เมื่อคุณมีแคมเปญออนไลน์ คุณก็จะซื้อ สื่อออนไลน์, ลงโฆษณาแบนเนอร์ออนไลน์, ลงโฆษณาใน Search Engine หรือ Social Media จากนั้น คุณทดสอบ โฆษณาออนไลน์ ทั้งความสร้างสรรค์และเนื้อหาของโฆษณา แล้วคุณก็เปิดตัวเคมเปญออนไลน์ ผู้เข้าชมจำนวนมากก็จะเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณ คุณอาจจะคิดว่าทุกอย่างคงจะจบเพียงแค่นี้ แต่จริงแล้วไม่ใช่เพียงแค่นั้น
เมื่อมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเป็นจำนวนมาก คุณก็ต้องการให้พวกเขากระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ลงทะเบียนเป็นสมาชิก ซื้อ สินค้าออนไลน์ หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เป็นต้น การกระทำเหล่านี้เรียกว่า Conversion ต่อให้คุณมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเป็นพันเป็นหมื่นต่อวัน แต่ไม่มีใครกระทำใด ๆ (No conversion) แคมเปญการตลาดของคุณก็ล้มเหลว นั่นหมายถึงเงินโฆษณาของคุณที่ต้องสูญเสียไปด้วย
การดึงดูดให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นจำนวนมากนั้นไม่ใช่เรื่องยากครับ แต่จะเกิด Conversion ไม่ใช่เรื่องง่าย และนี่คือหน้าที่ของ Landing Page
Landing Page คือหน้าเว็บไซต์ที่ผู้เข้าชมจะเข้าชมหลังจากที่คลิกโฆษณาออนไลน์ หน้าที่ของ Landing Page จะต้องจูงใจให้ผู้เข้าชมอยู่เว็บไซต์ของคุณให้นานที่สุด และเกิดความสนใจในบริการและสินค้าของคุณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณอย่างใดอย่างหนึ่ง
ถ้าคุณทำ Landing Page เป็นแบบฟอร์มรับสมัคร ผู้เข้าชมก็ไม่ชอบที่จะกรอกแบบฟอร์ม หรือไม่ก็ไม่ไว้ใจคุณที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคล
ถ้าคุณทำ Landing Page เป็นข้อมูลจำนวนมากให้อ่าน ผู้เข้าชมก็ไม่ชอบการอ่านอีก
ถ้าคุณทำ Landing Page เป็นรายการสินค้าโปรโมชั่นสุดแรง ผู้เข้าชมก็กลัวถูกหลอกลวงจากการซื้อออนไลน์
ทำ Landing Pageจึงเป็นอะไรที่ไม่ง่ายและก็ยากที่จะให้ผู้เข้าชมกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เข้าชมเหล่านั้นเป็นผู้เข้าชมครั้งแรกของคุณด้วย ลองดูเทคนิคเหล่านี้ว่าจะปรับปรุงทำ Landing Page ของคุณได้อย่างไร
1. กำหนดเป้าหมายของ Conversion ให้ชัดเจน อาจจะเป็นการซื้อสินค้า ลงทะเบียนสมาชิก เป็นต้น
2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ชม Landing Page ผู้เข้าชมแต่ละกลุ่มเป้าหมายจะมีความสนใจที่แตกต่างกัน ทั้งเนื้อหาและความสร้างสรรค์ก็แตกต่างกันไปด้วย คุณอาจจะต้องทำงานวิจัยว่า กลุ่มเป้าหมายสนใจเรื่องใดและคุณควรจะนำเสนออะไร
3. กำจัดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นทิ้ง Landing Page ไม่ใช่หน้าแรกของเว็บไซต์ คุณไม่จำเป็นต้องมีเมนูหรือเนื้อหาอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับแคมเปญของคุณ คุณควรจะมีเนื้อหาที่ตรงประเด็นเกี่ยวกับแคมเปญของคุณและจะต้องสัมพันธ์กับเนื้อหาของโฆษณาก่อนที่จะมา Landing Page ด้วย ระวังอย่าให้มีโปรโมชั่นที่ซ้ำซ้อนหรือเบี่ยงเบนความสนใจ
4. เนื้อหาและงานสร้างสรรค์ของโฆษณากับ Landing Page จะต้องสัมพันธ์กัน อย่างน้อยผู้เข้าชมเว็บไซต์ก็จะไม่เกิดความสับสนว่าเขามาถูกที่หรือเปล่าและมันก็จะสื่อสารกับผู้เข้าชมได้ง่ายขึ้นด้วย
5. หลีกเลี่ยงลิงค์ที่ไม่จำเป็นออก คุณจะต้องพยายามให้ผู้เข้าชมอยู่แต่ภายในหน้า Landing Page ของคุณให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงลิงค์ที่ไม่เป็นจำเป็น ไม่เช่นฉะนั้น พวกเขาอาจจะหลุดไปจากความตั้งใจสู่เป้าหมายของคุณได้
6. เน้นลิงค์หรือปุ่มที่ทำให้เกิด Conversion ให้เด่นและง่ายต่อผู้เข้าชมเพื่อบรรลุเป้าหมายของคุณ การใช้สี รูปแบบตัวอักษรและตำแหน่งที่วางของลิงค์หรือปุ่มมีความสำคัญอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งตรงกลางและอยู่ในหน้าแรกโดยไม่ต้อง Scroll Down จะเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด
7. ถ้า Conversion ของคุณจะต้องให้ผู้เข้าชมกรอกข้อมูลลงแบบฟอร์ม คุณควรจะตัดข้อมูลหรือฟิลด์ที่ไม่จำเป็นออก ออกแบบแบบฟอร์มให้สั้นที่สุดและง่ายที่สุด
8. สุดท้าย.... ทดสอบ ทดสอบ และทดสอบ คุณทดสอบกับกลุ่มเล็ก ๆ ของกลุ่มเป้าหมาย โดยพิจารณาว่า Landing Page ได้รับความสนใจหรือไม่? เนื้อหาตรงกับโฆษณาของคุณหรือไม่? และอื่น ๆ ตามข้างต้น
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ