องค์กรไหนไม่มีปัญหาเรื่อง gap generation ถือว่าเป็นองค์กรสุดแสนประเสริฐ น้อยมากที่ผู้คนในบริษัทจะไม่มีปัญหาเหล่านี้ให้เอชอาร์หนักอกหนักใจ โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีพนักงานจำนวนมาก ระดับหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน แน่นอนว่า “ช่องว่างระหว่างวัย” เป็นปัญหาที่หนีไม่พ้นทำใจไว้เลยว่าต้องเจอ อารมณ์ประมาณ “มากคนมากความ” (เป็นประโยคที่ผ่านไปนานแค่ไหนก็เป็นจริงเสมอ)
ขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่อง gap generation ที่เกี่ยวข้องกับความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกัน ยอมรับว่าเป็นอะไรที่ชวนปวดหัวอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นเรื่องที่เปลี่ยนกันค่อนข้างยาก หากบุคคลเหล่านั้นเลือกที่ปิดกั้นแบบไม่เปิดใจ เอาจริง ๆ หากมองให้ดี เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุเพียงอย่างเดียว ทว่าเป็นเรื่องของชุดความคิด ประสบการณ์ การเลี้ยงดู สื่อ กรอบของสังคมในสมัยนั้น เรื่องราวที่ได้พบเจอมาไม่เหมือนกัน ฯลฯ หล่อหลอมให้เกิดความแตกต่างของคนแต่ละยุค
gap generation
“ผลสำรวจเรื่อง gap generation ในที่ทำงานพบว่า 1 ใน 3 ของหนุ่มสาวชาวออฟฟิศใช้เวลาขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานต่างวัยมากกว่า 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ คิดเป็น 12% ของเวลาทำงาน” อ้างอิงจาก - crucial learning
จากข้อมูลด้านบนและตัวเลขจะเห็นได้ว่าปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัย ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่อย่างใด ทั้งเสียอารมณ์ เสียความรู้สึก เสียเวลาการทำงานอยู่ไม่น้อย ดีไม่ดีความขัดแย้งเหล่านั้นจะจบลงได้ก็ต่อเมื่อมีตัวกลางมาคอยประสาน ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวหนีไม่พ้นฝ่าย HR หรือคนในทีมคนอื่นเป็นกาวใจคอยประสาน
อย่างที่บอกไปว่าเรื่อง gap generation เป็นเรื่องของความคิดและความเชื่อของแต่ละบุคคล ดังนั้นการจัดการจึงค่อนข้างยาก ซับซ้อนในการ Handle พอสมควร ไม่มีสูตรหรือ How to ตายตัวที่แบ่งเป็นขั้นตอนเป็นข้อ ๆ แล้วจะสัมฤทธิผลทุกครั้งไป ต้องอาศัย “ความเข้าใจ” เป็นหัวใจสำคัญในการยุติปัญหา โดยความเข้าใจที่ว่านั้น คือเข้าใจถึงความคิดของคนแต่ละ Gen ว่าพวกเขามีชุดความคิดแบบไหน กรอบความคิดเป็นอย่างไร ต้องหว่านล้อมหรือพูดจาแนวไหน ความประนีประนอมถึงจะเกิดขึ้นในปัญหานี้
ส่วนใหญ่แล้ว Gen นี้มักอยู่ในกลุ่มของผู้บริหารองค์กร หรืออยู่ในตำแหน่งระดับสูง โดยมากมักรักการทำงาน มุ่งมั่น อดทนและทุ่มเททั้งชีวิตเพื่องาน เน้นแสวงหาความก้าวหน้าเป็นชีวิตจิตใจ จนบางทีไม่มีเวลาดูและครอบครัว ทว่ามีความภักดีต่อบริษัทและเคร่งครัดกฎระเบียบ
กลุ่มที่เพิ่งเริ่มทำงานไม่นาน มาด้วยชุดความคิด Work life balance ทั้งชีวิตไม่ได้อุทิศให้งาน เน้นการทำงานที่มีความสุข สุขทั้งทางใจและกาย รวมถึงการได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ไม่ได้มองว่าการทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตไปกับการทำงานเป็นเรื่องคูลต่อไป ความสุขในด้านอื่น ๆ ก็สำคัญ เมื่อไม่มีความสุขก็พร้อมลาออกทันที
ด้วยชุดความคิดของคนทำงานทั้งสอง Gen จะเห็นได้ว่าต่างกันคนละขั้ว จึงไม่แปลกที่จะเกิด gap generation ขึ้นในที่ทำงาน ทั้งพฤติกรรม กรอบความคิด ไลฟ์สไตล์ วิธีการคิด แทบจะไม่เหมือนกัน อย่าง Gen X มอง Gen Y และ Z ว่าหยิบโหย่ง หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไม่อดทนเหมือนคนรุ่นเก่า ในทางกลับกัน Gen Y และ Z กลับมอง Gen X ว่าทำงานหนักไปเพื่ออะไร หากสุดท้ายต้องเอาเงินเหล่านั้นมารักษาตัวเอง มนุษย์เกิดมามีหนึ่งชีวิตและมีสิทธิ์ที่จะแสวงหาความสุขจากหลาย ๆ ด้าน
ถึงตรงนี้ยังคงยืนยันว่า “ความเข้าใจ” คือจุดตั้งต้นของการแก้ปัญหา gap generation การที่เราเข้าใจว่าแต่ละ Gen มีชุดความคิดแบบไหน ก็จะพอเห็นถึงภาพรวมว่าควรจัดการในวิธีไหน พูดหรือทำแบบไหนถึงจะพอใจคนทั้งสอง Gen พยายามหาจุดร่วม เพื่อลดช่องว่างของกลุ่มคนทั้งสองวัย อาจจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ 100% แต่ก็อาจจะมีบรรยากาศการทำงานที่ดีขึ้นได้
“เวลา” แทบจะเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไขทุก ๆ ปัญหา รวมถึงความขัดแย้งเรื่อง gap generation ภายในองค์กร ทว่าการใช้เวลาจำต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หมายความว่าต้องให้กลุ่มคนทั้งสอง Gen ที่มีปัญหา ใช้เวลาร่วมกันอย่างเกิดประโยชน์ ไม่ใช่ใช้เวลาในการถกเถียงและทะเลาะกันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ในฐานะ HR เอง เราอาจจะจัด Session หรือ Meeting ขึ้นมาสักวีคละชั่วโมง เลือกตัวแทนจากแต่ Gen ที่ดูแลพร้อมจะรับฟังความแตกต่าง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นและความคิดร่วมกัน อาจจะเลือก Topic มาสักเรื่องให้แต่ละฝ่ายได้แสดงทัศนคติ มุมมองพร้อมบอกเหตุผล เพื่อให้แต่ละฝ่ายเข้าใจถึงความคิดของกันและกันมากขึ้น การทำแบบนี้อาจจะไม่ได้แก้ปัญหาได้ทันทีทันใจ แต่ก็เป็นการลดช่องว่าง อุดรอยร้าวของความไม่เข้าใจกันได้บ้างบางส่วน
เมื่อเข้าใจถึงความคิดที่หลากหลายและมุมมองที่แตกต่างกันแล้ว ต่อมาเป็นเรื่องของ “การยอมรับ” ในความไม่เหมือนกัน การเข้าใจว่าเขาคิดแบบนั้น เขาเชื่อแบบนั้น เป็นรากฐานที่ดีซึ่งนำไปสู่การยอมรับความแตกต่าง บนโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้ มนุษย์เติบโตมาด้วยปัจจัย ความเชื่อและช่วงเวลาที่ต่างกัน จึงไม่แปลกที่จะมีชุดความคิดไม่เหมือนกัน
พหุสังคมคือสังคมแห่งความหลากหลาย ทว่าเป็นความหลากหลายที่เข้าใจถึงความต่าง มองความต่างของ gap generation ให้เป็นเรื่องธรรมดาของโลก ไม่จำเป็นต้องบังคับให้ใครคนใดคนหนึ่งคิดเหมือนกับคุณ อย่ามองความต่างเป็นศัตรู หรือต้องเปลี่ยนให้เขาเชื่อแบบเดียวกับเรา จงเคารพในความต่างของแต่ละบุคคลและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
gap generation เป็นหนึ่งในปัญหาโลกแตก ที่แก้แล้วไม่มีทางจบในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเป็นเรื่องของความคิด ความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจและเวลาเป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม HR ทั้งหลายก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ไป ค่อย ๆ สร้างรากฐานแห่งความคิดไปด้วยกัน หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเข้าใจไว้เพื่อรอวันเติบโตในอนาคต
ติดตามข่าวสารและบทความดี ๆ ได้ที่ JobsDB แอปพลิเคชันหางานครบวงจรของไทย ที่มีให้คุณครบทุกความต้องการ
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%84%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a1/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/10-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%92%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93/