เชื่อว่าคำถามนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจผู้สมัครงานหลายคน ไม่ว่าผู้สมัครหน้าใหม่ที่เพิ่งลงสนามเป็นครั้งแรก หรือหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่ทำงานมาได้สักระยะ หลาย ๆ คนก็ยังตอบคำถามนี้แบบชัดถ้อยชัดคำไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้เป็นปริศนาธรรมที่คลางแคลงใจต่อไป
จริง ๆ แล้วหลายคนยังสับสนว่า Resume กับ CV คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร หรือที่จริงแล้วคล้ายกันแต่ต่างวัตถุประสงค์ เอาจริง ๆ หากอธิบายแบบภาพรวมกว้าง ๆ เลยก็คือมีความคล้ายคลึงกันพอสมควร โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือทำเพื่อขายโปรไฟล์ตัวเองในการสมัครงาน แต่เนื้อหาและรายละเอียดด้านในนั้น ขายของคนละรูปแบบกัน อย่าง CV จะมีความจริงจัง เป็นการเป็นงาน เน้นผลงานทางวิชาการกว่า ส่วนตัว Resume เน้นเรื่องราวและชิ้นงานที่แสดงจุดเด่นของตัวเอง ใส่ลูกเล่น หรือดีไซน์ได้หลากหลาย
Resume กับ CV ต่างกันอย่างไร?
ก่อนจะไปดูว่า Resume และ CV แตกต่างกันอย่างไรนั้น ลองมาทำความเข้าใจแบบลงรายละเอียดไปพร้อมกันก่อนว่า ทั้ง Resume และ CV บอกเล่าเรื่องราวอะไรของคุณบ้าง โดยครั้งนี้ JobsDB ขอพาทุกคนมาเริ่มต้นที่เรซูเมกันก่อน เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่น่าจะคุ้นชินกันมากกว่า
หากคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางานทำ รายละเอียดในเรซูเมควรจะบอกเล่าถึงประวัติการศึกษาที่ผ่านมา ตั้งแต่วัยมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย เกรดเฉลี่ยเท่าไร คณะอะไร มีกิจกรรมหรือชมรมอะไรที่เคยเข้าร่วมมาบ้าง ตลอดจนรางวัลหรือชิ้นงานไหนที่ภาคภูมิใจเป็นพิเศษระหว่างเรียนก็สามารถแนบไปด้วยได้ ด้วยความที่เป็นสนามแรกของการหางาน ประสบการณ์ของคุณทั้งหมดยังเป็นศูนย์ สิ่งเหล่านี้จึงเป็น “หัวใจ” หลักสำคัญในโปรไฟล์ของคุณ
ในทางกลับกัน สำหรับคนที่ทำงานมาแล้วสักระยะ รายละเอียดเรื่องการศึกษาอาจจะลดทอนลง แน่นอนว่าส่วนสำคัญยังคงมีอยู่ แต่ถ่ายน้ำหนักมาเป็นเรื่องของประวัติการทำงาน สโคปงานอะไรที่เคยทำมาบ้าง รวมถึงสกิลต่าง ๆ ที่มีและกำลังจะพัฒนาในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนั้น ต้องบอกเล่าด้วยความกระชับ ไม่ยืดเยื้อ คัดแต่สิ่งสำคัญที่น่าสนใจออกมานำเสนอ มักเป็นหัวข้อสั้น ๆ ไม่เกิน 1-2 หน้า
Tips : ใน Resume สามารถใส่ลูกเล่นและดีไซน์ที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณได้ ยิ่งถ้าสายงานของที่คุณสมัครเกี่ยวกับการออกแบบ เรซูเมที่ดีไซน์ได้สะดุดตาก็มีโอกาสมากกว่า
1.ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน อย่างเช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ฯลฯ เรื่องอายุจะใส่ไว้ก็ดี กรณีตำแหน่งนั้นมีข้อจำกัดเรื่องอายุ ส่วนเรื่องเพศและรูปถ่ายนั้น เป็นเรื่องที่คุณต้องพิจารณาอีกที เพราะไม่ได้เป็นข้อบังคับตายตัว
เข้าใจภาพรวมของ Resume กันไปแล้ว ทีนี้มาถึง CV กันบ้าง เชื่อว่าคนไทยอาจจะไม่ค่อยชินกับ CV เท่าไรนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วการสมัครงานด้วย CV นั้น เป็นที่แพร่หลายในประเทศกลุ่มยุโรปมากกว่าประเทศแถบเอเชีย
คำว่า CV ย่อมาจากคำในภาษาละตินคือ Curriculum Vitae ซึ่งหมายถึง "ประวัติชีวิต" ถึงตรงนี้บางคนอาจจะพอจินตนาการต่อได้ว่า เนื้อหาและเรื่องราวใน CV จะเป็นไปในทิศทางไหน ส่วนใหญ่แล้ว Story ในนี้จะเน้นประวัติการทำงานและการศึกษาอย่างละเอียด โดยไล่เรียงไปตามไทม์ไลน์ ทั้งผลงาน งานวิชาการ งานที่ประสบความสำเร็จ ไปจนถึงงานที่ได้รับการตีพิมพ์ทางวิชาการต่าง ๆ ดังนั้นเนื้อหาและปริมาณความหนาจึงมีหลายหน้ากว่าเรซูเมที่เน้นความกระชับกว่ามาก
ส่วนมากแล้ว CV จะใช้สมัครงานทางวิชาการเป็นหลัก อย่างพวกงานสายแพทย์ สายวิจัย สายวิชาการ หรือสายงานเฉพาะผู้ที่มีการศึกษาวุฒิ ป.โทขึ้นไป เน้นโชว์ศักยภาพความเจ๋งทางวิชาการเป็นหลัก บางคนเขียนละเอียดถึงขนาดปีที่เข้าเรียน ไล่ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งวุฒิการศึกษาในปัจจุบัน ที่สำคัญเพื่อความน่าเชื่อถือ CV จำต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษ
1.ข้อมูลส่วนตัว : ชื่อนามสกุล ที่อยู่ อายุ วันเดือนปีเกิด
2.ประวัติการศึกษา / ประสบการณ์ทำงาน : เขียนเรียงตามไทม์ไลน์อย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ อธิบายถึงขอบเขตงานที่ได้รับมอบหมาย หน้าที่หลัก
3.งานวิจัย : รวมงานวิจัยหรืองานวิชาการต่าง ๆ ที่เคยทำมา แสดงถึงประสบการณ์และความสนใจของคุณที่แน่วแน่
4.กิจกรรมนอกหลักสูตร : ไม่จำเป็นต้องเรื่องวิชาการ จะเป็นงานอดิเรกส่วนตัว การไปค่ายอาสา ลงพื้นที่ช่วยเหลือชุมชน หรือวาดรูป อ่านหนังสือเสียงก็ระบุได้
5.รางวัล : ประกาศนียบัตรจากหลักสูตรและกิจกรรมต่างๆ
6.ทักษะ : ความสามารถในด้านต่าง ๆ ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ความเป็นผู้นำ อ่อนน้อมถ่อมตน จุดแข็ง จุดอ่อน
7.จดหมายรับรอง : ข้อนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีก็เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ CV คุณอยู่ไม่น้อย ส่วนใหญ่แล้วผู้เขียนรับรองให้คือหัวหน้างานหรืออาจารย์ของเรา
จะเห็นได้ว่าทั้ง Resume และ CV มีจุดประสงค์อย่างเดียวกัน คือเพื่อแสดงให้องค์กรเหล่านั้นเห็นถึงความสามารถของคุณ เพียงแต่ว่าแตกต่างกันในเรื่องเนื้อหาและรูปแบบที่นำเสนอ อยู่ที่สายงานของคุณ Require แบบไหน ถ้าเป็นสายวิชาการที่ต้องการปล่อยแสงแสดงถึงศักยภาพแบบเต็มที่ CV ก็ตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าในไทยและอเมริกาก็ต้องยอมรับว่า Resume ค่อนข้างแพร่หลาย และได้รับความนิยมในวงกว้างมากกว่า
ไม่มีอะไรถูกผิด อยู่ที่ว่าปลายทางของคุณ มองหาจุดขายของคุณในรูปแบบไหนมากกว่ากัน
สำคัญอยู่ที่การอัปเดต ทั้ง Resume และ CV ให้สม่ำเสมอมากกว่า อย่าปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดไปเพียงเพราะความพร้อม
อัปเดตให้พร้อม ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ทุกโอกาสดี ๆ รอคุณอยู่ที่ JobsDB แอปพลิเคชันหางานอันดับหนึ่งของไทย เลือกงานที่ใช่ องค์กรที่ชอบ สมัครเลย!
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%8b%e0%b8%b9%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%8b%e0%b8%b9%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/how-to-make-your-profile/