4 เคล็ดลับงานอดิเรกสร้างรายได้ ทำตามได้จริง
งานอดิเรกเป็นการสร้าง Work-life balance ที่ดีทางหนึ่ง เมื่อเราใช้เวลาว่างกับสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นถักโครเชต์ ทำงานศิลปะ หรือแก้โค้ด ล้วนเป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนที่ทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน
แม้ว่าค่าเฉลี่ยชั่วโมงทำงานจะอยู่ที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน อีกทั้งยังมีภาระหน้าที่เรื่องครอบครัวที่ต้องดูแล รวมไปถึงเวลาที่ใช้ไปกับการเดินทาง ทำให้หาเวลาว่างได้น้อยลง แต่ถึงอย่างไร การทำงานอดิเรกก็เป็นวิธีคลายเครียดที่ดี และอาจเป็นแหล่งรายได้ใหม่ได้อีกด้วย แม้บางคนใช้งานอดิเรกเป็นหนทางหลีกหนีจากโลกแห่งความเป็นจริง แต่บางคนก็พัฒนางานอดิเรกเพื่อสร้างรายได้ และทุกคนก็สามารถเปลี่ยนกิจกรรมในเวลาว่ามาเป็นงานอดิเรกสร้างรายได้ได้เช่นกัน
ข้อดีของการเปลี่ยนงานอดิเรกเป็นอาชีพ
เป็นสิ่งดีสำหรับใครที่กำลังคิดจะเปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นอาชีพ มีผู้คนอีกมากมายที่กำลังทำเช่นเดียวกัน เพราะปัจจุบันตลาดเปิดกว้างทางความคิดมากขึ้น ดังนั้นไม่ว่างานอดิเรกที่ทำอยู่จะแปลกใหม่แค่ไหน ก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจได้แน่นอน
1. รักและหลงใหลที่จะทำ
เมื่อเรามีความหลงใหลและชื่นชอบในสิ่งใด ก็จะสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้เป็นเวลานาน และพร้อมที่จะศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาฝีมือ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เริ่มต้นธุรกิจหรืออาชีพได้ไม่ยาก ในขณะเดียวกันการทำธุรกิจในสิ่งที่ชอบก็ทำให้เราได้สนุกที่ได้ลงมือทำเช่นกัน
2. ได้รู้ถึงศักยภาพของตัวเอง
บางคนทำงานได้ดีภายใต้ความกดดันหรือทำงานตามกำหนดเวลา ถึงแม้ว่าจะเครียด เพียงแค่เปลี่ยนแนวคิดใหม่ว่ากำลังทำสิ่งที่ท้าทาย ก็จะทำให้งานสำเร็จได้ อย่างการกำหนดว่าจะต้องวาดภาพให้เสร็จในหนึ่งสัปดาห์ เราก็จะรู้สึกท้าทายมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเมื่อรับงานลูกค้ามาแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ตัวเราพัฒนาและได้รู้ว่ามีอะไรที่สามารถทำได้อีกบ้าง เพียงแค่ต้องระวังอย่าฟืนตัวเองมากเกินไปจนอาจนำไปสู่ ภาวะหมดไฟ ได้
3. สร้างรายได้เพิ่ม
หลายคนมักเริ่มคิดถึงการทำงานอดิเรกสร้างรายได้เป็นงานเสริม โดยการเป็น Freelance ซึ่งข้อดีของสิ่งนี้คือ ทำให้ได้เป็นนายตัวเองและสามารถจัดสรรตารางเวลาของตัวเองได้ในแต่ละวัน กำหนดเป้าหมายได้เอง รวมถึงให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ แต่ถ้าทำงานประจำและมีเวลาว่างเพียงไม่กี่ชั่วโมงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ การงานอดิเรกสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ ทั้งนี้หากต้องการทำจริงจังขึ้น สามารถลงทุนกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ได้ อย่างการเปลี่ยนแล็บท็อปเครื่องเก่า เพื่อช่วยเปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นรายได้เสริมได้
4. มีทางเลือกในการออกจากงานประจำ
หากรู้สึกไม่สนุกหรือไม่ชอบงานประจำที่ทำอยู่ งานอดิเรกอาจจะเป็นทางออกที่ดีได้ สำหรับคนที่มีความมุ่งมั่น เมื่อพบสิ่งที่ชอบก็ทำให้เริ่มต้นอาชีพใหม่ได้ โดยการทำงานอดิเรกสร้างรายได้ แม้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้รู้สึกสับสนหรือลังเลอยู่บ้าง แต่เมื่อมุ่งมั่นตั้งใจทำจนบรรลุเป้าหมาย ผลลัพธ์นั้นจะทำให้เรารู้สึกดี
ข้อเสียของการเปลี่ยนงานอดิเรกเป็นอาชีพ
ถึงแม้ว่าการทำงานอดิเรกสร้างรายได้จะดูน่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน มาดูข้อเสียของการเปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นอาชีพกัน
1. เพลิดเพลินกับงานอดิเรกน้อยลง
หนึ่งในข้อเสียของการเปลี่ยนงานอดิเรกสร้างรายได้แบบเป็นอาชีพคือ จะไม่รู้สึกแปลกใหม่ ถึงแม้จะทำได้ดี หลังจากสนุกกับการทำงานอดิเรกในเวลาว่างมาหลายปี แต่ตอนนี้เมื่อกลายเป็นงานจริง ๆ จะต้องหาลูกค้าและสร้างความประทับใจให้ลูกค้า เมื่อนั้นก็ต้องกังวลถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ความรู้สึกสนุกเพลิดเพลินก็จะลดน้อยลง หรืออาจกลัวที่จะลงมือทำในสิ่งที่รักและทำให้ยอมแพ้หรือหันไปหางานใหม่ได้เลย
2. คิดไม่ออก หมดความคิดสร้างสรรค์
หากงานอดิเรกที่กลายเป็นอาชีพคืองานศิลปะ เช่น การออกแบบกราฟิก หรือการเขียนคำโฆษณา หลายคนอาจเผชิญกับคำว่า “คิดไม่ออก” ได้ เพราะแต่เดิมการทำสิ่งเหล่านี้ ยังมีเวลาเหลือเฟือสำหรับพักหรือรีเฟรชตัวเองให้สดใส แต่เมื่อกลายมาเป็นอาชีพหลัก จึงต้องทำงานตามกำหนดเวลา ในบางครั้งอาจถึงทางตันและทำให้งานขาดประสิทธิภาพได้
3. การแข่งขันสูง
ถึงแม้ว่าตลาดจะมีขนาดใหญ่และขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการ แต่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นไม่ได้แปลว่ามีที่ว่างสำหรับมือใหม่ หากกำลังวางแผนเป็นฟรีแลนซ์ ควรต้องพร้อมที่แข่งขันในตลาดที่ดุเดือด นำเสนอสิ่งที่แตกต่างเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ด้วย
เคล็ดลับการเริ่มต้นสร้างรายได้จากงานอดิเรก
หลังจากได้ทราบข้อเสียกันไปแล้ว และใครที่ยังคงมีความกล้า ความมุ่งมั่นที่จะทำงานอดิเรกสร้างรายได้อยู่ ไปดูเคล็ดลับในการเริ่มต้นสร้างรายได้จากงานอดิเรกกันเลย
1. พัฒนาทักษะอยู่เสมอ
เริ่มจากประเมินตัวเองและพิจารณาทักษะที่มีว่าทักษะไหนที่ยังขาด ลองลงเรียนเพิ่มเติม 2-3 คอร์ส เพื่อให้พร้อมรับงานอย่างจริงจัง ฝึกฝนฝีมือและทักษะให้เหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจบริการของเรา
2. หาแนวคิดทางธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร
ในขณะที่ตลาดมีการแข่งขันสูง เราจึงต้องโดดเด่นและแตกต่าง ลองใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์เพื่อโปรโมต ซึ่งมีตัวอย่างดังนี้
- งานอดิเรกด้านศิลปะ เช่น การออกแบบกราฟิก ดนตรี ถ่ายภาพ การเขียน งานฝีมือ ฯลฯ ในฐานะฟรีแลนซ์ทำให้มีอิสระในการสร้างแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และยังสามารถโพสต์กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงานในโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการมองเห็นได้
- หากชอบซ่อมแซมสิ่งของในเวลาว่าง ซ่อมสิ่งต่าง ๆ ในบ้าน ลองเลือกงานที่เกี่ยวกับช่างไม้หรืองานช่างเชื่อมได้
- สำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ลองสร้างเมนูของตัวเองทั้งอาหารและเครื่องดื่ม แล้วขายในชุมชนออนไลน์
3. เพิ่มการมองเห็น
การใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram, Facebook หรือ Twitter โดยเริ่มจากการแนะนำสิ่งที่ทำพร้อมประโยชน์ของสิ่งนั้นเพื่อให้คนรู้จัก และอย่าลืมพยายามทำให้เนื้อหามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
4. ติดตามความคืบหน้า
ตั้งเป้าหมายแล้วลงมือทำ เมื่อผ่านไป 2-3 เดือน ให้กลับมาดูว่าทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ วิธีนี้จะเป็นกุญแจที่ช่วยให้เราเติบโตในอาชีพใหม่นี้ได้ ทั้งนี้ไม่มีถูกผิดหรือกำหนดเวลาที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นอาชีพ ดังนั้นหากมีทรัพยากรมากพอ ก็สามารถใช้เวลากับมันได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการทำงานอดิเรกสร้างรายได้จะมีความยืดหยุ่น แต่ก็ควรติดตามความคืบหน้าเสมอ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป รวมถึงจัดลำดับความสำคัญของงานได้นั่นเอง
ส่วนใครที่ต้องการวางแผนรายจ่ายสามารถใช้เครื่องมือ ตัวช่วยคำนวณเงินเดือนหรือค่าตอบแทน ของ JobsDB ได้ ก่อนตัดสินใจลาออกมาทำอาชีพเสริมจากงานอดิเรก เพราะสิ่งนี้มักมาพร้อมกับความเสี่ยงมากมาย โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านการเงิน
