Empathy : ทักษะความเห็นใจผู้อื่น แนวคิดเสริมจุดแข็งให้องค์กร

Empathy : ทักษะความเห็นใจผู้อื่น แนวคิดเสริมจุดแข็งให้องค์กร
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 21 January, 2024
Share

Key Takeaway

  • Empathy คือ การเข้าใจและรับรู้ความรู้สึกหรือมุมมองของผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง และแสดงออกถึงความเข้าใจนั้นได้อย่างเหมาะสม
  • Empathy มี 3 ประเภทคือ Cognitive Empathy การเข้าใจความคิดและมุมมองของผู้อื่น Emotional Empathy การรู้สึกและแบ่งปันอารมณ์กับผู้อื่น และ Compassionate Empathy การเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อพวกเขาประสบปัญหา
  • Empathy คือการเข้าใจความรู้สึกและมุมมองของผู้อื่นโดยไม่ใช้อารมณ์ของตัวเองเป็นตัวขับเคลื่อน ส่วน Sympathy คือการรู้สึกสงสารหรือเห็นใจผู้อื่น โดยมักตัดสินจากอารมณ์ของตัวเอง
  • Empathy ช่วยสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน ทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการยอมรับ เพิ่มความร่วมมือ และลดความขัดแย้ง ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและความพึงพอใจในองค์กร

Empathy หรือทักษะความเห็นอกเห็นใจ คือความสามารถในการเข้าใจและรู้สึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้การทำงานร่วมกันดีขึ้นและส่งเสริมให้ทีมงานแข็งแกร่งขึ้น ในบทความนี้เราจะพูดถึงว่า Empathy สำคัญอย่างไรในชีวิตการทำงาน และความแตกต่างระหว่าง Sympathy vs Empathy ที่มีผลต่อการทำงานและการสร้างสัมพันธ์ในองค์กร

ทักษะ Empathy คืออะไร?

Empathy หรือทักษะความเห็นอกเห็นใจ คือทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและหัวใจของเรา เมื่อเราลองเปิดใจและนึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น ว่าเราจะรู้สึกหรือเลือกตัดสินใจอย่างไรหากอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ 

การแสดงความเห็นอกเห็นใจบ่อยครั้งจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการทำร้ายผู้อื่นด้วยคำพูดหรือการกระทำ และการฟังปัญหาด้วยความจริงใจ ก็เป็นการแสดงออกถึง Empathy เช่นกัน โดยหัวใจหลักของทักษะนี้คือการทำให้คนอื่นรู้สึกว่า "คุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้"

ประเภทของ Empathy มีอะไรบ้าง

Empathy มีหลายประเภทที่ช่วยให้เราสามารถเข้าใจและเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น ประเภทของ Empathy ที่สำคัญมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกัน

1. Cognitive Empathy

Cognitive Empathy คือการเข้าใจความคิดและอารมณ์ของคนอื่นโดยใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์มาเป็นตัวตัดสิน เราเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาและเห็นมุมมองของพวกเขา เพื่อให้เราตอบสนองหรือช่วยเหลือได้ดีขึ้น โดยไม่ให้ความรู้สึกของตัวเองมาผลักดันการตัดสินใจ

2. Emotional Empathy

Emotional Empathy หรือการเข้าใจและรู้สึกถึงอารมณ์ของคนอื่นอย่างลึกซึ้ง คือการที่เรารู้สึกเหมือนกับคนอื่น รู้ว่าพวกเขากำลังรู้สึกอย่างไร เช่น ถ้าเขาเศร้า เราก็รู้สึกเศร้ากับเขาด้วย เหมือนกับการเอาความรู้สึกของเขามาอยู่ในใจเรา ทำให้เราสามารถเข้าใจและตอบสนองกับเขาได้อย่างเหมาะสม

3. Compassionate Empathy

Compassionate Empathy คือการที่เราเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น และไม่เพียงแค่รู้สึกไปกับเขา แต่ยังทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น เช่น การปลอบใจหรือให้การสนับสนุน เพื่อให้เขาผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้

Sympathy vs Empathy ต่างกันอย่างไร

Sympathy คือการรู้สึกสงสารหรือเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยที่เราตัดสินจากอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง มักจะทำให้เราแสดงความรู้สึกด้วยความเห็นใจ เช่น “ฉันเสียใจที่คุณต้องเจอเรื่องนี้” ส่วน Empathy คือการพยายามเข้าใจและมองความรู้สึกของผู้อื่นจากมุมมองของเขา โดยไม่ใช้อารมณ์ของตัวเองเป็นตัวขับเคลื่อน เป็นการใส่ใจและรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นโดยตรง เช่น “ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไรในตอนนี้”

Empathy สำคัญอย่างไรต่อชีวิตการทำงาน

ทักษะ Empathy หรือการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมีความสำคัญมากในสถานที่ทำงาน เพราะช่วยให้พนักงานทุกคนเข้าใจความรู้สึกซึ่งกันและกัน ทำให้บรรยากาศในที่ทำงานดีขึ้น จากข้อมูลใน Businessolver’s 2017 Workplace Empathy Monitor พบว่า

  • 77% ของพนักงานพร้อมทำงานเพิ่มขึ้น หากมีบรรยากาศของ Empathy ในที่ทำงาน
  • 66% ของพนักงานยินดีรับเงินเดือนที่ลดลง หากมีบรรยากาศของ Empathy ในที่ทำงาน
  • 92% ของฝ่าย HR กล่าวว่า Empathy เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร
  • 80% ของพนักงานกลุ่ม Millennials จะลาออกหากนายจ้างขาด Empathy ขณะที่ 66% ของกลุ่ม Baby Boomers ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

ดร. อดัม เวยซ์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Kellogg กล่าวว่าทักษะ Empathy สำคัญสำหรับผู้นำและการจัดการองค์กร เพราะช่วยให้ผู้นำเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาประสบการณ์การทำงานให้ดีขึ้น

วิธีการสร้าง Empathy ในที่ทำงาน

การสร้าง Empathy เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างพนักงานหรือกับผู้นำ เพื่อให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้นและการทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพ การฝึกทักษะ Empathy สำหรับแต่ละบุคคลสามารถแบ่งเป็น

วิธีการสร้าง Empathy สำหรับผู้นำองค์กร

ผู้นำที่มี Empathy มีแนวโน้มที่จะเข้าใจความรู้สึกและความต้องการของพนักงานได้ดีขึ้น วิธีการสร้างทักษะ ความเห็นอกเห็นใจสำหรับผู้นำสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

  • สังเกตการทำงานของลูกทีม เพื่อป้องกัน Burnout ด้วยการเข้าใจแรงกดดันของทีมและแก้ไขปัญหาทันเวลา
  • ฟังความปรารถนาของทีมและมอบงานที่ตรงกับทักษะ เพื่อเพิ่มความร่วมมือและความพึงพอใจในการทำงาน
  • มีการสื่อสารที่เปิดกว้างและช่วยเหลือในเรื่องส่วนตัวจะทำให้ทีมรู้สึกสบายใจ
  • การแสดงความเสียใจและสนับสนุนทีมในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วยสร้างมิตรภาพและเสริมความสัมพันธ์ในที่ทำงาน
  • ยอมรับความผิดพลาดและมีมาตรการลงโทษที่สมเหตุสมผลเพื่อการพัฒนา

วิธีการสร้าง Empathy สำหรับ HR

การสร้าง Empathy สำหรับ HR คือการพัฒนาทักษะในการเข้าใจและรับฟังความรู้สึกของพนักงาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร โดยมีวิธีดังนี้

  • HR ควรรับฟังอย่างตั้งใจเข้าใจปัญหาพนักงานและสามารถแก้ไขได้ทันที
  • HR ควรเข้าไปทำความรู้จักและเข้าใจความต้องการของพนักงาน
  • HR ควรเป็นเพื่อนที่ให้คำแนะนำและเข้าใจพนักงาน
  • HR ควรฝึกฝนทักษะการเห็นอกเห็นใจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของพนักงานได้โดยธรรมชาติ

วิธีการสร้าง Empathy สำหรับพนักงาน

การสร้าง Empathy สำหรับพนักงาน คือการพัฒนาทักษะในการเข้าใจและรับฟังเพื่อนร่วมงาน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานร่วมกัน ทำได้ตามนี้

  • ฟังเพื่อนร่วมงานอย่างตั้งใจ เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกและความคิดเห็นของเขา
  • ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจเพื่อนร่วมงาน
  • หลีกเลี่ยงการคิดไปเองและตั้งสมมติฐาน ต้องฟังเหตุผลก่อนตัดสิน
  • ระลึกเสมอว่าทุกคนมีความรู้สึก และควรให้ความสำคัญกับการพูดถึงผลงานไม่ใช่ตัวบุคคล

สรุป

Empathy หรือทักษะการเข้าใจผู้อื่น ต่างจาก Sympathy ที่เป็นการรู้สึกสงสารผ่านอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งทักษะการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นสำคัญในที่ทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและผู้นำ โดย Empathy แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ Cognitive Empathy การเข้าใจความคิดและมุมมองของผู้อื่น Emotional Empathy การรู้สึกและแบ่งปันอารมณ์กับผู้อื่น และ Compassionate Empathy การเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อพวกเขาประสบปัญหา 

Jobsdb ช่วยให้คุณค้นหางานที่ตรงกับทักษะและความสนใจ ซึ่งทำให้คุณรู้สึกได้รับการยอมรับและเข้าใจจากองค์กร การเลือกงานที่เหมาะสมช่วยเสริมความมั่นใจและสร้างความพึงพอใจในการทำงาน

More from this category: ทักษะในการทำงาน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา