ในสมัยเรียนน้องๆ นักศึกษาต่างก็อยากเรียนจบเร็วๆ เพื่อก้าวเข้าสู่สนามจริงของการทำงานด้วยกันทั้งนั้น เพราะหลายคนอาจคิดว่าเส้นทางที่พวกเขาวาดฝันไว้จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่จริงๆ โลกของการทำงานต่างจากชีวิตการเรียนอย่างสิ้นเชิง เด็กจบใหม่อาจต้องเจอปัญหาที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน หรือเป็นปัญหาที่พวกเขาตั้งตัวไม่ทัน ดังนั้นบทความจึงได้รวบรวมปัญหาการทำงานต่างๆ ที่เด็กจบใหม่ต้องเจอมาฝากกัน
เราเชื่อว่านี่เป็นปัญหาลำดับแรกๆ ที่เด็กจบใหม่ทุกคนต้องเผชิญแน่นอน ดังที่กล่าวไปว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยต่างจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการปรับตัวในการทำงานถือเป็นบททดสอบแรกที่เด็กจบใหม่ต้องผ่านไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ขั้นตอนการหางาน การสัมภาษณ์งาน การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กร เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือวิธีการทำงาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของกฎระเบียบที่แต่ละบริษัทต่างก็กำหนดไว้ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเคยชินกับชีวิตอิสระในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ชีวิตการทำงานกลับต้องมาเจอกฎระเบียบต่างๆ มากมายของบริษัท ก็อาจทำให้เกิด Culture Shock ได้ ดังนั้นคุณจึงควรต้องหมั่นสังเกตคนอื่นๆ ในที่ทำงานว่าเขาปฏิบัติตัวอย่างไร หรือหากเกิดข้อสงสัย ก็อย่ารีรอที่จะถามเพื่อนร่วมงาน อีกทั้งยังต้องอาศัยการเรียนรู้ให้มาก เพื่อการปรับตัวที่มีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเหมาะสมในที่ทำงาน
ดังที่กล่าวไปว่าในแต่ละบริษัทต่างก็มีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็มีบางเรื่องที่ถือเป็นธรรมเนียมและข้อปฏิบัติพื้นฐานที่คนทำงานทุกคนควรมีติดตัวไว้ เช่น การตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบต่อการทำงาน การบริหารเวลาในการทำงาน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนต้องอาศัยการฝึกฝนและปรับตัว เป็นคุณสมบัติหรือวินัยที่ต้องมีติดตัวมาด้วยเมื่อเข้าสู่โลกของการทำงาน หากคุณเป็นคนที่มีวินัยในเรื่องต่างๆ ก็จะทำให้คุณเป็นคนที่ดูน่าเชื่อถือ ได้รับความไว้วางใจจากทั้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ทำให้พวกเขาเกิดความเชื่อมั่นและคิดไม่ผิดที่รับเด็กจบใหม่คนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม
แน่นอนว่าเด็กจบใหม่บางคนอาจยังไม่ได้ตั้ง Career Path ให้กับตัวเอง หรืออาจไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้มากนัก ขอแค่ให้ได้งานแรกในชีวิตก่อนก็พอ หรือบางคนอาจทำตามกระแสหรือตามเพื่อนๆ จนขาดแรงจูงใจในการสร้างเป้าหมายที่แท้จริงให้ตัวเอง ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่ได้งานที่อาจจะไม่ตอบโจทย์ตัวเองเท่าไร หรือไม่ใช่งานที่ตัวเองใฝ่ฝันมากนัก ก็อาจทำให้ผลงานที่ทำออกมาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เหมือนการทำงานไปวันๆ จนไม่รู้ว่าตัวเองจะเติบโตไปในเส้นทางไหน
ดังนั้นก่อนเริ่มการสมัครงาน ควรถามตัวเองและตั้งเป้าหมายในเส้นทางอาชีพของตัวเองให้แน่ชัด ว่างานแบบไหนที่คุณใฝ่ฝันอยากทำ หรือสิ่งไหนที่คุณทำแล้วมันออกมาดี จากนั้นก็ให้มุ่งเป้าไปยังจุดๆ นั้น เพื่อความสำเร็จในระยะยาวของเส้นทางสายอาชีพ
แน่นอนว่าเด็กจบใหม่ ยังไงคะแนนของประสบการณ์ย่อมต้องเป็นศูนย์ เพราะพวกเขาเพิ่งก้าวเข้าสู่สนามจริงเป็นครั้งแรก ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดเป็นปัญหาในการทำงานได้ แต่วิธีแก้ไขก็คือคุณควรต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม พร้อมความตั้งใจในการฝึกฝนทักษะให้ก่อเกิดความสามารถที่เต็มเปี่ยม เพื่อช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์และช่วยเสริมในการทำงานของคุณเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
ในช่วงแรกๆ อย่างไรเสียก็ย่อมต้องมีการติดขัดหรือมีอุปสรรคเป็นธรรมดา ขอแค่มีความตั้งใจ นำอุปสรรคต่างๆ เหล่ามาเป็นบทเรียน ไม่แน่ใจตรงจุดไหนก็อย่าลังเลที่ปรึกษาหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเติบโตได้มากขึ้นแน่นอน
ผู้ใหญ่มักตั้งแง่กับเด็กจบใหม่ไว้อยู่แล้วว่าน้องๆ มักไม่มีความอดทน ไม่สามารถสู้กับแรงกดดันหรือรับมือกับงานหนักๆ ไม่ได้ เพราะเด็กจบใหม่อาจจะยังขาดวุฒิภาวะหรือยังมีความอดทนไม่มากพอในการรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ยิ่งช่วงที่ต้องเปลี่ยนผ่านจากวัยรุ่นเข้าสู่วัยทำงาน ถือเป็นช่วงที่เด็กจบใหม่หลายคนยังปรับตัวไม่ได้ ดังนั้นเมื่อไปเจอกับสังคมใหม่ในที่ทำงาน ที่อาจไม่เป็นไปอย่างที่หวัง ก็อาจทำให้คุณเกิดความท้อแท้จนอยากยอมแพ้ได้
บางคนอาจคิดว่าเมื่อเจอแรงกดดันก็แค่ลาออก แล้วหางานใหม่ ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก แต่อย่าลืมว่ายุคสมัยนี้ที่สภาพเศรษฐกิจยังคงฝืดเคือง การหางานใหม่อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งอีกแง่หนึ่งของการเปลี่ยนงานบ่อยนี่แหละ ที่จะสื่อว่าคุณเป็นคิดที่ไม่มีความอดทน จนทำให้บริษัทใหม่ๆ ที่คุณไปสมัครต้องกลับมาวิเคราะห์ว่าคุณมีความเพียบพร้อมจริงๆ ใช่ไหม
ดังนั้นเราจึงอยากให้คุณมีความอดทนกับการทำงานให้มากๆ พยายามปรับแนวคิดตัวเองว่าทุกการเปลี่ยนผ่าน ย่อมต้องอาศัยเวลาในการปรับตัว พยายามมองปัญหาทุกอย่างให้เป็นบวก หากไม่ไหวก็หาที่ระบายกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียน พ่อแม่พี่น้อง ก็จะช่วยลดทอนความเครียดจากแรงกดดันได้ หากคุณผ่านแรงกดดันแรกไปได้แล้ว แรงกดดันอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต คุณก็จะสามารถรับมือกับมันได้ดีขึ้น
ในสมัยมหาวิทยาลัย การทำงานผลงานโปรเจ็กต์ต่างๆ อาจมีเวลาที่มากกว่า หรือไม่ได้มีกำหนดการณ์ที่เร่งรัดเท่ากับชีวิตการทำงาน เมื่อเข้าสู่ชีวิตมนุษย์เงินเดือนปัจจัยในการผลิตผลงานย่อมมีมากกว่า โดยเฉพาะงานจากลูกค้า ที่มีกำหนดการส่งงานที่ตายตัว ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท และเป็นการมอบความไว้วางใจที่ดีให้แก่ลูกค้า ดังนั้นเรื่องของการบริหารเวลาในการทำงาน จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องเด็กจบใหม่ต้องใส่ใจ
พยายามบริหารจัดการชิ้นงานแต่ละชิ้นให้ดี จัดลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง ว่าชิ้นไหนด่วนมากหรือด่วนน้อย อาจจะทำ To-Do List ส่วนตัว เพื่อช่วยบริหารจัดเวลาให้ดียิ่งขึ้น หรือทำงานไม่ทันจริงๆ อย่าลังเลที่จะความช่วยเหลือจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน
แม้ชีวิตการทำงานจะเป็นสิ่งที่เด็กจบใหม่หลายคนใฝ่ฝัน และอยากรีบเรียนจบไวๆ แต่เมื่อคุณได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง ที่ไม่ได้เป็นดั่งที่ฝันไว้ แน่นอนว่าความรู้สึกเหล่านั้นย่อมเปลี่ยนแปลง กลายเป็นความเบื่อการทำงานไปในที่สุดจากปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ากันได้กับเพื่อนร่วมงาน เจ้านายสุดเนี้ยบ งานที่สุมหัว ฯลฯ สิ่งที่คุณควรทำคือต้องมีสติ ค่อยๆ รับมือกับทุกปัญหาที่เข้ามา พยายามมองให้เป็นบวก เบื่อได้ในบางครั้ง แต่อย่าท้อ แล้วเส้นทางที่คุณวาดฝันไว้ ก็จะกลับมาสดใสอีกครั้ง
เมื่ออยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยก็จะมีแต่เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน คุยกันได้ในทุกเรื่อง แต่เมื่อได้เป็นมนุษย์เงินเดือน ได้ก้าวเข้าสู่บริษัท ในแต่ละองค์กรย่อมต้องต้องคนทำงานทุกเพศทุกวัย หลากสถานะ หลายตำแหน่ง แน่นอนว่าเมื่อคุณกับคนที่อาวุโสกว่า ซึ่งเปี่ยมไปด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิ คุณอาจทำตัวไม่ถูกที่จะคุยหรือทำงานกับพวกเขาเหล่านั้น จนกลายเป็นช่องว่างระหว่างวัยที่ลุกลามกลายเป็นปัญหาได้
เมื่อเริ่มต้นทำงานคุณควรเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน ให้เกียรติ และให้ความเคารพคนที่เป็นรุ่นพี่ แม้บางทีคนๆ นั้นอาจจะมีเลเวลตำแหน่งงานที่เท่ากับคุณก็ตาม แลพโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติกับหัวหน้าที่คุณต้องให้ความเคารพเป็นพิเศษ
หากเกิดปัญหาในการทำงานกับเพื่อนร่วมงานต่างวัยขึ้นมาจริงๆ คุณควรใช้วิธีแสดงความคิดเห็นที่ไม่รุนแรงจนเกินไป ควรเน้นการประนีประนอมหรือใช้คำพูดให้เหมาะสม ไม่ควรทำตัวก้าวร้าว หรือทำตัวแรงๆ แบบไม่สนไม่แคร์ใดๆ เพื่อลดการไม่ชอบหน้ากัน และช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในทีม
เด็กจบใหม่บางคนมักเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนมหาวิทยาลัยร่วมรุ่น ว่าเขาได้งานที่ดีกว่า บริษัทมีชื่อเสียงกว่า เงินเดือนเยอะกว่า สวัสดิการดีกว่า หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ดีกว่า เป็นต้น จนกลายเป็นความอิจฉาเพื่อนและไม่พอใจกับบริษัทที่ตัวเองได้เข้าทำงาน ดังนั้นคุณจึงควรปรับวิธีคิดใหม่ว่า ทุกบริษัทล้วนมีข้อดีข้อเสียในตัวเอง บางครั้งเพื่อนร่วมรุ่นอาจไม่ได้เล่าความจริงหรือพูดถึงแง่ลบของบริษัทที่เขาทำงานให้คุณฟังก็ได้ เพราะคนเราก็มักจะพูดถึงแต่เรื่องดีๆ ให้คนอื่นฟังเสมอ
การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ควรต้องยอมรับและทำความเข้าใจกับสิ่งที่เรามีในปัจจุบัน หากคุณปรับแนวคิดได้ ก็จะช่วยให้คุณมีความสุขกับงานแรกมากยิ่งขึ้น
ปิดท้ายกันที่เรื่องของปัญหาเงินๆ ทองๆ เด็กจบใหม่บางคนเมื่อได้รับเงินเดือนก้อนแรกในชีวิต ก็มักจะดีใจจนนำไปฉลองและใช้เงินแบบขาดการวางแผนที่ดี ไม่ได้ประหยัดอดออม และแบ่งเงินเดือนไว้เป็นเงินเก็บ อย่าลืมว่าเมื่อเข้าสู่วัยทำงานย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น เราจึงอยากแนะนำให้คุณฝึกบริหารจัดการเงินเดือนให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องเงินที่อาจเกิดขึ้นได้อนาคต
นี่เป็นเพียงตัวอย่างปัญหาหลักๆ ที่เหล่าน้องๆ เด็กจบใหม่ต้องพบเจอ เมื่อเข้าสู่โลกของการทำงาน จริงๆ แล้วยังมีปัญหายิบย่อยอีกมากมายที่น้องๆ ต้องเผชิญ หลักๆ เลยคือทุกคนต้องมีสติ หมั่นฝึกฝนทักษะ และใช้ความรู้ที่เพิ่งเรียนจบมา นำมาปรับให้เหมาะสมกับการทำงานมากที่สุด รวมไปถึงเรื่องของความอดทนก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมว่าไม่มีที่ไหนที่ไม่มีอุปสรรค ทุกเส้นทางแห่งความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แล้วน้องๆ ก็จะรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น พร้อมการมีความสุขในโลกแห่งการทำงานที่ใฝ่ฝันได้ไม่ยาก
ส่วนเด็กจบใหม่คนไหนที่กำลังเริ่มต้นหางาน แวะเข้ามาฝากประวัติกับ JobsDB หรือค้นหางานที่ชอบ บริษัทที่ใช่ได้เลย เรารวบรวมงานดีๆ จากบริษัทชั้นนำ งานปังๆ จากทุกสายงานไว้เพียบ รับรองว่าน้องๆ จะได้เริ่มต้นชีวิตการทำงานอย่างสดใส่แน่นอน