ลาคลอดได้กี่วัน? ตามสิทธิและข้อกำหนดลาคลอดของกฎหมายแรงงาน

ลาคลอดได้กี่วัน? ตามสิทธิและข้อกำหนดลาคลอดของกฎหมายแรงงาน
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 11 March, 2025
Share

Key Takeaway

  • พนักงานหญิงมีสิทธิ ลาคลอดได้ 98 วัน โดยแบ่งเป็น 45 วันก่อนคลอด และ 45 วันหลังคลอด ตาม กฎหมายคุ้มครองแรงงาน และสามารถได้รับการชดเชยจาก ประกันสังคม ในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย ในช่วง 90 วันของการลาคลอด
  • สิทธิลาคลอดคือ 98 วัน โดยประกันสังคมชดเชย 50% ของค่าจ้าง สำหรับพนักงานบริษัทเอกชนและข้าราชการอาจได้รับการชดเชยเพิ่มตามนโยบาย ส่วนอาชีพอิสระขอรับสิทธิจากบัตรทองหรือประกันสังคมตามเงื่อนไข
  • การลาคลอดจะได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคมในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยจะจ่ายในระยะเวลา 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือน ซึ่งรวมทั้งระยะเวลาลาคลอดก่อนและหลังคลอด 

หลายคนอาจสงสัยว่าลาคลอดได้กี่วันและมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างตามกฎหมายลาคลอด รวมถึงสิทธิวันหยุดและวันลาตามกฎหมายที่ครอบคลุมอะไรบ้าง ในกรณีที่ต้องหยุดงานจะมีผลต่อการคิดเงินเดือนพนักงานลาคลอดอย่างไร? 

ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การลาคลอดบุตร รวมถึงสิทธิที่ได้รับจาก ประกันสังคมลาคลอดว่าจะได้รับเงินชดเชยเท่าไร และเงื่อนไขของการลาคลอด 98 วัน เป็นอย่างไร พร้อมทั้งตอบคำถามที่หลายคนสงสัย เช่น ลาคลอดประกันสังคมจ่ายเท่าไหร่ และมีข้อกำหนดอื่นๆ อย่างไรเกี่ยวกับ สิทธิลาคลอด เพื่อให้คุณสามารถวางแผนชีวิตและการทำงานได้อย่างมั่นใจ

ลาคลอดได้กี่วันตามกฎหมาย

ลาคลอดได้กี่วันตามกฎหมาย

ลาคลอดได้กี่วัน? ตามกฎหมายแรงงานในประเทศไทยกำหนดให้พนักงานหญิงสามารถลาคลอดได้ 98 วัน โดยแบ่งเป็น 45 วันก่อนคลอดและ 45 วันหลังคลอด ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตาม กฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากเป็นสมาชิกประกันสังคม จะได้รับชดเชยเงินเดือนในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ยนาน 90 วัน ทั้งนี้การใช้สิทธิ์การลาคลอดต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายแรงงาน และไม่สามารถใช้ได้หากไม่ได้สมทบตามเงื่อนไข

สิทธิประกันสังคมช่วยค่าตรวจครรภ์

คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าประกันสังคมช่วยค่าตรวจครรภ์ได้สูงสุด 1,500 บาท เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลครรภ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานการแพทย์ ซึ่งแบ่งจ่ายเป็นช่วง ดังนี้

  • ครั้งที่ 1 อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 500 บาท
  • ครั้งที่ 2 อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 300 บาท
  • ครั้งที่ 3 อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 300 บาท
  • ครั้งที่ 4 อายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 200 บาท
  • ครั้งที่ 5 อายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 40 สัปดาห์ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 200 บาท
สิทธิที่ได้รับจากการลาคลอด

สิทธิที่ได้รับจากการลาคลอด

สิทธิการลาคลอดบุตรไม่ได้มีรูปแบบเดียวกันสำหรับทุกคน แต่จะแตกต่างกันไปตามประเภทของอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเอกชน ข้าราชการ หรือ อาชีพอิสระ โดยครอบคลุมทั้งระยะเวลาการลาคลอด เงินชดเชยจากประกันสังคม และสวัสดิการจากนายจ้างหรือรัฐ มาดูกันว่าสิทธิของแต่ละกลุ่มเป็นอย่างไรบ้าง

สิทธิลาคลอดของพนักงานบริษัทเอกชน

สิทธิลาคลอดของพนักงานบริษัทเอกชน

สำหรับพนักงานบริษัทเอกชน กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กำหนดให้มีสิทธิลาคลอดได้ตามระยะเวลาที่กำหนด พร้อมได้รับเงินชดเชยบางส่วนจากนายจ้างและประกันสังคมลาคลอด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ต้องหยุดงานดูแลสุขภาพตัวเองและลูกน้อย โดยสิทธิที่พนักงานเอกชนจะได้รับ มีดังนี้

  • พนักงานหญิงมีสิทธิลาคลอดได้สูงสุด 98 วัน รวมวันหยุดราชการและวันหยุดประจำสัปดาห์
  • นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้พนักงานไม่น้อยกว่า 45 วันแรกตามอัตราค่าจ้างปกติ
  • ประกันสังคมจ่ายเงินชดเชยให้ 50% ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน
  • ได้รับเงินช่วยเหลือค่าคลอดบุตรเพิ่มเติมอีก 25,000 บาทต่อครั้ง
สิทธิลาคลอดของพนักงานรัฐวิสาหกิจ

สิทธิลาคลอดของพนักงานรัฐวิสาหกิจ

พนักงานรัฐวิสาหกิจมีสิทธิลาคลอดตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเช่นเดียวกับพนักงานเอกชน แต่จะมี เงื่อนไขและสวัสดิการที่แตกต่างกันไปตามระเบียบของแต่ละหน่วยงาน โดยมีสิทธิที่พนักงานรัฐวิสาหกิจจะได้รับดังนี้

  • พนักงานรัฐวิสาหกิจมีสิทธิลาคลอดได้ 60 วัน โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ แม้ว่าบางแหล่งข้อมูลจะระบุว่ามีสิทธิลาได้ถึง 98 วัน แต่รายละเอียดการได้รับค่าจ้างอาจแตกต่างกัน
  • พนักงานรัฐวิสาหกิจจะได้รับเงินเดือนตามปกติ ในช่วง 60 วันของการลาคลอด
  • พนักงานรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกเงินช่วยเหลือค่าคลอดได้ 400 บาทต่อครั้ง ซึ่งน้อยกว่าจำนวนเงิน 15,000 บาทที่พนักงานเอกชนได้รับจากประกันสังคม
สิทธิลาคลอดของข้าราชการ

สิทธิลาคลอดของข้าราชการ

ข้าราชการหญิงมีสิทธิลาคลอดตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเช่นเดียวกับพนักงานเอกชนและรัฐวิสาหกิจ แต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ในบางกรณี โดยเฉพาะเรื่องดังนี้

  • ข้าราชการหญิงมีสิทธิลาคลอดได้ 98 วัน โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
  • ข้าราชการจะได้รับ เงินเดือนตามปกติ ในช่วง 45 วันแรก ของการลาคลอด
  • สามารถลาเพิ่มได้อีก 90 วัน โดยได้รับ เงินเดือนในอัตรา 50%
  • ข้าราชการสามารถเบิกเงินช่วยเหลือค่าคลอดบุตรได้ 400 บาทต่อครั้ง
  • ข้าราชการจะได้รับเงินสวัสดิการสำหรับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย เดือนละ 50 บาทต่อคน โดยเงินช่วยเหลือบุตรนี้ จะได้ไม่เกิน 3 คน และได้ต่อเนื่องจนอายุ 18 ปีบริบูรณ์
  • หากข้าราชการเป็นผู้ประกันตน ก็จะสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ค่าตรวจครรภ์ 1,500 บาท และ เงินสงเคราะห์บุตร 800 บาทต่อเดือน
สิทธิลาคลอดของอาชีพอิสระ

สิทธิลาคลอดของอาชีพอิสระ

สำหรับคุณแม่ที่ประกอบอาชีพอิสระ แม้จะไม่มีนายจ้างที่ให้สิทธิลาคลอดเหมือนพนักงานเอกชนหรือข้าราชการ แต่ยังสามารถใช้สิทธิจาก “บัตรทอง” หรือ “สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ได้ซึ่งจะได้รับสิทธิดังนี้

  • สามารถเข้าถึงบริการดูแลครรภ์และการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กได้ฟรี
  • จะมีค่าใช้จ่าย 30 บาท สำหรับการตรวจครรภ์และการคลอดบุตร (ไม่เกิน 2 ครั้ง)
  • ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่สมัครประกันสังคม จะได้รับเงินชดเชยร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย (สูงสุด 15,000 บาท) นาน 90 วัน เงินช่วยเหลือบุตร 800 บาทต่อเดือน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี และค่าคลอดบุตร 15,000 บาทต่อครั้ง
สิทธิลาคลอดจากประกันสังคม

สิทธิลาคลอดจากประกันสังคม

ตามประกันสังคม (พ.ร.บ.ประกันสังคม) พนักงานที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมตามกฎหมายมีสิทธิลาคลอดและได้รับเงินชดเชยระหว่างการลา เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงการคลอดบุตรและพักฟื้น ซึ่งสิทธิการลาคลอดนี้สามารถใช้ได้ทั้งในกรณีการคลอดธรรมชาติและการผ่าคลอด โดยจะได้รับสิทธิลาคลอดจากประกันสังคมดังนี้

  • ลูกจ้างหญิงผู้ประกันตนมีสิทธิลาคลอดได้ 98 วัน โดยนับรวมวันลาเพื่อตรวจครรภ์ก่อนคลอดด้วย
  • นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้าง 100% ใน 45 วันแรก ของการลาคลอด
  • สปส. จะจ่ายเงินชดเชย 50% ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 45 วัน โดยคิดจากฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน
  • หากมีการแท้งบุตรหลังจากอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป จะมีสิทธิได้รับเงินชดเชย

สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรจากประกันสังคม

ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม (พ.ร.บ.ประกันสังคม) ผู้ที่มีสิทธิประกันสังคมสามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงการตั้งครรภ์และคลอดบุตร โดยสิทธินี้ครอบคลุมระหว่างการลาคลอดและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ไม่เกิน 500 บาท สำหรับอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ 
  • ไม่เกิน 300 บาท สำหรับอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ 
  • ไม่เกิน 300 บาท สำหรับอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ 
  • สำหรับอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ 
  • ไม่เกิน 200 บาท สำหรับอายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 40 สัปดาห์
H2: เงินช่วยเหลือหลังคลอดจากประกันสังคม

เงินช่วยเหลือหลังคลอดจากประกันสังคม

ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม (พ.ร.บ.ประกันสังคม) ผู้ที่มีสิทธิประกันสังคมสามารถได้รับเงินช่วยเหลือหลังคลอด เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองและบุตรหลังจากการคลอดบุตร โดยเงินช่วยเหลือนี้จะจ่ายจากประกันสังคมดังนี้

  • ผู้ประกันตนจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าคลอดบุตรจำนวน 25,000 บาทต่อครั้ง
  • สำหรับผู้ประกันตนที่ลาคลอด สามารถรับเงินชดเชยจากประกันสังคมได้ 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย
  • ระยะเวลาการชดเชยเงินสำหรับการลาคลอด 90 วัน (3 เดือน)
  • ผู้ประกันตนสามารถรับการรักษาพยาบาลหลังคลอดได้ตามสิทธิของประกันสังคม รวมถึงการตรวจสุขภาพหลังคลอดและการรับบริการทางการแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เอกสารที่ใช้เพื่อยื่นขอสิทธิลาคลอด

เมื่อถึงเวลาเตรียมตัวลาคลอด สิ่งหนึ่งที่คุณแม่ควรคำนึงถึงคือ เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอสิทธิการลาคลอด ไม่ว่าจะเป็นสิทธิจากประกันสังคมหรือจากนายจ้าง เอกสารเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้กระบวนการขอลาคลอดของคุณแม่เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เกิดความล่าช้า โดยเอกสารที่ควรเตรียมพร้อมเพื่อยื่นขอสิทธิลาคลอดมีดังนี้

  • แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01
  • สำเนาสูติบัตรบุตร
  • สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร
  • สำหรับผู้ประกันตนชายให้แนบสำเนาทะเบียนสมรส แต่ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนแทน
  • เอกสารอื่นๆ อาจมีเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กร

สรุป

สิทธิลาคลอดเป็นสิทธิพื้นฐานตามกฎหมายแรงงาน โดยลาคลอดได้ 90 วัน ทั้งพนักงานเอกชน ข้าราชการ และอาชีพอิสระ ผู้มีสิทธิประกันสังคมจะได้รับเงินชดเชย ค่าตรวจครรภ์ และการดูแลหลังคลอด ตามข้อกำหนดของกฎหมาย

หากคุณกำลังมองหาตำแหน่งงานที่มีสิทธิประโยชน์ครบครัน รวมถึงสิทธิในการลาคลอด ค้นหางานได้ง่ายๆ ที่ Jobsdb ซึ่งมีทั้งงานจากบริษัทชั้นนำและตำแหน่งที่มอบสิทธิประโยชน์ที่คุณคุ้มค่าตลอดอาชีพการทำงาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลาคลอด (FAQ)

การลาคลอดเป็นสิทธิที่พนักงานทุกคนควรได้รับ แต่ก็มีหลายคำถามเกี่ยวกับสิทธิการลาคลอดและกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในหัวข้อนี้เราจะมาไขข้อสงสัยสิทธิลาคลอด รวมทุกคำถามสำคัญ เช่น ระยะเวลา เงินชดเชย เอกสารที่ต้องใช้ และสิทธิการลาของผู้ชาย เพื่อให้คุณไม่พลาดสิทธิที่ควรได้รับ

การคิดเงินเดือนพนักงานลาคลอด บริษัทจ่ายเท่าไร

พนักงานเอกชนลาคลอด การคิดเงินเดือนพนักงานลาคลอดจะแตกต่างกันไปตามประเภทของหน่วยงาน โดยจะได้รับค่าจ้าง 100% จากนายจ้าง 45 วัน และประกันสังคมจ่ายเพิ่ม 50% ของค่าจ้าง อีก 45 วัน รวมเป็น 90 วัน 

ข้าราชการลาคลอด 98 วัน ได้เงินเดือนเต็ม และสามารถลาเพิ่มได้ 90 วัน โดยได้รับเงินเดือน 50% ส่วนพนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับเงินช่วยเหลือคลอด 400 บาท และช่วยเหลือบุตร 50 บาทต่อเดือน รวมถึงลากิจเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้ 30 วัน (โดยไม่ได้รับเงินเดือน)

ผู้ประกอบอาชีพอิสระสามารถใช้สิทธิบัตรทองฝากครรภ์และรับบริการสร้างภูมิคุ้มกันฟรี โดยจ่าย 30 บาทสำหรับการตรวจครรภ์และการคลอด (ไม่เกิน 2 ครั้ง) หากจ่ายประกันสังคมจะได้รับเงินช่วยเหลือคลอดและสงเคราะห์บุตร นับตั้งแต่เริ่มลาคลอด 98 วัน ทั้งก่อนและหลังคลอด 

ลาคลอด 98 วัน เริ่มนับตั้งแต่ตอนไหน

การลาคลอด 98 วัน นับจากวันคลอด แบ่งเป็นสูงสุด 45 วันก่อนคลอด และที่เหลือหลังคลอด เช่น หากคลอด 1 มกราคม การลาจะสิ้นสุดใน 98 วันหลังคลอด 

ประกันสังคมจ่ายให้พนักงานลาคลอดเท่าไร

ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมลาคลอดจะได้รับเงินชดเชย 50% ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน โดยคำนวณจากเงินเดือน 3 เดือนก่อนลาคลอด และต้องจ่ายประกันสังคมครบ 3 เดือนในช่วง 15 เดือนก่อนคลอด 

ผู้ชายใช้สิทธิลาคลอดเพื่อดูแลภรรยาได้ไหม

สำหรับผู้ชายที่เป็นพนักงานราชการ สามารถใช้สิทธิ์ลาคลอดเพื่อดูแลภรรยาได้ 15 วัน (ไม่ต้องลาติดกัน) สำหรับพนักงานเอกชนชายนั้นยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กร

ลาคลอด ยังต้องจ่ายประกันสังคมไหม

หากคุณแม่ยังเป็นพนักงานที่รับเงินเดือนตามปกติ และยังไม่ได้ลาออกจากงาน ยังจำเป็นต้องจ่ายประกันสังคมตามปกติในช่วงลาคลอด โดยประกันสังคมจะหักจากเงินเดือนตามปกติ 

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

More from this category: ความอยู่ดีมีสุขในที่ทำงาน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา