Key Takeaway
เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัย หลายคนอาจคิดว่าเรื่องยากและท้าทายที่สุดในชีวิตจบลงแล้ว แต่จริงๆ แล้ว การเป็นเด็กจบใหม่นั้นท้าทายยิ่งกว่า นอกจากต้องมีความรู้ความชำนาญเฉพาะทางที่เรียนมาแล้ว ยังต้องมี “ทักษะชีวิต” ที่จะช่วยให้เราปรับตัวได้ดีในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การใช้ชีวิต การตัดสินใจอย่างมีเหตุผล บริหารจัดการชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้การเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ราบรื่นแล้ว ยังเป็นการวางรากฐานชีวิตให้มั่นคงในระยะยาวอีกด้วย
มาดูกันว่าทักษะชีวิตที่จำเป็นและควรมีในศตวรรษที่ 21 มีอะไรบ้าง พร้อมเทคนิคพัฒนาตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ
ทักษะชีวิต (Life Skills) คืออะไร? องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ความหมายของทักษะชีวิตว่าเป็น “ความสามารถของบุคคลในการปรับตัวและจัดการกับปัญหาหรือความท้าทายต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม” ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่เป็นภาระของสังคม และพร้อมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างมั่นคง
โดยการมีทักษะชีวิตไม่ได้จำกัดแค่การรู้เท่าทันปัญหา แต่ยังรวมถึง การคิดอย่างมีเหตุผล รู้จักควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจอย่างรอบคอบ การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันได้
ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เป็นทักษะการใช้ชีวิตที่จำเป็นสำหรับผู้คนในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่โรงเรียนไม่ได้สอน เพื่อให้เราปรับตัวได้ในสังคมที่เปลี่ยนเร็วและซับซ้อน โดยทักษะเหล่านี้ช่วยให้จัดการปัญหา อารมณ์ และความสัมพันธ์ได้ดีขึ้น รวมถึงการเตรียมทักษะควรรู้ก่อนเริ่มชีวิตทำงาน และทักษะชีวิตที่ควรมีก่อนเริ่มงานครั้งแรก ได้แก่
ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication) แม้ดูพื้นฐาน แต่ช่วยเพิ่มแต้มต่อทั้งในการทำงาน ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น เพราะการสื่อสารที่ดีไม่ใช่แค่พูดเก่ง แต่ต้องถ่ายทอดความคิดและเจตนาอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น การแสดงความคิดเห็น ชื่นชม หรือปฏิเสธอย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญสำหรับเด็กจบใหม่
เทคนิคฝึกทักษะการสื่อสารให้ดีขึ้น เช่น คิดให้รอบคอบก่อนพูด ใช้ภาษากายให้สอดคล้องกับคำพูด พูดให้ชัดเจน กระชับ ได้ใจความ ใส่ใจคู่สนทนาผ่านการสังเกตท่าทีและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ และฟังอย่างตั้งใจ
เป็นทักษะชีวิตหนึ่งที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 ช่วยให้เราสามารถประเมินข้อสรุปจากหลักฐานหรือสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง โดยปราศจากอารมณ์และอคติ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์ทางสังคมที่ซับซ้อนแล้ว ยังช่วยป้องกันการถูกครอบงำทางความคิดได้อีกด้วย
เคล็ดลับฝึกทักษะชีวิตด้านการคิดวิเคราะห์เริ่มจากรู้จักตั้งคำถาม อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยินหรืออ่านมาในทันที ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน ไม่เชื่อข้อมูลจากแหล่งเดียว อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล ใช้เหตุผลและตรรกะในการพิจารณา ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัว และตรวจสอบความคิดของตัวเองอยู่เสมอว่ามีข้อผิดพลาดหรืออคติหรือไม่
สิ่งหนึ่งในทักษะชีวิตที่โรงเรียนไม่ได้สอน คือทักษะการทำงานเป็นทีม เป็นความสามารถในการร่วมมือกับผู้อื่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยสมาชิกในทีมต้องเข้าใจวัตถุประสงค์เดียวกันและแบ่งงานอย่างเหมาะสม การทำงานเป็นทีมช่วยเพิ่มคุณภาพของงาน ลดข้อผิดพลาด สร้างบรรยากาศที่ดี และเปิดโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อแก้ปัญหาร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีฝึกทักษะการใช้ชีวิตในโลกการทำงาน ได้แก่ เข้าใจบทบาทและความรับผิดชอบของตนเองและผู้อื่น การสื่อสารอย่างเปิดเผยและต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน มอบหมายงานตามความถนัดของสมาชิก สร้างบรรยากาศการสนับสนุนและช่วยเหลือกัน และเมื่อเกิดอุปสรรคในการทำงาน ควรใช้ความคิดสร้างสรรค์และการร่วมมือกันในการหาทางออกอย่างรวดเร็วและเหมาะสม
ทักษะที่สำคัญในชีวิตการทำงาน หนึ่งในนั้นคือทักษะการใช้ Microsoft Office ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เด็กจบใหม่มีโอกาสในการได้งานเป็นอย่างมาก เพราะ Microsoft Office เป็นโปรแกรมพื้นฐานที่พบได้ในแทบทุกสายงาน เช่น การทำงานเอกสาร การทำงานตาราง การคำนวณ การวิเคราะห์ข้อมูล การทำสไลด์นำเสนองาน
โดยวิธีฝึกทักษะการใช้ Microsoft Office สามารถแบ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้บ่อยๆ ได้ดังนี้
ทักษะการปฏิเสธผู้อื่นให้เป็น คือทักษะชีวิตที่ควรมีในปัจจุบัน ช่วยให้เราสามารถรักษาขอบเขตและความสมดุลในชีวิตได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่นและยังคงความสัมพันธ์ที่ดีไว้ได้ การปฏิเสธอย่างมีศิลปะช่วยปกป้องเวลา ลดเครียด และหลีกเลี่ยงการรับภาระเกินความสามารถ พร้อมสร้างความมั่นใจและความเคารพตัวเอง
วิธีฝึกทักษะนี้เพื่อให้ชีวิตมีความสุขขึ้นสามารถทำได้ด้วยการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเหตุผลที่ถนอมน้ำใจคนฟัง ไม่ห้วนจนเกินไป หรือกลัวว่าการปฏิเสธทันทีจะทำให้รู้สึกแย่ แนะนำเป็น “ขอเวลาทบทวน” และหากต้องการรักษาความสัมพันธ์อันดี แนะนำเป็นปฏิเสธแล้วรับฟัง เสนอทางออก และปล่อยวาง เดินหน้าต่อไป
ทักษะชีวิต (Life Skills) หนึ่งที่เด็กจบใหม่ควรรู้เมื่อทำงานไปได้สักระยะก็คือความรู้เกี่ยวกับภาษี การยื่นภาษีออนไลน์ ความเข้าใจในระบบภาษีช่วยให้เราสามารถวางแผนการเงิน ลดภาระภาษีที่ไม่จำเป็น และปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายและการเสียค่าปรับจากการยื่นภาษีผิดพลาด การมีความรู้ด้านภาษียังเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน
ทักษะความรู้ความเข้าใจในภาษี จะช่วยให้การใช้ชีวิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการศึกษากฎหมายและข้อบังคับภาษีที่เกี่ยวข้อง ติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงทางภาษีอยู่เสมอ และหากมีข้อสงสัยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเมื่อจำเป็น
ทักษะชีวิตสำคัญที่เด็กจบใหม่ควรรู้เมื่อได้เริ่มงานครั้งแรก หลังได้รับเงินเดือนแล้วก็คืออะไร? นั่นคือทักษะการวางแผนทางการเงิน ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ๆ ที่เด็กจบใหม่ต้องเจอเมื่อเข้าสู่โลกการทำงาน และมีธุระ เรื่องต่างๆ มากมายที่ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง รวมถึงการบริหารการเงิน ตั้งเป้าหมาย จัดงบประมาณ และเตรียมรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เคล็ดลับฝึกทักษะการบริหารวางแผนทางการเงินเริ่มจากการสร้างเป้าหมายในชีวิต อาจเป็นได้ทั้งระยะสั้นหรือระยะยาวก็ได้ เมื่อเริ่มทำงานก็คือเพิ่งเริ่มมีรายได้ ควรเก็บออมเงินมากกว่าสร้างหนี้สินตั้งแต่เนิ่นๆ หารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ อาจมาจากงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบทำ และควรศึกษาเรื่องภาษีและวางแผนการลงทุนเพื่อความมั่นคงในอนาคต
เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน ทักษะชีวิตที่สำคัญนอกจากความรู้เรื่องภาษีและการวางแผนทางการเงินแล้ว คือกฎหมายแรงงาน เพื่อเข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเอง และไม่ตกเป็นเหยื่อของการถูกนายจ้างเอาเปรียบ ลดความขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ที่มักเกี่ยวข้องกับเรื่องวันลา ค่าจ้าง และเงินชดเชย
โดยการฝึกทักษะชีวิตนี้สามารถทำได้ด้วยการศึกษากฎหมายแรงงาน สิทธิของลูกจ้าง ทั้งสิทธิการใช้วันลาต่างๆ เช่น ลากิจ ลาป่วย ลาไปรับราชการทหาร ฯลฯ รวมถึงค่าตอบแทน ระยะเวลาในการทำงาน ค่าตอบแทนเมื่อทำงานล่วงเวลาหรือ OT และการแจ้งลาออก
ประกันสังคมเป็นระบบสวัสดิการที่ช่วยสร้างหลักประกันและความมั่นคงในชีวิต เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ว่างงาน หรือเสียชีวิต ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ความรู้ด้านนี้ยังช่วยให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิประโยชน์ ส่งเงินสมทบ และวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
วิธีฝึกทักษะชีวิตในด้านความรู้ความเข้าใจในประกันสังคมเริ่มจากศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายประกันสังคม และเรียนรู้วิธีการยื่นขอรับสิทธิและการใช้บริการประกันสังคม
AI กำลังเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในทุกอุตสาหกรรม การเข้าใจและสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้ จึงเป็นทักษะสำคัญของคนทำงานในยุคดิจิทัล ความสามารถในการใช้ AI อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในสายอาชีพ จึงเป็นทักษะชีวิตที่เด็กจบใหม่หรือคนทั่วไปควรมีไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การฝึกทักษะชีวิตด้านนี้สามารถเริ่มที่การเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือ เข้าใจทั้งความสามารถและข้อจำกัดของ AI และรู้จักนำมาปรับใช้ในการทำงานให้เป็นประโยชน์
ทักษะชีวิตไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้ชีวิตส่วนตัว แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาตนเองในสายงานด้วย การมีทักษะชีวิตที่ดี เช่น การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ การจัดการอารมณ์ หรือการทำงานร่วมกับผู้อื่น ล้วนส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการปรับตัว เรียนรู้ เติบโตในที่ทำงาน และยังช่วยในการหางานให้ตอบโจทย์เราที่สุด เช่น ทำให้เรารู้จักประเมินตนเอง ปรับตัวเข้ากับผู้คนและสถานการณ์ได้ดี รวมถึงเกิดความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอีกด้วย
การพัฒนาทักษะชีวิตสำหรับเด็กจบใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก โดยมีเทคนิคดังนี้
ทักษะชีวิต (Life Skills) คือความสามารถของบุคคลในการปรับตัวและจัดการกับปัญหาหรือความท้าทายต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โดยรวมถึงการคิดอย่างมีเหตุผล รู้จักควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจอย่างรอบคอบด้วย ทักษะชีวิตที่สำคัญสำหรับเด็กจบใหม่ในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การคิดวิเคราะห์ การใช้ Microsoft Office ความรู้ด้านภาษี ประกันสังคม กฎหมายแรงงาน การบริหารจัดการเงิน การทำงานเป็นทีม ฯลฯ
หากกำลังมองหางานที่ช่วยพัฒนาทักษะชีวิตให้เราเติบโตขึ้นในโลกของการทำงาน แนะนำแพลตฟอร์ม Jobsdb ที่รวมตำแหน่งงานจากบริษัทชั้นนำ ตอบโจทย์เด็กจบใหม่