Key Takeaway
Empathy หรือทักษะความเห็นอกเห็นใจ คือความสามารถในการเข้าใจและรู้สึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้การทำงานร่วมกันดีขึ้นและส่งเสริมให้ทีมงานแข็งแกร่งขึ้น ในบทความนี้เราจะพูดถึงว่า Empathy สำคัญอย่างไรในชีวิตการทำงาน และความแตกต่างระหว่าง Sympathy vs Empathy ที่มีผลต่อการทำงานและการสร้างสัมพันธ์ในองค์กร
Empathy หรือทักษะความเห็นอกเห็นใจ คือทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและหัวใจของเรา เมื่อเราลองเปิดใจและนึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น ว่าเราจะรู้สึกหรือเลือกตัดสินใจอย่างไรหากอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ
การแสดงความเห็นอกเห็นใจบ่อยครั้งจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการทำร้ายผู้อื่นด้วยคำพูดหรือการกระทำ และการฟังปัญหาด้วยความจริงใจ ก็เป็นการแสดงออกถึง Empathy เช่นกัน โดยหัวใจหลักของทักษะนี้คือการทำให้คนอื่นรู้สึกว่า "คุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้"
Empathy มีหลายประเภทที่ช่วยให้เราสามารถเข้าใจและเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น ประเภทของ Empathy ที่สำคัญมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกัน
Cognitive Empathy คือการเข้าใจความคิดและอารมณ์ของคนอื่นโดยใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์มาเป็นตัวตัดสิน เราเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาและเห็นมุมมองของพวกเขา เพื่อให้เราตอบสนองหรือช่วยเหลือได้ดีขึ้น โดยไม่ให้ความรู้สึกของตัวเองมาผลักดันการตัดสินใจ
Emotional Empathy หรือการเข้าใจและรู้สึกถึงอารมณ์ของคนอื่นอย่างลึกซึ้ง คือการที่เรารู้สึกเหมือนกับคนอื่น รู้ว่าพวกเขากำลังรู้สึกอย่างไร เช่น ถ้าเขาเศร้า เราก็รู้สึกเศร้ากับเขาด้วย เหมือนกับการเอาความรู้สึกของเขามาอยู่ในใจเรา ทำให้เราสามารถเข้าใจและตอบสนองกับเขาได้อย่างเหมาะสม
Compassionate Empathy คือการที่เราเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น และไม่เพียงแค่รู้สึกไปกับเขา แต่ยังทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น เช่น การปลอบใจหรือให้การสนับสนุน เพื่อให้เขาผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้
Sympathy คือการรู้สึกสงสารหรือเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยที่เราตัดสินจากอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง มักจะทำให้เราแสดงความรู้สึกด้วยความเห็นใจ เช่น “ฉันเสียใจที่คุณต้องเจอเรื่องนี้” ส่วน Empathy คือการพยายามเข้าใจและมองความรู้สึกของผู้อื่นจากมุมมองของเขา โดยไม่ใช้อารมณ์ของตัวเองเป็นตัวขับเคลื่อน เป็นการใส่ใจและรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นโดยตรง เช่น “ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไรในตอนนี้”
ทักษะ Empathy หรือการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมีความสำคัญมากในสถานที่ทำงาน เพราะช่วยให้พนักงานทุกคนเข้าใจความรู้สึกซึ่งกันและกัน ทำให้บรรยากาศในที่ทำงานดีขึ้น จากข้อมูลใน Businessolver’s 2017 Workplace Empathy Monitor พบว่า
ดร. อดัม เวยซ์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Kellogg กล่าวว่าทักษะ Empathy สำคัญสำหรับผู้นำและการจัดการองค์กร เพราะช่วยให้ผู้นำเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาประสบการณ์การทำงานให้ดีขึ้น
การสร้าง Empathy เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างพนักงานหรือกับผู้นำ เพื่อให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้นและการทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพ การฝึกทักษะ Empathy สำหรับแต่ละบุคคลสามารถแบ่งเป็น
ผู้นำที่มี Empathy มีแนวโน้มที่จะเข้าใจความรู้สึกและความต้องการของพนักงานได้ดีขึ้น วิธีการสร้างทักษะ ความเห็นอกเห็นใจสำหรับผู้นำสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
การสร้าง Empathy สำหรับ HR คือการพัฒนาทักษะในการเข้าใจและรับฟังความรู้สึกของพนักงาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร โดยมีวิธีดังนี้
การสร้าง Empathy สำหรับพนักงาน คือการพัฒนาทักษะในการเข้าใจและรับฟังเพื่อนร่วมงาน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานร่วมกัน ทำได้ตามนี้
Empathy หรือทักษะการเข้าใจผู้อื่น ต่างจาก Sympathy ที่เป็นการรู้สึกสงสารผ่านอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งทักษะการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นสำคัญในที่ทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและผู้นำ โดย Empathy แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ Cognitive Empathy การเข้าใจความคิดและมุมมองของผู้อื่น Emotional Empathy การรู้สึกและแบ่งปันอารมณ์กับผู้อื่น และ Compassionate Empathy การเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อพวกเขาประสบปัญหา
Jobsdb ช่วยให้คุณค้นหางานที่ตรงกับทักษะและความสนใจ ซึ่งทำให้คุณรู้สึกได้รับการยอมรับและเข้าใจจากองค์กร การเลือกงานที่เหมาะสมช่วยเสริมความมั่นใจและสร้างความพึงพอใจในการทำงาน