Key Takeaway
เชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากมีอิสรภาพทางการเงินกันอยู่แล้ว เพราะไม่เพียงแต่สร้างความมั่นคงทางการเงิน แต่ยังสร้างความมั่นคงทางจิตใจด้วย เมื่อเรามาถึงจุดที่ต้องใช้เงิน การมีความมั่นคงทางการเงินช่วยให้เราไม่ต้องคอยเครียดเรื่องปัญหาเงินอยู่ตลอดเวลา
บทความนี้จะพามารู้จัก Passive Income คืออะไร พร้อมเปรียบเทียบว่า Active Income และ Passive Income ต่างกันอย่างไร แล้วมาดูไอเดียการสร้าง Passive Income ให้มีอิสระทางการเงินกัน!
Passive Income หรือ พาสซีฟอินคัม คือรูปแบบการสร้างรายได้ที่เกิดจากการลงทุนและลงแรงในช่วงแรก โดยนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยไม่ต้องทำงานประจำทุกวันเพื่อแลกกับเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินและอิสรภาพในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น เพราะมีรายได้เข้ามาหลายทาง แม้ในยามที่เราไม่ได้ทำงานนั่นเอง
สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Active Income และ Passive Income ได้ดังนี้
เพราะเราอยู่ในยุคสมัยที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีรายได้แบบ Passive Income เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ เป็นอะไรที่หลายคนใฝ่ฝัน แล้วทำไมการสร้าง Passive Income ถึงสำคัญ ไปดูกัน!
รายได้แบบ Passive Income เปรียบเสมือนกระแสเงินสำรองที่ช่วยเสริมความมั่นคงทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉินหรือเงินสำหรับต่อยอดการลงทุน ในยุคที่การพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียวอาจเสี่ยงต่อความไม่แน่นอน การมี Passive Income จึงเป็นเหมือนหลักประกันที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาว ทั้งในแง่ของการเกษียณอายุอย่างมีความสุขและการมีอิสรภาพทางการเงินที่แน่นอน
โดยปกติแล้วเหล่ามนุษย์เงินเดือนล้วนได้รับเงินเดือนตามฐานเงินเดือน อาจจะมีรายรับเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับสายงานต่างๆ แต่จะมีรายรับเท่ากันในทุกเดือน แต่การสร้าง Passive Income นั้นไม่มีขีดจำกัดด้านรายได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น ตลาดหุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหากเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดี รายได้ก็มีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นตามมูลค่าของสินทรัพย์เหล่านั้น
Passive Income เปิดโอกาสให้เราได้ทุ่มเทกับสิ่งที่รักและสิ่งที่ถนัดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับความไม่แน่นอนของรายได้ การมีกระแสเงินที่สม่ำเสมอนี้ ช่วยให้เรามีอิสระในการจัดการเวลาเพื่อวางแผนชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการออกเดินทางท่องเที่ยว การพัฒนาตัวเองด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือการใช้เวลาคุณภาพร่วมกับครอบครัว
การสร้าง Passive Income ผ่านการลงทุน เราจำเป็นต้องศึกษาวิธีการลงทุนแต่ละรูปแบบก่อน เพราะทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง หากจะวางแผนให้ตัวเองมีรายได้แบบพาสซีฟอินคัมเพื่อใช้ในยามเกษียณ ก็ควรเลือกลงทุนกับสินทรัพย์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของเรา
การฝากเงินกับธนาคาร เป็นวิธีสร้าง Passive Income ที่ง่ายที่สุด แม้ในปัจจุบันจะมีบัญชีเงินฝากดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.10 - 2.00% แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยสำคัญอย่างอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร อาจไม่เพียงพอที่จะรักษามูลค่าของเงินในระยะยาวได้
การสร้างรายได้แบบ Passive Income ผ่านการลงทุนในกองทุนรวม จำเป็นต้องเลือกกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เช่น กองทุนที่มีประวัติจ่ายปันผลเฉลี่ย 4% ต่อปี หากเราลงทุน 1,000,000 บาท เราอาจได้รับผลตอบแทนประมาณ 40,000 บาทต่อปี หรือราว 3,333 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุนด้วย ซึ่งรายได้ส่วนนี้สามารถนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือนำไปลงทุนต่อยอด เพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคตได้
ตราสารหนี้ เป็นทางเลือกในการสร้าง Passive Income ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยมีทั้งพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนที่จ่ายผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย แต่การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนมีความเสี่ยงสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลในแง่ของการผิดนัดชำระหนี้ จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์ความมั่นคงและความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้อย่างรอบคอบ
ผู้ลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยกว่าและมีสภาพคล่องสูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้โดยตรง
Passive Fund เป็นการลงทุนในกองทุนรวมที่มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงมากที่สุด โดยมีจุดเด่นที่ค่าธรรมเนียมและความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตามเนื่องจากกองทุนอาจไม่ได้ลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมือนกับดัชนีอ้างอิงทั้งหมด จึงมีโอกาสที่ผลตอบแทนจะแตกต่างจาก Benchmark ได้ทั้งในทางที่สูงกว่าหรือต่ำกว่า
ประกันสะสมทรัพย์ เป็นอีกทางเลือกในการสร้าง Passive Income ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยผู้เอาประกันจะได้รับทั้งเงินต้นและผลตอบแทน ตามที่กำหนดเมื่อครบสัญญาพร้อมความคุ้มครองชีวิตระหว่างทาง นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งการยกเว้นภาษีจากผลกำไรที่ได้รับและการนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษี ทำให้เป็นรูปแบบการลงทุนที่ให้ผลประโยชน์คุ้มค่าในระยะยาว
นอกจากการลงทุนแล้ว เรายังสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้ด้วยไอเดียธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจ สำหรับบางคนยังไม่คล่องเรื่องการลงทุนมากนัก ได้สามารถสร้าง Passive Income ได้ง่ายๆ ดังนี้
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้วปล่อยเช่า เป็นวิธีสร้างรายได้แบบ Passive Income ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การลงทุนในหุ้นหรือกองทุนปันผลเลย สำหรับผู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือที่ดิน แทนที่จะปล่อยทรัพย์สินทิ้งไว้โดยไม่เกิดประโยชน์ การนำมาปล่อยเช่าจะช่วยสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอในทุกเดือนได้ โดยเฉพาะคอนโดที่อยู่ในใจกลางเมือง ที่สามารถอัปราคาได้เรื่อยๆ เพราะแนวโน้มการพัฒนาเมืองยังคงมีต่อไปอีกในอนาคตนั่นเอง
สำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เป็นที่ต้องการของตลาด สามารถสร้างพาสซีฟอินคัมผ่านการพัฒนาคอร์สออนไลน์ได้ โดยเริ่มจากการออกแบบหลักสูตรและผลิตเนื้อหา เพื่อจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเมื่อสร้างคอร์สเสร็จแล้วก็สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจากการขายซ้ำ โดยไม่ต้องกลับไปสอนใหม่ทุกครั้ง
การเขียนหนังสือสามารถสร้าง Passive Income ผ่านการขายลิขสิทธิ์ในหลากหลายรูปแบบ โดยเริ่มต้นจากการเขียนเพียงครั้งเดียว แต่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องผ่านค่าลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์ เช่น อาจได้รับ 10% ของราคาปก หากหนังสือราคา 200 บาท จะได้เล่มละ 20 บาท ถ้าพิมพ์ครั้งแรก 5,000 เล่มและขายหมด จะได้รับ 100,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รายได้เพิ่มเติมจากการขายลิขสิทธิ์ในรูปแบบอื่น เช่น การแปลเป็นภาษาต่างประเทศ การสร้างเป็นภาพยนตร์ ละครซีรีส์ หรือบทละครโทรทัศน์ รวมถึงรายได้จากการรีรันและฉายซ้ำอีกด้วย
คนที่มีความสามารถในการถ่ายภาพ สามารถสร้างพาสซีฟอินคัมผ่านเว็บไซต์ขายภาพออนไลน์ เช่น Shutterstock, iStockPhoto, Freepik และ Adobe Stock โดยเพียงสมัครเป็นผู้ขาย และอัปโหลดผลงานเข้าระบบ เมื่อมีผู้สนใจดาวน์โหลดภาพ เราจะได้รับส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์จากเว็บไซต์ เช่น หากได้รับค่าลิขสิทธิ์ 5 บาทต่อการดาวน์โหลด 1 ครั้ง และมีผู้ดาวน์โหลด 10,000 ครั้ง จะสร้างรายได้ถึง 50,000 บาท
ทั้งนี้เราสามารถเพิ่มโอกาสการขายได้ด้วยการผลิตผลงานให้มากขึ้นและโปรโมตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างฐานแฟนคลับ เมื่อผลงานเป็นที่รู้จักจนมีลูกค้าประจำก็จะช่วยให้สร้าง Passive Income ได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น
เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร หรือร้านชา กาแฟ สามารถต่อยอดสร้าง Passive Income ผ่านการขายแฟรนไชส์ได้ แม้จะต้องใช้เวลาในการโปรโมต ดูแล และให้คำปรึกษาแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์บ้าง แต่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ซื้อแฟรนไชส์ จะช่วยรักษาผลตอบแทนให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับคนรักแฟชัน ติดตามทุกเทรนด์ ที่ชอบซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ จนเสื้อผ้าล้นตู้แล้ว สามารถสร้างรายได้จากการเปิดธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้า ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ X และสำหรับผู้ที่มีทักษะการพูดหรือถนัดการไลฟ์สด ยังสามารถใช้ TikTok ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม มาช่วยสร้างสีสัน และดึงดูดลูกค้าให้กับร้านได้อีกด้วย
สำหรับคนที่ชื่นชอบการช็อปปิงออนไลน์และมักแบ่งปันข้อมูลสินค้าดีๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย การทำ Affiliate Marketing เป็นวิธีสร้าง Passive Income ที่เหมาะสมที่สุด เพียงเขียนรีวิวและแชร์ลิงก์ Affiliate เมื่อมีผู้ซื้อสินค้า หรือบริการผ่านลิงก์ของเรา ก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าคอมมิชชันตามเงื่อนไขที่แต่ละแพลตฟอร์มและผู้ขายกำหนดไว้ เรียกได้ว่า ไม่ต้องสต็อกของเองก็สามารถทำเงินได้ง่ายๆ เลย
Passive Income คือการสร้างรายได้ ที่เกิดจากการลงทุนและลงแรงในช่วงแรก แต่สามารถสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาว ต่างจาก Active Income ที่ต้องทำงานเพื่อให้มีรายได้ หากไม่ทำงานก็จะไม่มีรายได้ การสร้างพาสซีฟอินคัมช่วยให้มีความมั่นคงทางการเงิน มีรายรับต่อเนื่อง และทำให้จัดการเวลาได้อย่างอิสระ
สามารถสร้าง Passive Income ทำได้ทั้งฝากประจำและการลงทุน เช่น กองทุนรวม ตราสารหนี้ Passive Fund และประกันสะสมทรัพย์ รวมถึงการทำธุรกิจต่างๆ ด้วยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ขายคอร์สเรียนออนไลน์ ขายลิขสิทธิ์หนังสือและภาพถ่าย ทำแฟรนไชส์ เปิดให้เช่าเสื้อผ้า และทำ Affiliate Marketing
เพื่อความมั่นคงทางการเงินและชีวิต ควรสร้างทั้ง Passive Income และ Active Income มาหางาน ที่ Jobsdb เพื่อสร้างอิสระทางการเงินกัน ด้วยเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้หางานได้ตรงตามความต้องการ ทั้งตำแหน่งที่ใช่ และเงินเดือนที่ชอบ