Key Takeaway
หากไม่อยากออมเงินด้วยตารางออมเงิน สามารถออมด้วยการนำไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย หักเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซื้อประกันสะสมทรัพย์ หรือซื้อสลากออมสิน เป็นต้น
เชื่อว่าหลายคนมีปัญหาในการเก็บเงิน เพราะเงินหมดตั้งแต่ต้นเดือน ทางที่ดีในการเก็บเงินควรเริ่มจากเก็บก่อนใช้จ่าย โดยแบ่งเป้าหมายการเก็บเงินเป็นระยะสั้น สำหรับเงินสำรองฉุกเฉิน 20% เผื่อกรณีตกงาน ระยะกลาง 50% สำหรับซื้อของหรือใช้จ่ายที่จำเป็น และระยะยาว 30% สำหรับการเกษียณอายุ
เพื่อการเก็บเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้เห็นงบกระแสเงินสดชัดเจนด้วย แต่หากใครเก็บเงินไม่อยู่ ลองใช้ตารางออมเงินเป็นตัวช่วยให้ออมเงินตามเป้าได้ โดยไม่ต้องกดดันตัวเอง จะออมเงินวันละ 20 หรือจะออมเงินเดือนละ 1000 บาท ก็ทำตามได้เลย
ตารางออมเงิน คือตารางที่มีไว้เพื่อกำหนดว่าในแต่ละวันเราควรเก็บเงินให้ได้เท่าไร โดยตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน ทั้งจำนวนเงินและระยะเวลาที่จะเก็บ ซึ่งในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องเก็บเงินเท่ากันก็ได้ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการเก็บเงินมากที่สุด
รูปแบบการเก็บเงินมีหลากหลายแบบ แต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไป แล้วการเก็บเงินด้วยการทำตามตารางออมเงินมีข้อดีอย่างไร ไปดูกัน!
ออมเงินแบบปกติก็ดูจะน่าเบื่อไป ลองมาสร้างความท้าทายและน่าตื่นเต้นกับการออมเงินด้วยตารางออมเงิน เพื่อลดความรู้สึกกดดัน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเก็บเงิน ไม่เคยมีประสบการณ์การเก็บเงินแบบจริงจัง เพราะการใช้ตารางออมเงินจะช่วยให้การออมมีระบบและสนุกมากขึ้น เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการสร้างนิสัยการออมเงินเลย
หากกดดันตัวเองให้เก็บเงิน สักวันเราต้องเผลอนำมาใช้แน่ๆ ความยืดหยุ่นจึงสำคัญในการออมเงิน โดยการใช้ตารางออมเงินสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนเงินที่ต้องการออมในแต่ละวันได้ ไม่ว่าจะออมมากหรือออมน้อย ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเราเลย หรือใครอยากออมแบบยาวๆ ก็สามารถทำตารางออมแบบไตรมาสหรือเป็นปีได้เช่นกัน
เพราะรายรับ-รายจ่ายไม่แน่นอน บางครั้งอาจมีเรื่องให้เราต้องเสียเงิน การจะเจียดเงินมาออมจึงอาจลำบากหน่อย แต่ตารางออมเงินช่วยให้สะดวกขึ้น เพราะไม่ต้องบังคับออมทุกวัน แต่สามารถเลือกออมได้ตามวันที่ตัวเองสะดวก ทำให้การออมเงินมีความยืดหยุ่นและลดความเครียดในการจัดการการเงิน
การเริ่มต้นทำสิ่งใหม่อาจยากในช่วงแรก แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ จนเป็นนิสัย จะส่งผลที่ดีในระยะยาวแน่นอน โดยเฉพาะการออมเงินด้วยการใช้ตารางออมเงิน ซึ่งแม้จะเริ่มจากการออมวันละน้อย เหมือนเป็นก้าวเล็กๆ แต่ถ้าทำต่อเนื่องอย่างเป็นประจำก็จะทำไปสู่การเก็บเงินก้อนใหญ่ได้ในที่สุด
แม้ตารางออมเงินจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ที่เราจำเป็นต้องพิจารณาก่อนเลือกออมด้วยวิธีนี้
หลายคนอาจสงสัยว่าควรเก็บเงินเดือนละเท่าไร ลองมาใช้ตารางออมเงินกันดีกว่า โดยสามารถเริ่มจากออมก้อนเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยเพิ่มจำนวนขึ้นได้ตามสะดวก มาดูเคล็ดลับออมเงินฉบับคนเริ่มทำงานด้วยการออมแบบตารางออมเงินกัน ดังนี้
หากเริ่มออมเงินใหม่ ลองตั้งเป้าออมเดือนละ 1,000 ก่อน โดยแบ่งการออมแต่ละวัน เป็นเริ่มต้นออมวันละ 10 บาท หรือจะวันละ 100 บาทก็ได้ เพื่อให้การออมเงินมีความยืดหยุ่น ไม่ต้องกดดันมาก โดยวิธีเก็บเงินให้ได้ 1,000 บาทใน 30 วัน มีดังนี้
หากเริ่มออมเงินได้คล่องตัวมากขึ้น ก็สามารถขยับจำนวนเงินในการออมขึ้นมาอีกได้ ซึ่งอาจตั้งเป้าเป็นการออมเงิน 5,000 บาท ภายใน 50 วัน เพื่อให้แผนการออมเงินมีพัฒนาการ โดยสามารถเริ่มออมได้ตั้งแต่ 10 บาท ไปจนถึง 200 บาทเลย โดยวิธีเก็บเงินให้ได้ 5,000 บาทใน 50 วัน มีดังนี้
ต่อไปเป็นตารางออมเงินสำหรับคนที่อยากจับเงินหมื่น โดยสามารถตั้งต้นออมได้วันละ 20 บาท ไปจนถึง 280 บาท ด้วยตารางออมเงิน 10,000 บาท ภายใน 90 วัน โดยมีวิธีเก็บง่ายๆ ดังนี้
ต่อไปเป็นตารางออมเงินสำหรับคนที่อยากขยับเพิ่มจาก 10,000 บาท มาเป็นเงิน 30,000 บาท ด้วยตารางออมเงิน 30,000 บาท ในระยะเวลาการออมเพียง 120 วัน ซึ่งมีวิธีเก็บง่ายๆ ดังนี้
ตารางออมเงิน สำหรับคนที่อยากขยับขยายจาก 13,000 บาท มาเป็นเงิน 50,000 บาท ด้วยตารางออมเงิน 50,000 บาทด้วยระยะเวลาในการออม 200 วัน โดยมีวิธีออมเงินง่ายๆ ดังนี้
สำหรับใครที่มีแพลนออมเงินแบบรายปี สามารถออมได้ผ่านตารางออมเงิน 365 วัน จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการออมมากขึ้นไปอีก เพื่อที่บางคนจะได้ไม่ต้องเคร่งครัดมากนัก โดยสามารถเริ่มออมได้ตั้งแต่วันละ 1 บาท ไปจนถึง 365 บาทเลย เมื่อออมครบ 1 ปีแล้ว จะได้เงินออมถึง 66,795 บาทเลยทีเดียว
สำหรับใครที่มีแพลนจะออมเงินด้วยวิธีการออมเงินในรูปแบบอื่นๆ ก็สามารถทำได้ตามความต้องการเลย โดยการออมแต่ละรูปแบบจะมีผลตอบแทนแตกต่างกัน ดังนี้
ชีวิตไม่แน่ไม่นอน การเก็บเงินไว้ยามฉุกเฉินถือว่าจำเป็น โดยแต่ละคนมีวิธีการออมเงินที่แตกต่างกัน แต่ถ้าใครอยากหาวิธีออมเงินแบบไม่เร่งรีบและสนุกๆ ตารางออมเงินถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและทำได้ง่าย โดยสามารถออมเงินกี่บาทก็ได้ กี่วันก็ได้ ตามที่ตัวเราเองสะดวกเลย
ก่อนเริ่มออมเงิน ลองหางานที่ Jobsdb ซึ่งเป็นตัวช่วยหางานที่สะดวกและรวดเร็ว ด้วยฟีเจอร์เลือกงานตามหมวดหมู่ ตามทำเล ตำแหน่งที่ชอบ และเงินเดือนที่ใช่ ช่วยให้หางานที่ตรงใจได้ง่ายขึ้น