9 ทรงผมชาย สำหรับหนุ่มออฟฟิศ เสริมบุคลิกดูดี มีความเป็นมืออาชีพ

ทรงผมชายที่เหมาะกับหนุ่มออฟฟิศจะช่วยเสริมลุคให้ดูดี เป็นมืออาชีพ โดยสามารถเลือกทรงผมให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเองจากวิธีเลือกทรงผมชาย ให้เข้ากับบุคลิก การแต่งกาย หรือรูปหน้าต่างๆ โดยสามารถเลือกตัดทรงผมที่เหมาะสำหรับทุกงาน รวมถึงทรงผมในชีวิตประจำวันที่ดูดีเข้ากันตัวเองได้ตามบทความต่อไปนี้

1. ทรงผมชาย Comma Hair 

ทรงผมที่ไม่ตกยุคและยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในการตัดเซตทรงผมผู้ชาย คงต้องยกให้กับทาง Comma Hair เป็นการตัดสั้นพอประมาณให้เซตได้ตั้งแต่ช่วงผมหน้าม้าจนถึงประมาณต้นท้ายทอย ผมทรงนี้จะเป็นการจัดทรงให้มีหน้าม้าปัดโค้งดูเป็นธรรมชาติ

เหมาะกับผู้ชายที่มีรูปหน้าทรงหัวใจ หรือมีคางแหลมแต่ช่วงศีรษะมีความโค้งนั่นเอง ด้วยการจัดแต่งทรงหน้าม้าให้มีความโค้งเป็นธรรมชาติพร้อมกับเปิดให้เห็นช่วงหน้าผากเล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูแคบ ดูคมขึ้น และเสริมบุคลิกให้ดูดีเข้ากับทุกการแต่งกาย 

ใครที่เป็นสายหนุ่มออฟฟิศแล้วอยากหาทรงผมแบบ Everyday looks ต้องขอแนะนำทรง Comma Hair สุดคลาสสิกที่ไม่ตกเทรนด์ แม้ว่ามีรูปหน้าแบบอื่นก็สามารถเลือกตัดเซตทรงนี้ได้เช่นกัน ยกเว้นหนุ่มที่มีรูปหน้าทรงกลมไม่แนะนำให้เลือกตัดทรงนี้ 

2. ทรงผมชายเปิดข้างสูง

สำหรับใครที่เป็นสายหนุ่มเท่ มีบุคลิกภาพที่ดูโฉบเฉี่ยว แนะนำทรงผมชายเปิดข้างแบบสูง จะเป็นการตัดที่คล้ายกับทรง Undercut แต่การตัดทรงผมชายแบบเปิดข้างสูงจะเน้นไถผมช่วงบนขึ้นไปด้วย เน้นเหลือผมช่วงหน้าม้าและช่วงบนหัวให้ยาวมากที่สุดเพื่อการจัดแต่งทรงผมชายเท่ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น

นอกจากจะทำให้ได้บุคลิกที่ดูสนุกสนานแล้ว ยังสามารถเซตให้เป็นทรงที่ดูสุภาพเหมาะกับงานทางการหรือเซตเป็นทรงสำหรับไปปาร์ตี้ก็ได้เช่นกัน หากหนุ่มๆ คนไหนเป็นคนที่ขี้เบื่อ ไม่อยากเปลี่ยนทรงผมบ่อยๆ แนะนำให้เลือกตัดทรงผมชายเปิดข้างสูง รับรองว่าเปลี่ยนทรงได้ทุกวัน สนุกกับการเปลี่ยนลุคอย่างแน่นอน

สำหรับผู้ชายที่ตัดผมทรงนี้แล้วเข้ามากที่สุดจะเป็นผู้ชายที่มีรูปหน้าทรงกลม ด้วยการไถเพื่อเลี้ยงผมช่วงบนให้มีความยาวเยอะๆ จะทำให้จุดเด่นของรูปหน้ากลมดูแคบและเรียวขึ้น

3. ทรงผมชาย Undercut 

การตัดผมทรง Undercut เป็นการตัดผมสำหรับคนที่ชอบทรงผมชายสั้นๆ เพราะทุกทรง ทุกแบบของการตัด Undercut ไม่ว่าจะเป็นทรงไหนก็ตาม โดยจุดประสงค์หลักของการทำทรงนี้คือการทำให้ผมดูหนามากขึ้น ด้วยการไถตัดผมช่วงล่างออก เหลือแต่ผมช่วงบนปล่อยยาวลงมา ถือเป็นทรงที่เซตได้ง่าย จัดการเซตต่อยอดได้หลายทรง และเป็นทรงที่ดูทันสมัยอยู่ตลอด จึงเป็นทรงผมยอดนิยมที่หนุ่มๆ เลือกตัดเยอะที่สุด  

ทุกคนสามารถตัด Undercut ได้ เพราะทรง Undercut มีมากกว่า 20 สไตล์ให้เลือก ดังนั้นจึงเป็นทรงยอดฮิตที่เข้ากับทุกรูปหน้า และยังเซตเพิ่มให้เหมาะกับบุคลิกของตัวเอง การแต่งกาย และการออกงานต่างๆ ได้ หากหนุ่มออฟฟิศคนไหนต้องการทรงผมที่ไม่เสียเวลาเซตแต่ยังดูดี ดูมีสไตล์แบบเรียบง่ายก็แนะนำให้ตัดทรง Undercut

4. ทรงผมชาย Mullet

ทรงผมที่เหมาะกับผู้ชายรูปหน้าทุกแบบอย่างแท้จริงต้องยกให้กับการตัดผมทรง Mullet เป็นทรงยอดฮิตในทุกวันนี้ที่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็เริ่มหันมาทำทรงนี้มากขึ้น สำหรับทรง Mullet แต่เดิมทีเป็นทรงที่เรียกกันว่าตัดผมทรงรากไทร แต่ปัจจุบัน Mullet จะเป็นการไว้ผมให้ยาวระดับหนึ่งเพื่อตัดและจัดทรงให้ผมด้านหน้าสั้นและไว้ยาวด้านหลังตามความชอบ

โดยด้านหน้าจะตัดให้เปิดช่วงหน้าผากไว้ เหมือนกับการเปิดหน้าม้าแสกกลาง แล้วปล่อยช่วงผมล่างยาวลงมาพร้อมกับซอยหรือตัดสไลด์เป็นขั้นๆ ไป 

ผมทรงนี้เหมาะกับหนุ่มสายติสต์ ทรงผมชายเท่ๆ อาจยังไม่เหมาะกับการทำงานหรือออกงานที่เคร่งเรื่องความเนี้ยบและการแต่งกาย เป็นทรงผมกึ่งทางการที่ทุกคนสามารถตัดได้ หากใครชอบไว้ผมยาวแบบเซอร์ๆ ก็ต้องแนะนำว่า Mullet ทรงนี้เหมาะกับทุกรูปหน้าและไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสายชิลอย่างมาก 

5. ทรงผมชาย Undercut รองทรงสูง

ทรงผมผู้ชายสุดคลาสสิกที่สามารถตัดได้ทุกช่วงอายุ ทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน เป็นทรงที่ไถไล่ระดับประมาณช่วงหูเท่านั้น ทำให้มีผมข้างบนที่ดูหนามากขึ้น เข้ากับรูปหน้าทุกทรงและยังเสริมให้หน้าดูเด็กลงจากการตัดรองทรงสูงนี้อีกด้วย 

เป็นอีกหนึ่งทรงที่เหมาะกับหนุ่มออฟฟิศ เพราะเป็นทรงผมชายสั้นๆ ที่ตัดเป็นระเบียบ พร้อมกับผมที่เซตได้ง่ายจากความหนาของผมส่วนบนนั่นเอง เข้ากับทุกกาลเทศะ ไปได้ทุกงาน และเป็นทรงที่ไม่ต้องเซตในชีวิตประจำวันก็ยังดูเรียบร้อย สุภาพ ไม่ว่าจะออกเดตหรือทำงานรับรองว่าตัดผมทรง Undercut รองทรงสูงไว้ ช่วยได้แน่นอน

6. ทรงผมชายแสกกลาง 

ทรงผมแสกกลางของผู้ชายที่ตัดจะมีทั้งหมดหลักๆ 3 แบบ คือ ทรงผมชายแสกกลางยาว ทรงผมชายแสกกลางสั้น และทรงผมชายแสกกลางเปิดข้าง หากเป็นผู้ชายที่มีใบหน้ารูปไข่จะสามารถตัดทรงแสกกลางแบบไหนก็ได้ แต่ถ้าเป็นหนุ่มหน้าเหลี่ยมแนะนำให้ตัดแสกกลางเปิดข้าง ส่วนหนุ่มหน้าทรงกลมแนะนำให้ตัดเป็นทรงแสกกลางยาว 

สำหรับทรงผมแสกกลางนี้เป็นทรงที่ได้รับความนิยมมานานแต่ยังดูอินเทรนด์อยู่เสมอ สามารถเลือกแต่งตัวได้ทั้งแนววินเทจ สตรีท สมัยใหม่ หรือแม้แต่การตัดทรงนี้เพื่อเข้างานออฟฟิศหรือไปงานทางการต่างๆ ก็ถือว่าเป็นทรงที่ดูเหมาะสมกับทุกกาลเทศะด้วยเช่นกัน 

ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของการตัดผมทรงแสกกลางคือสามารถจัดเซตทรงได้ง่าย และเน้นเซตไปยังส่วนที่เลือกไว้ยาวเท่านั้น แค่สระผมแล้วเป่าไดร์ก็เข้าทรงเหมาะกับรูปหน้าทันที จึงเหมาะกับผู้ชายที่ต้องใช้เวลาเร่งรีบเหมือนกับหนุ่มออฟฟิศหรือสายทำงานหนัก มีคิวงานรัดตัวอยู่ตลอดเวลา

7. ทรงผมชาย Two Block

ทรงผมที่เหมาะกับผู้ชายหน้ารูปไข่ หรือทรงหน้าแบบ Oval Face Shape นั่นเอง โดยการตัดแบบ Two Block จะมีลักษณะคล้ายตัดรองทรงต่ำ แต่ผมช่วงด้านบนจะยาวลงมาเยอะมากกว่าจนเห็นได้ชัดว่าเป็นคนละทรง ซึ่งผมทรงนี้ได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะหนุ่มที่ชอบสไตล์เกาหลี เป็นทรงผมชายเท่ๆ เป็นทรงที่ดูดี เป็นระเบียบเรียบร้อย ได้โดยไม่ต้องเซตทรงเยอะ

จึงเหมาะสำหรับอาชีพหนุ่มออฟฟิศที่เคร่งระเบียบ  ยิ่งใครที่มีผมสีดำอยู่แล้วการตัดทรงแบบนี้จะช่วยทำให้ผมดูหนาขึ้น  นอกจากนี้ยังเหมาะกับบุคลิกของหนุ่มสายชิลแต่ยังต้องการความสุภาพ ความเป็นระเบียบ และสามารถแต่งตัวเรียบๆ ให้ดูมีสไตล์มากขึ้นได้ แม้แต่ชุดของหนุ่มออฟฟิศก็เข้ากับทรง Two block แน่นอน 

8. ทรงผมชาย Dandy Cut

ทรงผมตามเทรนด์เกาหลีมาแรงกับทรงผมผู้ชายแบบ Dandy Cut เป็นทรงที่เข้ากับผู้ชายรูปหน้าทุกแบบ ทรงนี้เป็นการตัดหน้าม้าปิดช่วงหน้าผากและตัดสั้นเหนือท้ายทอยขึ้นมา ทำให้ดูเด็กลงมาก รวมถึงเป็นทรงที่เพิ่มความสว่าง ความสะอาดตาให้กับใบหน้าหรือบุคลิกมากขึ้น 

ข้อดีของการตัดทรง Dandy Cut คือทรงผมนี้จะช่วยปกปิดช่วงหน้าผากกว้าง หน้าผากใหญ่ได้ทั้งหมด และไม่ต้องคอยเซตจัดทรงหน้าม้าอยู่บ่อยๆ สามารถแต่งตัวให้เข้ากับทุกลุคได้ และเป็นทรงที่เหมาะกับการเข้าบริษัท ทำงานทุกองค์กร 

แม้ว่าจะเป็นออฟฟิศที่เคร่งเรื่องการแต่งกาย หรือการต้องออกงานสำคัญ งานทางการ งานพิธีการ ก็เลือกตัดทรง Dandy Cut นี้ได้ เพิ่มความเด็กและเพิ่มความเป็นมิตรให้กับหนุ่มๆ สไตล์นี้มากขึ้น ส่วนความยาวที่แนะนำให้ตัดในส่วนหลังศีรษะ แนะนำให้ตัดตั้งแต่เหนือท้ายทอยขึ้นไป ตั้งแต่ช่วงประมาณติ่งหูลงมาจนถึงก่อนท้ายทอยเล็กน้อยแค่นั้น เพื่อให้มีความสมดุลกับผมหน้าม้าที่คลุมช่วงหน้าผากไว้ 

9. ทรงผมชายปาดเรียบ

ถ้าพูดถึงทรงผมผู้ชายก็ขาดทรงผมปาดเรียบไปไม่ได้ โดยทรงนี้จะเน้นการเซ็ตปาดเรียบไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เช่น ปาดเรียบเก็บผมไปด้านบน หรือปาดเรียบเก็บผมไปด้านข้าง เป็นทรงที่เหมาะกับหนุ่มเนี๊ยบ หรือต้องออกงานสำคัญ งานที่ต้องมีความสุภาพเป็นทางการสูง แสดงถึงการให้เกียรติ 

หากใครที่มีรูปหน้าแบบทรงหน้ากลมจะยิ่งทำทรงผมชายทรงปาดเรียบนี้เข้ามาก เซ็ตง่าย ใช้เวลาน้อย เข้าได้กับทุกชุด ทุกสถานที่ สำหรับใครที่เป็นสายวินเทจอยู่แล้วก็ต้องเลือกทรงนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นทรงทางการตามมาตรฐาน แต่หนุ่มๆ อาจไม่ค่อยชอบในการต้องเก็บเรียบปาดผมกันเท่าไรนัก

ดังนั้นหากต้องไปทำงานสำคัญ มีการนัดหมายใหญ่ๆ ที่สำคัญ หรือการออกงานทางการต่างๆ แล้วไม่อยากต้องเลือกทรงผมให้ยุ่งยาก ไม่ต้องการเซ็ตให้เสียเวลา แนะนำเลือกทรงผมปาดเรียบจะช่วยได้ทุกงานแน่นอน 

การปาดเรียบทางด้านข้าง เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ไม่อยากได้ลุคที่ดูเป็นทางการมากจนเกินไปและการแต่งตัวไม่ได้เน้นความเป็นทางการสูง ส่วนใครที่ต้องทำหน้าที่รับผิดชอบเรื่องความพิธีการต่างๆ ต้องเลือกเป็นการปาดเรียบไปข้างหลังหรือข้างบน จะให้ความเหมาะสมกับหน้าที่มากกว่า 

สรุป

การเลือกทรงผมของหนุ่มๆ ควรเลือกตัดทรงผมชายให้เรียบร้อย ตัดให้เป็นทรงต่างๆ ที่สามารถเซตได้เอง เซตได้ง่าย ประหยัดเวลาแล้วดูมืออาชีพ เพื่อให้เหมาะกับการเป็นพนักงานออฟฟิศ รวมถึงการออกงานสำคัญ งานทางการ หรืองานเลี้ยงพบปะเพื่อการทำงานต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

เพราะการเลือกทรงผมจะมีผลต่อการแต่งตัวและบุคลิกภาพอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยละเลยให้ผมยาวไม่เป็นทรง หรือเลือกทรงผมที่ไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองจนไม่มีเวลาเซต นอกจากนี้ใครก็ควรเลือกตัดทรผมให้เข้ากันกับรูปหน้าเพื่อเพิ่มความเหมาะสม ดูดี ในแต่ละคนได้มากขึ้น