โอนเงินผิดบัญชี ดึงคืนได้ไหม? วิธีรับมือและติดต่อธนาคารให้ได้เงินกลับ

โอนเงินผิดบัญชี ดึงคืนได้ไหม? วิธีรับมือและติดต่อธนาคารให้ได้เงินกลับ
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 21 May, 2025
Share

Key Takeaway

  • สาเหตุที่ทำให้โอนเงินผิดบัญชี เช่น การกรอกเลขบัญชีผิด ใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขบัตรประชาชนผิด หรือเผลอเลือกบัญชีผิดขณะทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน
  • วิธีดึงเงินคืนจากการโอนตังค์ผิดบัญชีคือติดต่อธนาคารทันที พร้อมแนบหลักฐานการโอนเงินและใบแจ้งความ จากนั้นธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบและติดต่อธนาคารปลายทางเพื่อขอคืนเงิน
  • วิธีป้องกันไม่ให้โอนเงินผิดบัญชีคือตรวจสอบชื่อบัญชีและเลขบัญชีให้ถูกต้องทุกครั้ง ก่อนกดยืนยันการโอน และหากโอนผ่านแอปพลิเคชันหรือพร้อมเพย์ ให้ตรวจสอบข้อมูลปลายทางให้แน่ใจ

การโอนเงินผิดบัญชีเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวล แต่การรู้ขั้นตอนการรับมือและวิธีติดต่อธนาคารอย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับยอดเงินคืนมากที่สุด ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าโอนเงินผิดบัญชีดึงคืนได้ไหม? แล้วมีขั้นตอนอะไรบ้างที่ควรทำเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ รวมถึงการติดต่อธนาคารอย่างไรให้การดำเนินการรวดเร็วและได้เงินคืน

สาเหตุที่ทำให้โอนเงินผิดบัญชี มีอะไรบ้าง?

สาเหตุที่ทำให้โอนเงินผิดบัญชี มีอะไรบ้าง? 

การโอนตังค์ผิดบัญชีสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งบางครั้งอาจเกิดจากความไม่ระมัดระวังในระหว่างการโอนเงินหรือปัญหาทางเทคนิค ต่อไปนี้คือสาเหตุที่อาจทำให้เกิดการโอนเงินผิดบัญชี

  • พิมพ์เลขบัญชีผิด เกิดจากความผิดพลาดของผู้โอนที่ไม่ได้เช็กเลขบัญชีก่อนกดยืนยันการโอน
  • ข้อมูลผิดในบัญชีผูกพร้อมเพย์ อาจให้เบอร์โทรศัพท์ผิดหรือใส่หมายเลขบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง
  • ถูกหลอกโดยมิจฉาชีพ โดนหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้อง
วิธีดึงเงินคืนจากการโอนผิดบัญชีหรือผิดเบอร์

วิธีดึงเงินคืนจากการโอนผิดบัญชีหรือผิดเบอร์ 

เมื่อเราโอนเงินไปผิดบัญชี ดึงคืนได้ไหม? ยังสามารถขอดึงเงินคืนได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับกองทุนสํารองเลี้ยงชีพหรือบัญชีสำคัญอื่นๆ ที่จำเป็นต้องเร่งติดตาม ซึ่งสามารถดำเนินการขอคืนเงินได้ตามขั้นตอนที่ถูกต้องดังต่อไปนี้

1. รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความ

โอนเงินผิดบัญชีดึงคืนได้ไหม? ดึงเงินคืนได้หากคุณโอนเงินผิดบัญชีผ่านตู้ ATM ควรเก็บสลิปไว้ทันทีหรือถ่ายรูปเก็บไว้เผื่อกรณีทำหาย ส่วนผู้ที่ใช้ Mobile Banking ให้บันทึก E-slip ซึ่งควรมีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อบัญชี เลขที่บัญชี และจำนวนเงิน จากนั้นเตรียมเอกสารสำคัญ ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน และหลักฐานการโอนเงินผิด นำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน แล้วขอใบแจ้งความหรือบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นเรื่องกับธนาคารเพื่อขอเงินคืน

2. ติดต่อทางธนาคาร

เมื่อรู้ตัวว่าโอนเงินผิดบัญชี ควรรีบติดต่อธนาคารต้นทางทันที พร้อมนำหลักฐาน เช่น ใบแจ้งความและสลิปการโอน เพื่อให้ธนาคารช่วยตรวจสอบและดำเนินการต่อ หากผู้รับโอนใช้ธนาคารเดียวกัน ธนาคารจะสามารถติดต่อผู้รับโอนโดยตรงได้ทันที แต่ถ้าเป็นคนละธนาคาร ต้องมีการประสานงานกับธนาคารปลายทาง และรอการยินยอมจากเจ้าของบัญชีผู้รับเงินก่อน จึงจะสามารถโอนเงินคืนกลับมาได้ ซึ่งอาจใช้เวลามากขึ้น 

3. กรอกข้อมูลและรอติดตามผล

ในบางกรณี ธนาคารอาจให้คุณกรอกแบบฟอร์มแจ้งโอนเงินผิดบัญชี ไม่ว่าจะเป็นการโอนผิดบัญชีธนาคารหรือโอนผิดเบอร์ผ่านพร้อมเพย์ก็สามารถทำได้ในลักษณะคล้ายกัน โดยให้รีบติดต่อธนาคาร แจ้งรายละเอียดการโอนผิด เช่น เบอร์โทรศัพท์ที่โอนผิด วันที่ เวลา และยอดเงิน พร้อมแนบสลิปหรือ E-slip ประกอบ จากนั้นให้ติดตามความคืบหน้ากับธนาคารเป็นระยะ เพื่อสอบถามสถานะของเรื่องและระยะเวลาที่คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น

4. ติดต่อกับผู้รับเงินปลายทาง

หากคุณโอนตังค์ผิดบัญชี และทราบข้อมูลติดต่อของผู้รับเงินปลายทาง อาจพิจารณาติดต่อโดยตรงเพื่อขอความร่วมมือในการคืนเงิน อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้มีหลักฐานการดำเนินการที่ชัดเจน ควรดำเนินการผ่านธนาคารหรือช่องทางที่เป็นทางการจะดีที่สุด โดยธนาคารจะช่วยประสานงานและติดตามผลในกรณีที่อีกฝ่ายยินยอมคืนเงินให้

5. รอรับเงินคืน

กระบวนการขอคืนเงินจากการโอนผิดบัญชีอาจใช้เวลาตั้งแต่ 7–30 วันทำการ หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละกรณี โดยระหว่างนี้ควรติดตามผลกับธนาคารอย่างสม่ำเสมอ และมีความอดทน เนื่องจากธนาคารต้องตรวจสอบข้อมูลตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบภายใน 

หากดำเนินการตามช่องทางปกติแล้วยังไม่ได้รับเงินคืน อาจพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม โดยปรึกษาทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินทางเลือกที่เหมาะสม แต่ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและระยะเวลาที่อาจตามมาด้วย

ไม่โอนผิดอีกต่อไป ด้วยวิธีป้องกันโอนตังค์ผิดบัญชี

ไม่โอนผิดอีกต่อไป ด้วยวิธีป้องกันโอนตังค์ผิดบัญชี

เราสามารถลดความเสี่ยงในการโอนผิด ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินหรือกลายเป็นหนี้สูญได้ ด้วยการตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทำธุรกรรม ดังนี้

เช็กบัญชีและชื่อผู้รับเงินปลายทาง

การทำธุรกรรมผ่านแอปธนาคารหรือพร้อมเพย์ แม้จะสะดวกเพียงปลายนิ้ว แต่ก็อาจพลาดใส่ข้อมูลผิดได้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าโอนเงินผิดบัญชีจะดึงคืนได้ไหม เพียงตรวจสอบชื่อและเลขบัญชีปลายทางให้รอบคอบก่อนกดยืนยันการโอน เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เงินสูญเปล่าโดยไม่ตั้งใจ

โอนเงินให้ถูกธนาคาร

ควรตรวจสอบชื่อธนาคารและชื่อเจ้าของบัญชีให้ชัดเจนก่อนโอนเงิน โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้รับแจ้งเพียงตัวย่อของธนาคาร เพราะอาจทำให้เข้าใจผิดและเผลอโอนเงินไปยังบัญชีผิดได้ง่าย เป็นการลดความเสี่ยงจากความคลาดเคลื่อนที่อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา

ตรวจสอบยอดเงินให้ดี

ควรตรวจสอบจำนวนเงินที่จะโอนให้ถูกต้องทุกครั้ง เพื่อป้องกันการโอนเงินผิดบัญชี หากคุณโอนเงินไม่ครบสามารถทำการโอนเพิ่มได้ แต่หากโอนเงินเกินจำนวน ควรรีบแก้ไขตามคำแนะนำของธนาคารและติดต่อธนาคารโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการโอนเงินเกินจำนวน

สรุป

การโอนเงินผิดบัญชีเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การกรอกข้อมูลผิดหรือได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องจากผู้รับเงิน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ควรติดต่อธนาคารทันทีพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สลิปการโอนและใบแจ้งความ เพื่อขอคืนเงิน ธนาคารอาจต้องประสานงานกับธนาคารปลายทางและต้องได้รับการยินยอมจากผู้รับเงินก่อนที่จะสามารถคืนเงินได้ ในบางกรณีอาจต้องดำเนินการทางกฎหมาย หากไม่สามารถได้รับเงินคืนผ่านช่องทางปกติ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดทุกครั้งก่อนการโอนเพื่อป้องกันปัญหานี้ในอนาคต

หากคุณกำลังมองหางานใหม่หรือต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ และต้องการตำแหน่งที่สามารถใช้ทักษะในการแก้ไขปัญหา เช่น การจัดการเรื่องโอนเงินผิดบัญชี Jobsdb เป็นช่องทางที่ดีในการค้นหาตำแหน่งงานที่ตรงกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นงานในสายการเงิน บัญชี หรือแม้แต่ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการดูแลลูกค้าและแก้ไขปัญหาทางการเงิน

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

More from this category: คำแนะนำด้านเงินเดือน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา