บัตรทองคืออะไร? รู้จักสิทธิประโยชน์บัตรทองที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

บัตรทองคืออะไร? รู้จักสิทธิประโยชน์บัตรทองที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 20 February, 2025
Share

Key Takeaway

  • บัตรทอง คือสิทธิการรักษาพยาบาลที่ให้บริการโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำหรับประชาชนที่ไม่เข้าร่วมประกันสังคม
  • กลุ่มคนหลักๆ ที่ใช้บัตรทองได้คือประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้มีสิทธิประกันสังคม หรือประกันสุขภาพอื่น
  • สิทธิคุ้มครองในบัตรทอง เช่น การรักษาพยาบาล การทำฟัน การผ่าตัด และการรักษาโรคเรื้อรัง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
  • สมัครบัตรทองได้ที่โรงพยาบาลรัฐ สถานบริการสาธารณสุข หรือออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน สปสช.

มารู้จักกับ "บัตรทอง" ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ให้กับผู้ที่มีสิทธิ์ การเข้ารับบริการจากโรงพยาบาลรัฐและคลินิกที่ร่วมโครงการ ซึ่งสามารถครอบคลุมบริการต่างๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในการรักษาพยาบาล พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้บัตรทอง และวิธีการลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์อย่างถูกต้องและง่ายดาย มาทำความรู้จักว่าบัตรทอง คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง ได้ในบทความนี้

บัตรทอง คือสิทธิอะไร?

“บัตรทอง” หรือ “บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า” คือบัตรที่ออกโดยสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อสร้างเสริมสุขภาพและการดำรงชีวิตที่ดีแก่คนไทยทุกคน ยกเว้นผู้ที่มีสิทธิ์รักษาพยาบาลอื่น เช่น ประกันสังคม หรือ ประกันสังคมมาตรา 40 และสิทธิ์ข้าราชการ

เปรียบเทียบระหว่างบัตรทองกับบัตร 30 บาท ต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบระหว่างบัตรทองกับบัตร 30 บาท ต่างกันอย่างไร

หลายคนคงเคยสงสัยว่า “บัตรทอง” กับ “บัตร 30 บาท” ต่างกันอย่างไร? เป็นสิทธิ์ชนิดเดียวกัน ซึ่งต่างกันเพียงชื่อเรียก โดยเริ่มแรกเรียกว่า “สิทธิ 30 บาท” เนื่องจากเป็นนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค โดยบัตรในตอนนั้นเป็นกระดาษอ่อนธรรมดา ต่อมาได้มีการออกเป็นบัตรสีเหลืองทองเคลือบพลาสติก จึงได้เรียกว่า “บัตรทอง” หรือ “สิทธิบัตรทอง”

ใครที่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้บ้าง

ใครที่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้บ้าง

หลักๆ แล้ว บัตรทองจะคุ้มครองผู้สูงอายุ แรงงานนอกระบบ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ฟรีแลนซ์ ซึ่งสามารถใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลได้ โดยผู้ที่มีสิทธิใช้บัตรทองและผู้ที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้มีดังนี้

กลุ่มคนที่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง

  • เด็กแรกเกิดที่ไม่ได้มีสวัสดิการข้าราชการจากพ่อแม่
  • บุตรข้าราชการคนที่ 4 ขึ้นไป (เนื่องจากสิทธิ์ข้าราชการคุ้มครองบุตรเพียง 3 คน)
  • ข้าราชการที่เกษียณอายุหรือออกจากข้าราชการ โดยไม่มีบำนาญ
  • ผู้ประกอบอาชีพอิสระและไม่ได้เป็นผู้ประกันตน

กลุ่มคนไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง

  • ข้าราชการ
  • ลูกจ้างประจำของส่วนราชการและครอบครัว
  • ครูโรงเรียนเอกชนในระบบ
  • พนักงานรัฐวิสาหกิจ
  • พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ในองค์กรอิสระ
สิทธิบัตรทอง คือสิทธิที่คุ้มครองอะไรบ้าง

สิทธิบัตรทอง คือสิทธิที่คุ้มครองอะไรบ้าง

สิทธิบัตรทอง คือสิทธิที่คุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลและสุขภาพของประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิจากระบบประกันสุขภาพอื่นๆ โดยมีสิทธิต่างๆ ดังนี้

สิทธิประโยชน์รักษาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย

สิทธิประโยชน์สำหรับการรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยในระบบบัตรทองนั้น สามารถรับการรักษาโดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทั้งหมด แต่อาจจะสามารถรับยาได้ เมื่อมีอาการดังนี้

  • มีไข้
  • ไอ (เช่น ไอตอนกลางคืน)
  • เจ็บคอ
  • ปวดหัว (เช่น ปวดหัวข้างขวา)
  • เวียนหัว
  • ปวดท้อง
  • ท้องเสีย หรือท้องผูก
  • ปัสสาวะลำบาก (เช่น ปัสสาวะแสบขัด หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ)
  • ตกขาวผิดปกติ (เช่น ตกขาวสีเหลือง)
  • ปวดข้อ หรือเจ็บกล้ามเนื้อ (เช่น ปวดขาหรือปวดหลังส่วนล่าง)
  • บาดแผล
  • ผื่น คัน หรือปัญหาผิวหนัง
  • ความผิดปกติต่างๆ เกี่ยวกับตา (เช่น เปลือกตาอักเสบ)
  • ความผิดปกติต่างๆ เกี่ยวกับหู (เช่น หูอื้อ)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานของบัตรทอง

สิทธิประโยชน์พื้นฐานของบัตรทอง คือสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่แล้วและคุ้มครองการรักษาพยาบาลพื้นฐานสำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ ซึ่งรวมถึง

  • บริการสาธารณสุขที่จำเป็นตามคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • การตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
  • บริการเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรือประสบภัยจากรถยนต์
  • การตรวจและรับฝากครรภ์
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ
  • การบำบัดและการบริการทางการแพทย์
  • บริการการแพทย์แผนไทยและทางเลือกตามกฎหมาย
  • ยา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • การทำคลอด
  • การบริบาลทารกแรกเกิด
  • การกินอยู่ในหน่วยบริการ
  • บริการรถพยาบาลหรือพาหนะรับส่งผู้ป่วย
  • บริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ
  • การบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด
  • การรักษาผู้ป่วยโรคเดียวกันในที่มีระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาล 180 วัน ภายใน 1 ปี

สิทธิประโยชน์ใหม่ของบัตรทอง

สิทธิประโยชน์ใหม่ของบัตรทอง คือสิทธิประโยชน์ที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น ได้แก่

  • บริการหมอครอบครัว (หมอในชุมชน) สามารถรับบริการที่หน่วยบริการใดก็ได้ทั่วประเทศ
  • ผู้ป่วยในไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
  • บริการเภสัชกรรมออนไลน์
  • บริการยาต้านไวรัสหลังสัมผัสเชื้อ (PEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
  • บริการพบแพทย์ทางไกล โดยไม่ต้องเดินทางไกล
  • บริการแว่นตาสำหรับเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติ
  • การตรวจเลือดและแล็บในสถานบริการเอกชน
  • การตรวจยีน BRCA1 BRCA2 สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
  • การรักษาโรคมะเร็งครบวงจร
  • บริการตรวจคัดกรองโรคหายากในผู้ป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกด้วยเครื่อง Tandem Mass Spectrometry
  • การผ่าตัดใส่รากฟันเทียมสำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก
  • บริการคัดกรองมะเร็งและมะเร็งช่องปากสำหรับผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • บริการตรวจคัดกรองคู่หญิงตั้งครรภ์ 2 รายการ ได้แก่ ธาลัสซีเมีย และเชื้อซิฟิลิส
  • ขยายบริการล้างไตผ่านช่องท้องด้วยเครื่องอัตโนมัติ (APD) ทั่วประเทศ
  • การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง

สิทธิประโยชน์สำหรับเจ็บป่วยขั้นวิกฤติ

สิทธิประโยชน์บัตรทองสำหรับเจ็บป่วยขั้นวิกฤติ คือสิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐเพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (สีแดง) โดยกลุ่มเข้าข่าย ได้แก่

  • หมดสติ ไม่รู้สึกตัว หรือไม่หายใจ
  • หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หรือหายใจติดขัดพร้อมเสียงดัง
  • ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น
  • เจ็บหน้าอกเฉียบพลันและรุนแรง
  • แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัด หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด
  • อาการที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต หรือระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิต

สิทธิที่ไม่ได้รับการคุ้มครองในบัตรทอง มีอะไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม มีบางสิทธิประโยชน์ที่ไม่ได้รับการคุ้มครองในบัตรทอง ซึ่งผู้ใช้สิทธิ์ควรทราบเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดหรือการคาดหวังที่ไม่ตรงกับสิทธิที่ได้รับ ดังนี้

  • การรักษาหรือวินิจฉัยที่เกินกว่าความจำเป็นตามการวินิจฉัยของแพทย์
  • การจัดฟัน
  • ศัลยกรรมความงามเพื่อความสวยงาม
  • การรักษาที่อยู่ในขั้นตอนการทดลอง
  • การปลูกถ่ายอวัยวะบางรายการที่ไม่ได้กำหนดในสิทธิประกันสุขภาพ (ยกเว้น ไต ตับ และหัวใจ)
  • การรักษาภาวะมีบุตรยากและการผสมเทียม
  • การบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในกรณีที่ถูกบังคับให้บำบัด
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นขอสิทธิบัตรทอง

เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นขอสิทธิบัตรทอง

การขอสิทธิบัตรทอง อาจต้องเตรียมเอกสารที่แตกต่างกันไปตามกรณีการสมัครและสถานะของผู้ยื่นขอ รวมถึงสถานที่ที่ยื่นขอ โดยเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมมีดังนี้

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้
  • สำเนาสูติบัตร หรือสำเนาใบเกิด (กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน

วิธีสมัครบัตรทองออนไลน์

วิธีสมัครบัตรทองออนไลน์โดยไม่ต้องไปที่สำนักงานเอง! ทำได้ทั้งผ่าน ไลน์ และ แอปพลิเคชัน โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

สมัครบัตรทองผ่าน LINE

สมัครบัตรทองผ่าน LINE

  • เลือกคำว่า "เปลี่ยนหน่วยบริการ (ด้วยตนเอง)" ในระบบ
  • อ่านเงื่อนไขข้อตกลงในการให้ความยินยอมใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และกด "ยอมรับ"
  • กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เพื่อขอรับรหัส OTP ในการยืนยันตัวตน
  • ตั้งรหัส 6 หลักสำหรับเข้าใช้งาน
  • หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น จะเข้าสู่ขั้นตอนการลงทะเบียนต่อไป
สมัครบัตรทองผ่านแอปสปสช.

สมัครบัตรทองผ่านแอปสปสช.

  • กดปุ่ม “ลงทะเบียน” เพื่อเริ่มขั้นตอนการสมัคร
  • อ่านเงื่อนไขข้อตกลงและกด “ยอมรับ”
  • กรอกเลขบัตรประชาชน เพื่อดำเนินการต่อ
  • สแกนลายนิ้วมือหรือตั้งรหัสผ่าน สำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน
  • เมื่อเข้าสู่หน้าหลักของแอปพลิเคชัน ให้กด "ลงทะเบียนสิทธิหลักประกัน" เพื่อดำเนินการลงทะเบียนสิทธิบัตรทอง
  • ตรวจสอบที่อยู่ปัจจุบัน ว่าตรงกับหน้าบัตรประชาชนหรือไม่ แล้วกด “ตรง” หรือ “ไม่ตรง”
  • ถ่ายรูปบัตรประชาชน
  • ถ่ายรูปตัวเองขณะถือบัตรประชาชน
  • แนบหลักฐานแสดงที่อยู่ปัจจุบัน และเอกสารอื่นๆ ตามที่กำหนด
  • กรอกที่อยู่ปัจจุบัน
  • เลือกเครือข่ายหน่วยบริการตามที่ต้องการ

สถานที่ในการยื่นขอสิทธิบัตรทอง

เลือกสถานที่ยื่นขอสิทธิบัตรทองที่อยู่ใกล้บ้านหรือสะดวกต่อการเดินทาง เพื่อความรวดเร็วและง่ายต่อการดำเนินการ สำหรับผู้ที่สงสัยว่าทำบัตรทอง 2567-2568 ได้ที่ไหน สามารถยื่นขอได้ที่สถานที่ดังต่อไปนี้

  • โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ในวันและเวลาราชการ
  • โรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้บ้าน ในวันและเวลาราชการ
  • ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น และศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง ในวันและเวลาราชการ
  • สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 1-13 ตามพื้นที่อยู่อาศัย ในวันและเวลาราชการ

ใช้สิทธิบัตรทองได้ที่ไหนบ้าง

ใช้สิทธิบัตรทองได้ที่หน่วยบริการที่กำหนด ทั้งสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่ 

  • โรงพยาบาล
  • คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น
  • คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น
  • คลินิกทันตกรรม
  • คลินิกเวชกรรม
  • คลินิกเทคนิคการแพทย์
  • คลินิกแพทย์แผนไทย

สรุป

บัตรทองคือสิทธิประกันสุขภาพของรัฐบาลที่ให้บริการทางการแพทย์โดยไม่ต้องจ่ายเงินมาก แตกต่างจากบัตร 30 บาทที่ใช้เฉพาะโรงพยาบาลรัฐคนที่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้คือประชาชนทุกคนที่มีสัญชาติไทย มีสิทธิครอบคลุมการรักษาต่างๆ เช่น การรักษาโรคทั่วไป การผ่าตัด และการดูแลสุขภาพ โดยสามารถสมัครได้ทั้งที่สถานพยาบาลใกล้บ้านและผ่านออนไลน์

คนทำงานไม่ต้องสมัครบัตรทองเอง เพราะสามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ เพียงหางานที่ Jobsdb ที่มีการดูแลประกันสังคม เพื่อใช้สิทธิรักษาโรคในอนาคต

คำถามที่เกี่ยวข้องกับการบัตรทอง (FAQ)

ในส่วนนี้จะตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับบัตรทอง เพื่อให้เข้าใจสิทธิประโยชน์และกระบวนการต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

รู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีบัตรทอง

  • เช็กสิทธิได้หลายช่องทาง เช่น  
  • โทรสายด่วน สปสช. 1330 กด 2  
  • เว็บไซต์ www.nhso.go.th หรือ https://eservices.nhso.go.th  
  • แอปพลิเคชัน สปสช. บน Android และ iOS  
  • ตรวจสอบสิทธิผ่าน ไลน์ สปสช.

ใช้บัตรทองได้กี่ครั้งต่อปี

บัตรทองใช้ได้ตามความจำเป็นของการรักษา โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี แต่จะเข้ารับบริการได้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน ไม่ว่าจะไปที่ร้านยาหรือหน่วยบริการ สปสช. แห่งใดก็ตาม

ใช้สิทธิบัตรทองกับการทำฟันได้กี่ครั้ง

สำหรับการใช้สิทธิบัตรทองในการทำฟันที่คลินิกทันตกรรมเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" ผู้ใช้สิทธิจะสามารถใช้บริการได้ปีละ 3 ครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามเงื่อนไขที่กำหนด

สิทธิบัตรทองอยู่ได้นานกี่ปี

บัตรทองไม่มีวันหมดอายุ สิทธิการรักษาจะคงอยู่จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การสมัครใหม่หรือการย้ายหน่วยบริการ แต่ต้องทบทวนสิทธิเป็นระยะตามที่ สปสช. กำหนด

ออกจากประกันสังคมแล้วใช้สิทธิบัตรทองได้เลยไหม

หลังจากออกจากประกันสังคมแล้วสามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ทันที แต่ต้องสมัครและตรวจสอบสิทธิผ่าน สปสช. ก่อน.

More from this category: แหล่งข้อมูลและเทมเพลต

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา