตรได้อีกด้วย
เมื่อประสบกับเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนมีการปรับเปลี่ยน ในสังคมการทำงานเริ่มมีการทำงานที่บ้านแทนที่จะออกไปที่ออฟฟิศ แต่หลาย ๆ คนก็ยังโหยหาการไปออกไปพบปะผู้คนและอยากจะกลับไปยังออฟฟิศอยู่ดี ด้วยเหตุปละปัจจัยเหล่านี้ ในมุมมองของคุณโอม ศิวะดิตถ์ จึงเกิดแนวคิดที่อยากส่งเสริมที่คนทำงานแบบ Hybrid คือ มีการทำงานแบบผสมผสาน บางวันทำงานที่บ้านและบางวันไปทำงานที่ออฟฟิศ ซึ่งสำหรับ Microsoft ได้ปรับรูปแบบการมาทำงานเป็นระบบ Hybrid ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การพัฒนาแพลตฟอร์ม Metaverse นั้น ทาง Microsoft ได้เปิดตัวไปในปีที่แล้ว ถึงความร่วมมือกับ Accenture และพาร์ตเนอร์ของ Microsoft ที่ทำงานในสาย Metaverse และ Virtual Reality ในการสร้างโลกเสมือน จำลองชั้นทำงาน ระบุให้เป็นชั้น n ที่คนสามารถเข้าร่วมได้ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อ ซึ่งในการพัฒนา Virtual Space ตัวนี้ เปิดให้เห็นแนวทางการพัฒนาพื้นที่ Metaverse ในอนาคต เช่น ระบบ AI ทำงานเบื้องหลัง ทำให้การสื่อสารของคนทั่วโลกเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ราบรื่นมากขึ้น แม้ผู้คนจะสื่อสารกันคนละภาษา แต่ ระบบ AI ก็สามารถแปลภาษาให้ได้ในทันที หรือกิจกรรมที่เราไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในโลกเสมือนจริง อย่างการเล่นปิงปองก็สามารถทำได้ในโลกของ Metaverse เหมือนกับในโลกของความเป็นจริง
โลกของคนทำงานจึงไม่ได้มีสภาพแวดล้อมที่คงที่ มีแต่การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา Microsoft เป็นหนึ่งในบริษัทที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี จึงมองหาทักษะดิจิทัลจากคนทำงานเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยทักษะในการวิเคราะห์เป็นด้วย โดยใช้โปรแกรมต่าง ๆ มาทำงานร่วมกัน ซึ่งบริษัทอื่น ๆ ก็ต้องการพนักงานในแนวทางเดียวกันนี้ด้วย หากสังเกตในประกาศรับสมัครงานตำแหน่งต่าง ๆ นอกจากนี้การเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้พัฒนายิ่งขึ้นก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งการที่คนคนหนึ่งจะเหมาะกับงานสายดิจิทัลได้ นอกจากคุณสมบัติดังที่กล่าวมา ในโลกยุคใหม่ที่กำลังจะเกิดรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid คนทำงานอาจจะอยู่ที่บ้านบ้าง ไปทำงานที่ทำงานมาก ทำงานกับคนที่มาจากวัฒนธรรมบ้าง อีกทักษะหนึ่งที่ควรฝึกฝน คือการสื่อสารที่เข้าใจได้ง่าย และสอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้คนในองค์กร
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/metaverse-%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/2021%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/digital-literacy/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/analytical-thinking/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b0-3r8c/