การที่คน ๆ หนึ่งจะตัดสินใจเลือกทำงานกับบริษัทใดนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ ภาพลักษณ์ขององค์กร หากองค์กรใดมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ย่อมไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย ดังนั้น บริษัทต่างๆ จึงต้องมีการสร้าง Employment Branding เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทให้แก่บุคคลที่เข้าข่ายเป็นว่าที่ลูกจ้างในอนาคตโดยเฉพาะในระดับ Talent ที่หลายบริษัทต่างก็ต้องการตัว ซึ่งบริษัทสามารถทำได้โดยการให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับชีวิตการทำงานกับบริษัทนั้นๆ สู่กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
บริษัทที่จะทำ Employment Branding จะต้องชัดเจนในเรื่องของนโยบายและวิสัยทัศน์ ต้องสามารถตอบคำถามได้ว่า เราจะไปทางไหน เราต้องทำอะไร และเราจะได้อะไร ซึ่งผู้บริหาร ฝ่ายการตลาด และ HR จะต้องร่วมกันวางแผน และสื่อสารให้พนักงานเข้าใจตรงกัน เพื่อร่วมกับสร้างภาพลักษณ์ที่ดีออกสู่บุคคลภายนอก
นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้วย เช่น เรื่องการทำงานเป็นทีม การมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและงานในหน้าที่ การสร้างทัศนคติที่ถูกต้องเหมาะสมในการทำงาน ตลอดจนการมีผู้นำที่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกน้องปฏิบัติตาม ถ้าผู้นำพร้อมลุย ลูกน้องก็จะมีพลังในการทำงาน ถ้าผู้นำเอาแต่สั่งการ ลูกน้องก็จะเบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจที่ดี
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องให้พนักงานได้มีโอกาสในการฝึกอบรม หรือศึกษาเพิ่มเติมอยู่เสมอ เมื่อพนักงานมีผลงานที่ดี นายจ้างต้องรู้จักยกย่องชมเชย และให้รางวัล นายจ้างที่เอาใจใส่ลูกน้อง ก็จะสามารถมัดใจลูกน้องได้ และได้ความจงรักภักดีตอบแทน
เมื่อบริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วย โอกาสในการสรรหาและคัดเลือกพนักงานคุณภาพเยี่ยมก็มีมากขึ้น ทั้งยังสามารถรักษาพนักงานให้อยู่กับบริษัทนานๆ ลดอัตราการลาออกของพนักงานได้ด้วย
อย่างไรก็ตามในการสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลภายนอก แน่นอนว่าแต่ละบริษัทจะต้องนำเสนอแต่ภาพลักษณ์ที่ดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่พึงระวังก็คือ อย่าสร้างภาพเกินความเป็นจริง จนกลายเป็นการโกหกหลอกลวง เมื่อพนักงานเข้ามาทำงานแล้วพบว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับเป็นเพียงการสร้างภาพของบริษัทเท่านั้น ก็คงไม่มีพนักงานคนไหนอยากร่วมงานด้วยไปนานๆ หรอกจริงไหมคะ