ด้วยสภาพสังคมในยุคสมัยนี้ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการมาของโควิด-19 และโรคภัยใหม่ๆ ที่พร้อมจะอุบัติขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ต่างก็ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และเอฟเฟกต์ไปยังทุกธุรกิจแบบเลี่ยง กลายเป็นโดมิโนที่ทำให้มนุษย์เราทุกคนวันนี้เครียดมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว รวมไปถึงเหล่ามนุษย์ด้วยเช่นกัน สืบเนื่องมาจากช่วงล็อคดาวน์ที่หลายคนต้อง WFH อยู่กับบ้านเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดอาการ Burn Out หรือหลายบริษัทที่ได้รับผลกระทบ ก็ต้องมีการลดจำนวนพนักงานลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
Positive Thinking
ดังนั้นเรื่องราวของ Positive Thinking หรือการคิดบวก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในยุคนี้ บทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Positive Thinking กันให้ลึกยิ่งขึ้น ว่าคืออะไร มีวิธีหรือเทคนิคแบบไหนที่จะฝึกตัวคุณให้กลายเป็นคนคิดบวก พร้อมต่อสู้กับอุปสรรคที่จะเข้าถาโถมได้อย่างไม่เกรงกลัว
Positive Thinking หากแปลกันอย่างตรงตัว ก็คือการคิดบวกนั่นแหละ แต่ต้องไม่ใช่การมองทุกอย่างให้เป็นข้อดี เพื่อที่จะนำเอาข้อดีตรงนั้นมาปกปิดถึงข้อเสียที่มี แต่ต้องเป็นการมองเห็นข้อเสียในแบบที่คุณยอมรับความจริงในจุดนั้นได้อย่างเข้าใจที่สุด รวมไปถึงการพยายามมองหาข้อดีในเรื่องต่างๆ ที่้เกิดขึ้น ที่มักจะซ่อนเอาไว้ให้คนที่คิดบวกค้นหาอยู่เสมอ
โดยทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนเรานั้น ไม่มีทางที่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบไปได้ตลอด ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คุณจะต้องเจอกับอุปสรรคไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม และเมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น ก็อยู่ที่วิธีการคิดการรับมือกับมันนี่แหละ ว่าคุณจะเลือกมองมันในรูปแบบไหน ก่อนจะเทิร์นมันให้กลายเป็นประโยชน์หรือด้านบวกแทน
สิ่งแรกที่จะทำช่วยทำให้เรื่องร้ายที่เข้ามาในชีวิตของคุณนั้นบรรเทาลงก็คือ ความคิดของคุณนั่นเอง เพราะหากคุณว่าเรื่องนั้นแย่มากจนเกินแก้ไข ผลที่จะตามมาก็คือเรื่องเหล่านั้นก็จะแย่ลงจริงๆ ตามความคิดของคุณ แต่ถ้าลองมองมุมกลับปรับมุมมอง ให้คิดเสียว่าเรื่องร้ายๆ เหล่านี้เป็นเรื่องท้าทายที่เราต้องรับมือ เปรียบเสมือนเป็นสมการหนึ่งที่คุณต้องแก้ไข อย่างไรเสียเรื่องร้ายๆ เหล่านั้น ก็ต้องมีวันแก้ไขได้อยู่ดี ขอเพียงแค่คุณพร้อมใส่ความคิดด้านบวกลงไปในทุกปัญหา ไม่ต้องมากก็ได้ แต่ต้องไม่มองมันในแง่ลบแบบ 100% เพียงแค่นี้จิตใจของคุณก็จะสดใสขึ้นแล้ว
สำหรับคำกล่าวนี้ หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้าง และขอบอกเลยว่าคำพูดนี้ไม่ผิดแต่อย่างใด ด้วยหลักการง่ายๆ ที่ว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากความคิดของคุณ ซึ่งความคิดที่เกิดขึ้น นอกจากจะส่งจะผลต่อจิตใจแล้ว ยังส่งผลต่อร่างกายอีกด้วย ถ้าคนเรามีจิตใจที่แข็งแกร่ง ต่อให้ป่วยหรือ ณ ตอนนั้นร่างกายไม่สมบูรณ์เต็มที่ เราก็ยังอยู่ได้
หรือหากจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือเรื่องราวของผู้ป่วยโรคร้ายแรงที่เหมือนว่าจะรู้ชะตาของตัวเอง แต่ถ้าผู้ป่วยเหล่านั้นมีจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความคิดที่ว่าตัวเองจะต้องหายจากโรคร้าย สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยส่งผลให้การรักษาทางการแพทย์เป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น เผลอๆ ผู้ป่วยก็อาจหายและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง
แต่ถ้าผู้ป่วยเหล่านั้นกลับไม่มีกำลังใจ คิดแต่ลบๆ ร้ายๆ ก็จะให้มีการหลั่งฮอร์โมนความเครียด จนอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้อาการป่วยทรุดลงกว่าเดิม เปรียบเสมือนคนร่างกายแข็งแรงปกติอย่างเราๆ หากพยายามปรับความคิดให้เป็นบวก ก็จะช่วยให้จิตใจและร่างกายของคุณดีตามไปด้วยแน่นอน
เสริมกันเล็กน้อยกับความคิดเชิงลบ หรือ Negative Thinking ถือเป็นการสะสมความคิดและความรู้สึกต่างๆ ที่ได้พบเจอมา รวมไปถึงประสบการณ์เลวร้ายที่ฝังใจ ที่คุณได้สัมผัสมาโดยตรงด้วยคุณเอง ตัวอย่างเช่น การเจอมนุษย์ Toxic, การโดนว่ากล่าวตำหนิบ่อยๆ หรือการผิดหวังซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ถือว่ามีผลกระทบต่อจิตใจของมนุษย์เราเป็นอย่างสูง จนก่อให้เกิดความเครียดและความคิดติดลบตามมาได้ง่ายๆ จนอาจลามไปจนกลายเป็นเรื่องราวของโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน นี่จึงบ่งบอกได้ว่าทำไมคนเราจึงต้องพยายามหัดมี Positive Thinking ให้มากที่สุด
บอกเลยว่าการมี Positive Thinking นั้นมีแต่ข้อดี อย่างแรกเลยจะเป็นการช่วยให้คุณเป็นคนที่มีสุขภาพจิตดีขึ้น แถมยังช่วยฝึกให้คุณเป็นคนที่เข้าใจโลก เรียนรู้ถึงเหตุและผลของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ช่วยให้ยอมรับกับปัญหาหรืออุปสรรคได้ดีกว่าเดิม ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่า ถ้าสุขภาพจิตเราดี ก็ยังจะช่วยให้สุขภาพกายดีตามไปด้วย เพราะจิตของคนเราจะสั่งการให้สมองสร้างฮอร์โมนความสุขออกมานั่นเอง
ได้เรียนรู้ความหมายของการคิดบวกกันไปแบบเจาะลึกแล้ว คราวนี้มาดูวิธีการเป็นคนคิดบวกกันดีกว่า บอกเลยว่าทำตามได้ไม่ยาก และสามารถทำตามได้กันทุกคน เพื่อผลที่ดีแก่ร่างกายและจิตใจของเราเอง
อันดับแรกเลยคือทุกอย่างต้องเริ่มจากตัวเอง พยายามทำความรู้จักกับตัวเองทั้งในด้านที่ดีและไม่ดี หากมองตัวเองแต่ในแง่ดี ก็จะทำให้เราไม่เห็นถึงข้อเสียและเกิดการพัฒนาตัวเอง แต่ถ้าเรายอมรับข้อเสียได้ การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้นเอง
เมื่อเราได้พิจารณาไปแล้วว่าตัวเองก็มีข้อเสีย แล้วไฉนคนอื่นจะไม่มีข้อเสียเลย ดังนั้นเราจึงต้องเป็นที่ยอมรับและทำความเข้าใจในความบกพร่องของคนอื่นให้ได้ด้วย เพราะแต่ละคนก็ย่อมมีข้อดีและข้อเสียมากน้อยแตกต่างกันไปทั้งนั้น และนั่นก็อยู่ที่การโฟกัสของตัวเราเอง ว่าเราจะมองเขาเป็นคนแบบไหน หากข้อเสียของคนนั้น ส่งผลเสียต่อเรา บางทีก็ต้องอิกนอร์ใส่ไปบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นอาจส่งผลมาทำร้ายกับสุขภาพจิตของเราเอง
เรื่องเลวร้ายบางเรื่องที่เกิดขึ้น หากมันส่งผลเสียต่อคุณและคุณแก้ไขมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร บางครั้งก็ควรปล่อยวาง เพราะถือว่ามันได้ผ่านไปแล้ว และคุณไม่สามารถกลับไปแก้อะไรมันได้แล้ว เพราะหากยังคุณยังตัวมัวแต่จมกับปัญหาเดิมๆ และคาดหวังจะกลับไปแก้ไขมันให้ดีแบบที่หวังไว้ ก็มีแต่จะทำให้สุขภาพจิตเสียเปล่า สู้เอาเวลามาคิดเรื่องบวกๆ พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาดีกว่า
เราเข้าใจว่าชีวิตคนเราย่อมมีปัญหาร้อยแปดพันเก้ามาให้ต้องแก้โจทย์กันตลอดอยู่แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำตามเราแนะนำในบทความนี้ก็คือการคิดบวก แต่สุดท้ายแล้วถ้าคุณไม่ไหวจริงๆ อยากให้ลองทิ้งทุกเรื่องไว้ข้างหลังสักระยะ แล้วหาเวลาไปพักผ่อน พักจิตใจ พักสมอง ดูบ้าง เช่น ไปหากิจกรรมที่ชอบทำ ออกกำลังกาย หรือไปท่องเที่ยว เพื่อเป็นการชาร์จแบตให้ตัวเอง แค่นี้คุณจะได้รับพลังบวกกลับมาอีกทางหนึ่งแล้ว
ดังที่เราบอกไปว่าเมื่อคุณเจอกับอุปสรรค มองพยายามใส่ความคิดในแง่บวกลงไปทุกครั้ง เพราะตามธรรมชาติของคนเราก็มักปรับความคิดตนเองให้เป็นลบอยู่เสมอ เมื่อเจอปัญหา แต่การใส่ความคิดบวกลงไปด้วยนี่แหละ ที่เป็นจะแสงสว่างช่วยส่องทางให้เห็นปลายอุโมงค์แห่งโอกาส พร้อมด้วยประโยชน์ในตัวของมัน ที่จะมาช่วยฝึกฝนให้ตัวคุณแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย
ข้อนี้คล้ายๆ กับข้อที่ 3 เราอยากให้คุณลองมองว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบางครั้งมันก็เป็นข้อดี ที่ทำให้คุณได้นำมาเป็นบทเรียนให้คุณได้พัฒนาตัวเอง อีกทั้งมันยังเป็นภูมิคุ้มกันให้คุณกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และอย่าไปกลัวหากความผิดพลาดนั่นจะเกิดซ้ำสอง เพราะอย่างไรเสียทุกคนย่อมต้องเจอความผิดพลาดเสมอๆ อยู่แล้ว
เรื่องราวของมนุษย์ Toxic เป็นสิ่งที่เราเจอได้ง่ายมากในยุคนี้ แล้วยิ่งเป็นยุคแห่งโลกดิจิทัล ที่เรื่องโซเชียลมีอิทธิพลค่อนข้างสูง ดังนั้นหากเจอคนรอบตัวมีความคิดติดลบ หรือเจอเพื่อนในโลกโซเชียลที่ชอบพ่นแต่พลังลบออกมาตลอดทั้งวัน ทางเดียวที่เราอยากแนะนำให้ทำคืออย่าไปสนใจคนเหล่านั้น พยายามอย่าไปปรับความเข้าใจหรือแนะนำอะไรทั้งสิ้น เพราะอาจทำให้เกิดคามขัดแย้งหรือมีเรื่องบานปลายเสียเปล่า วิธีที่ดีที่สุดคืออิกนอร์คนพวกนั้นไปซะ ทำเหมือนว่าเขาไม่มีตัวตน แค่นี้ก็จะช่วยให้จิตใจคุณปลอดโปร่งขึ้นแล้ว
บางครั้งการให้กำลังใจตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้วิธีอื่นๆ เพราะไม่มีใครที่เข้าใจตัวคุณได้ดีที่สุดไปมากกว่าตัวคุณเอง ลองหัดชมตัวเองดูบ้างเมื่อคุณทำสิ่งใดได้ประสบความสำเร็จ หรือสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยสร้างกำลังใจดีๆ ให้คุณได้อีกทางหนึ่ง
เมื่อกล่าวขอบคุณและให้กำลังใจตัวเองไปแล้ว อย่าลืมใส่ใจคนรอบข้างด้วยล่ะ ให้คิดเสมอว่าถ้าเราทำดีกับใคร เราก็ย่อมที่จะได้สิ่งนั้นกลับคืน ที่เราบอกแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะให้คุณคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งดีๆ คืนกลับมาหรือคาดหวังจากการทำดีของคุณ แต่ถ้าคุณเริ่มต้นที่ตัวเอง ด้วยการกล่าวขอบคุณคนรอบข้างให้บ่อย พลังบวกก็จะถูกส่งออกมาโดยอัตโนมัติ และเขาคนนั้นก็จะรับรู้ได้เอง รวมไปถึงการปฏิเสธด้วย หากมีสิ่งใดที่คุณต้องทำแล้วไม่สบายใจหรือไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็จงอย่ากลัวที่จะปฏิเสธ เพราะนั่นอาจทำให้คุณแบกรับอะไรที่เกินความรู้สึกของตัวเองได้
การเป็นคิดบวกนั้นจะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่ส่งผลดีให้กับตัวคุณเองทั้งสิ้น เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่เราจะไม่คิดลบกับสิ่งใดเลย บางครั้งถ้าทำไม่ได้จริงๆ ก็อย่าฝืนตัวเอง แต่ให้ทำทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป พยายามเสริมสร้างการคิดบวกไปเรื่อยๆ กับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อจิตใจ ร่างกาย และตัวคุณเองนี่แหละ
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
คว้างานที่ใช่ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/10-%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%94%e0%b8%b5-%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b3/