15 ร้านชาบูในกรุงเทพฯ สุดยอดหม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่นน่าลอง อัปเดต 2024

ใครเป็นสายชาบูบุฟเฟต์และอะลาคาร์ทต้องอย่าพลาดกับร้านเด็ด ร้านอร่อย ในราคาสุดคุ้ม พบกับลิสต์ร้านชาบูที่เอาใจวัยทำงานในกรุงเทพฯ ลิ้มรสชาติหม้อไฟร้อนๆ สไตล์ญี่ปุ่น 

1. Shabu king

ร้านชาบูพรีเมียมที่มีการจัดตกแต่งโทนร้านญี่ปุ่นดั้งเดิม พร้อมกับเมนูเอกลักษณ์ ทั้งซูชิ ข้าวหน้าแบบต่างๆ ที่เป็นสูตรพิเศษของทางร้าน รวมถึงอาหารที่เป็นวัตถุดิบเมนูไฮไลต์ของร้านที่เสิร์ฟเป็นเนื้อวากิวชั้นยอด เนื้อหมักพิเศษ คัดพิเศษอย่าง Japanese Wagyu A4, Australian Wagyu Striploin และไทยวากิว Chuck Roll พร้อมน้ำซุปดำพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่น เดิมทีร้าน Shabu king 

• เปิดที่สาขาศาลายา แต่สาขาใหม่ล่าสุดนี้อยู่ที่พระราม 9 ซอย 37 หาร้านเจอได้ง่ายมากขึ้น พร้อมให้บริการทุกสาขา
• ราคาอาหาร: ตั้งแต่ 500–1,000 บาทขึ้นไป เป็นรูปแบบอะลาคาร์ทพรีเมียม ไม่มีบุฟเฟต์
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 065-554-7942
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/shabukingfc
• พิกัด: Shabu King Rama9

2. Kagonoya

ร้านชาบูบุฟเฟต์ที่รับตรงสูตรรสชาติจากประเทศญี่ปุ่นแท้ในเขตโอซาก้า พร้อมเนื้อนำเข้า และของกินอื่นๆ ที่หลากหลายทุกสาขา มีการเปลี่ยนเมนูพิเศษ เมนูทานเล่นอยู่ตลอด เพื่อความหลากหลาย ไม่ให้ลูกค้าเบื่อ ส่วนจุดเด่นของร้าน Kagonoya Thailand ในทุกๆ สาขา ต้องยกให้กับเรื่องน้ำซุปที่มีให้เลือกมากถึง 4 ซุป โดยเลือกเป็นหม้อแบบ 1 ซุปใหญ่ หรือหม้อแบ่ง 2 ซุปก็ได้เช่นกัน พร้อมสูตรน้ำจิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน รวมถึงเนื้อพรีเมียมที่มีทั้งฝั่งนำเข้าจากอเมริกาและญี่ปุ่น

• ราคาอาหาร: เป็นเร9บุฟเฟต์ มี 3 ราคา ได้แก่ บุฟเฟต์เซ็ตแรก 549 บาท/คน (เด็ก 275 บาท/คน) , บุฟเฟต์เซ็ตสอง 749 บาท/คน (เด็ก 375 บาท/คน) และ บุฟเฟต์เซ็ตสาม 949 บาท/คน (เด็ก 475 บาท/คน) ราคาทั้งหมดนี้ยังไม่รวม VAT จำกัดระยะเวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงในการทาน
• ที่ตั้งร้าน: อยู่ที่สาขา Central world ชั้น 7, Central พระราม 9 ชั้น 7, Mega Bangna ชั้น 1 และยังมีอีกมากกว่า 10 สาขาในไทยตอนนี้
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/kagonoya/
• พิกัด: Kagonoya Thailand

3. Onyasai

ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ชาบูที่เน้นคัดสรรเนื้อส่วนต่างๆ ด้วยเกรดนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งเนื้อจากทาง US ที่มีสันคอและคารูบิแบบอิมพอร์ต หรือจะเป็นเนื้อส่วนซี่โครงในราคาเริ่มต้นแค่ไม่ถึง 500 บาท นอกจากนี้ จุดเด่นของร้าน Onyasai คือความคุ้มค่าด้านราคาและวัตถุดิบที่จะได้ทั้งเนื้อนำเข้าสุดพรีเมียม อีกทั้งยังได้วัตถุดิบอาหารทะเลสดแบบพรีเมียม สั่งทานแบบไม่อั้น 

นอกจากนี้ยังมีเซตของหวาน ของทานเล่นที่เป็นสูตรญี่ปุ่นแท้มาให้ได้กินกัน รับรองว่าใครที่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน แล้วได้แวะร้านนี้ต้องนึกถึงรสชาติที่ประเทศญี่ปุ่นได้แน่นอน

• ราคาอาหาร: เริ่มต้นที่ 399 – 1,000 บาทขึ้นไป ทั้งแบบบุฟเฟต์และอะลาคาร์ท ถ้าเป็นบุฟเฟต์จำกัดเวลากินอยู่ที่ 2 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ชั้น 1 อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-21:00 น.
• เบอร์โทร: 02-163-4330
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/onyasaithailand 
• พิกัด: Onyasai

4. AKIYOSHI

ร้านปิ้งย่าง ชาบู สุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแบรนด์ดังในไทยกับร้าน Akiyoshi ที่มีสาขามากกว่า 5 สาขาตอนนี้ จุดเด่นของร้าน AKIYOSHI จะมีให้เลือกทั้งกินเป็นชาบูซุปพิเศษของทางร้าน หรือเลือกกินแบบปิ้งย่าง นอกจากนี้ ใครที่ไม่อยากทานเยอะเกินไปก็สามารถจัดเซ็ตสุกี้ยากี้มาผัดทานกันได้ในราคาสุดคุ้ม 

พร้อมวัตถุดิบเนื้อพิเศษที่นำเข้าจากญี่ปุ่น มีไข่ไก่เกรดที่กินดิบได้ให้จุ่มเพิ่มความหอม ความนุ่มละมุนให้กับเนื้อเกรดพรีเมียม หากใครที่เลือกไม่ได้ว่าจะทานเป็นชาบู ปิ้งย่าง หรือสุกี้ยากี้ ก็สามารถสั่งเพิ่มได้อีกด้วย

• ราคาอาหาร: บุฟเฟต์มีเรต 2 ราคา คือ 599 บาท และแบบพรีเมียม 999 บาท ราคาทั้งหมดนี้ยังไม่รวม VAT เป็นบุฟเฟต์ที่จำกัดเวลา 1.30 ชั่วโมงในการรับประทาน
• ที่ตั้งร้าน: สาขาหลักของร้านสามารถเข้าไปทานง่าย ๆ ได้ที่สาขาสยามสแควร์วัน ชั้น 5, สาขาเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ และสาขาจามจุรีสแควร์
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-21:00 น.
• เบอร์โทร: 02-115-1491 (สาขาสยามสแควร์วัน)
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Akiyoshiofficial/
• พิกัด: AKIYOSHI

5. TETSU

ร้านปิ้งย่างสไตล์ยากินิกุแท้จากต้นตำรับญี่ปุ่นที่มีการจัดตกแต่งบรรยากาศเป็นธีมที่เรียบง่าย นำสมัย และผสมผสานกลิ่นอายของความเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ามาอย่างชัดเจน มีการเลือกโทนสีให้อยู่ภายใต้คอนเซปต์ Urban Yakiniku โดยจานเด็ดของร้าน TETSU (เทสสึ) คือเนื้อโอมิ ที่เป็นเนื้อวัวนำเข้าเกรดพรีเมียมของญี่ปุ่น เนื้อลายหินอ่อนที่คัดตั้งแต่เกรด A4 ขึ้นไป

 ซึ่งมีให้เลือกทั้งสั่งทานเป็นวัตถุดิบเพื่อการปิ้งย่าง (Yakiniku) หรือเลือกทานแบบจัดเสิร์ฟเมนูที่ปรุงมาแล้วเรียบร้อยในรูปแบบของอะลาคาร์ทก็ได้เช่นกัน ซึ่ง 3 เมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้ ได้แก่ Mixed Omi Wagyu Beef Platter, Aburi Wagyu Sushi และ Tetsu Kaiso Salad

• ราคาอาหาร: เป็นแบบอะลาคาร์ท ช่วงราคาที่เหมาะสมเป็นมาตรฐานคือ ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 5 Central Embassy
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 02-160-5722
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/tetsu.embassy/
• พิกัด: TETSU

6. Shabu baru

ร้านชาบูบุฟเฟต์ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงบริการหม้อเดี่ยวเจ้าแรกๆ ที่มาพร้อมกับการทานที่สามารถอิ่มได้ในเซตเดียว จัดเสิร์ฟวัตถุดิบแบบครบโภชนาการและพรีเมียม ให้ลูกค้านั่งทานชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์หม้อส่วนตัวแบบโซนบาร์ญี่ปุ่นโดยไม่ต้องสั่งอะไรเพิ่ม 

นอกจากนี้เซตเสิร์ฟที่สั่งมายังสามารถจัดเลือกวัตถุดิบเองได้ เลือกเกรดเนื้อได้ทุกรูปแบบตามต้องการ เรียกได้ว่าร้าน Shabu baru เน้นทานง่าย ทานไว และอิ่มคุ้ม เป็นการกินชาบูและสุกี้ยากี้แบบที่ไม่มีร้านไหนสามารถให้บริการแบบนี้ได้ 

• ราคาอาหาร: เป็นแบบอะลาคาร์ทอยู่ในช่วงเรต 500–2,000 บาท
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ในสินธร วิลเลจ โซน Unit A102 ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 061-528-8288
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/p/Shabu-baru-100075841667212/
• พิกัด: Shabu baru

7. Shibuya Shabu

ร้านบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นที่สามารถเลือกสั่งเป็นชาบูน้ำซุปพิเศษ พร้อมทานเนื้อเกรดพรีเมียม หรือเลือกทานเป็นบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นประเภทต่างๆ อย่างซูชิ ข้าวหน้า ซาซิมิ เมนูเส้น และอื่นๆ อีกมากมายก็ได้เช่นกัน สามารถสั่งทานทั้ง 2 แบบได้ในราคาเดียวอีกด้วย รสชาติซุปของร้านนี้จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเพราะเคี่ยวซุปจากการเลือกใช้ปลาทะเล 

ไม่ว่าจะเป็นซุปหม้อชาบูหรือเมนูสุกี้ยากี้ก็จะได้ความหอมของปลาทะเลที่คัดสรรมาเฉพาะ สำหรับสายเนื้อต้องอย่าพลาดกับส่วนต่างๆ จากเนื้อคารูบิ เรียกได้ว่าจุดเด่นของร้าน Shibuya Shabu จะเน้นความพรีเมียมในรสชาติอาหารและวัตถุดิบอย่างแท้จริง

• ราคาอาหาร: เป็นแบบบุฟเฟต์ 699 บาท ไม่รวม VAT จำกัดเวลากิน 2 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G อาคารวรสมบัติ ถ.พระราม 9
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-23:00 น.
• เบอร์โทร: 02-246-0535 (สาขาพระราม 9)
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/ShibuyaShabu/
• พิกัด: Shibuya Shabu

8. den 伝 Shabu

ถัดออกจากกรุงเทพฯ มาไม่ใกล้ไม่ไกล สำหรับชาวเมืองกรุงที่อยากลองชาบูญี่ปุ่นเจ้าแรกของโคราช ร้านมีการจัดตกแต่งบรรยากาศร้านขาวมินิมอลที่สบายตา กว้างขวาง และมาพร้อมกับการเสิร์ฟซุปถึง 4 ช่อง ให้เลือกได้ 4 น้ำซุปซิกเนเจอร์ของทางร้านที่มีมากกว่า 8 แบบ ได้แก่ ซุปหม่าล่าชาบู ซุปดำ ซุปทงคตสึ ซุปเย็นตาโฟ ซุปคอมบุดาชิ ซุปกระดูกหมูเห็ดหอม และซุปมิโซะ โดยอาจมีซุปพิเศษตามช่วงเวลาโปรโมชั่นมาเพิ่มเติมอีกมากมาย 

สำหรับร้านนี้หาพิกัดที่ตั้งง่ายมาก และเป็นบุฟเฟต์ชาบูพร้อมอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมียมทั้งหมด สำหรับเอกลักษณ์ของร้านนี้จะเป็นการคัดสรรเนื้อคารูบิ เนื้อวากิว และเนื้อออสเตรเลีย มาจัดเสิร์ฟในราคาบุฟเฟต์ไม่ถึงพันบาท และมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ให้เลือกทานมากกว่า 50 รายการขึ้นไป

• ราคาอาหาร: เป็นแบบบุฟเฟต์มี 3 ราคา ตั้งแต่ 388, 488 และ 588 บาท ราคานี้ไม่รวม VAT และไม่รวมเครื่องดื่มประเภทพิเศษ จำกัดเวลากิน 2 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: อยู่ในตัวอำเภอเมืองโคราช (จังหวัดนครราชสีมา) ถนนสมบรูณชัย ตำบลปรุใหญ่
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการเวลา 16:00–22:00 น. ในวันอังคาร–พฤหัสบดี และเปิดให้บริการเวลา 15:00–22:00 น. ในวันศุกร์–อาทิตย์ ร้านปิดทุกวันจันทร์
• เบอร์โทร 04-400-3463
• เว็บไซต์ den 伝 Shabu
• พิกัด Den Shabu เด็น ชาบู

9. Masaru Shabu & Sushi Buffet

ร้าน Masaru Shabu & Sushi Buffet มีการจัดตกแต่งขนาดร้านใหญ่ที่รองรับได้มากกว่า 140 ที่นั่ง มาในบรรยากาศร้านที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมและความสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ที่ให้ความรู้สึกกว้างขวาง สบาย และจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าทั่วร้าน 

ส่วนเมนูเอกลักษณ์ของร้านนี้จะเป็นบุฟเฟต์ที่ได้ทั้งชาบูและอาหารญี่ปุ่นที่เลือกสั่งได้ทุกอย่างในราคาเดียวกัน ครบทั้งวัตถุดิบพรีเมียม อาหารคาว และของหวาน รวมถึงของทานเล่นอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตัวร้านจะเป็นบริการ Self–Service ที่สามารถเดินไปเลือกตักทานได้ 

หรือจะเลือกสั่งทานเมื่อเป็นเซ็ตด้วยราคาพรีเมียมที่ประกอบไปด้วยเมนูพิเศษอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบสดนำเข้าจากออสเตรเลีย และญี่ปุ่น หรือเมนูอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับและซูชิเซตก็มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้แน่นอน

• ราคาอาหาร: เป็นแบบบุฟเฟต์ที่มีตั้งแต่เรต 588, 688 และ 788 บาท โดยราคานี้สุทธิไม่รวม VAT จำกัดเวลากิน 2 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โครงการ Crystal Design Center ถนนประดิษฐ์มนูธรรม
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 097-016-1888
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/masaru.shabu/
• พิกัด: Masaru Shabu & Sushi Buffet

10. Nabezo Premium

ร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทชาบูและอะลาคาร์ทสุดหรูและเป็นท็อปเกรดที่พร้อมให้บริการอย่างคุ้มค่า ตั้งแต่บรรยากาศการจัดตกแต่งร้าน รสชาติอาหาร ความหลากหลายของประเภทอาหาร รวมถึงรูปแบบการเลือกทานว่าต้องการกินแบบเป็นคอร์สเสิร์ฟหรือต้องการเลือกสั่งกินแบบอะลาคาร์ท 

Nabezo Premium นี้มีเนื้อ A5 ที่คัดสรรมาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งการจัดเสิร์ฟแบบคอร์สก็จะมีการเรียงลำดับประเภทอาหารมาให้ในการเรียกน้ำย่อย ก่อนตั้งหม้อชาบูสุกี้ยากี้ แล้วตบท้ายด้วยของหวาน ส่วนใครที่สั่งแบบอะลาคาร์ทก็มีเมนูพรีเมียมทั้งหมดให้เลือกมากกว่า 100 รายการขึ้นไป 

ซึ่งการเลือกแบบคอร์สหรืออะลาคาร์ทก็จะมีทางเลือกของอาหารแต่ละรายการให้จัดสรรตามความชอบเองได้

• ราคาอาหาร: เป็นแบบคอร์สหรืออะลาคาร์ท สามารถเลือกได้ โดยมีราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้า Central Embassy ถนนเพลินจิต และมีอีกสาขาอยู่ที่ชั้น 3 เกษรวิลเลจ ถนนเพลินจิต
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 02-160-5623
• เว็บไซต์: Nabezo Premium | Bangkok
• พิกัด: Nabezo Premium

11. Shizen Shabu

ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์ที่ราคาคุ้มค่ามาก เพราะลูกค้าจะได้เลือกทานชาบูพรีเมียมแบบหม้อ 2 ช่อง เลือกซุปพิเศษได้ พร้อมกับวัตถุดิบเนื้อวัวและเนื้อหมูเกรดนำเข้าต่างประเทศ และยังสามารถสั่งอาหารญี่ปุ่นประเภทซูชิ ซาซิมิ แซลมอน ปลาดิบต่างๆ รวมถึงข้าวหน้าและเมนูเส้นอีกมากมายได้อย่างเต็มที่ในเรตราคาเดียวเท่านั้น นอกจากนี้เมนูที่น่าสนใจของบุฟเฟต์ร้าน Shizen Shabu คือเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชัน ส่วนบรรยากาศร้านถือว่าเป็นการจัดแตกแต่งเรียบง่ายตามสไตล์ร้านชาบูและบุฟเฟต์พรีเมียมในห้างใหญ่

• ราคาอาหาร: เป็นแบบบุฟเฟต์ มี 2 ราคา คือ 499 และ 899 บาท เป็นราคาสุทธิยังไม่รวม VAT จำกัดเวลากิน 1.30 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่สยามสแควร์วัน ชั้น 5
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 065-146-6565
• เว็บไซต์: Shizen Shabu สาขา สยามสแควร์วัน ชั้น 5
• พิกัด: Shizen Shabu

12. Senju Shabu & Sushi Premium Buffet

ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์ที่สามารถเลือกได้ว่าต้องการทานเป็นเมนูพรีเมียมอาหารญี่ปุ่นจากเชฟใหญ่โดยตรง หรือต้องการเลือกเป็นทานแบบชาบู หากใครต้องการทาน 2 แบบก็สามารถสั่งได้ในราคาเดียว สำหรับตัวร้าน Senju Shabu & Sushi Premium Buffet นี้ 

แม้ว่าจะอยู่ในห้าง MBK แต่ธีมของการจัดตกแต่งเรียกได้ว่าเป็นสไตล์หรูหรา ด้วยโทนร้านออกไปทางดำและมีแสงไฟส้มที่ทำให้ดูเพิ่มความทันสมัย และการจัดเสิร์ฟอาหารต่างๆ หรือหม้อชาบูที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นอย่างมาก พร้อมกับเมนูสุดคุ้มระดับพรีเมียมอย่างคานิมิโซะที่ย่างเสิร์ฟร้อนๆ บนเตามาให้ถึงโต๊ะ หรือจะเป็นโฮตาเตะและทรัฟเฟิลช็อต รวมทั้งยังมีอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมอีกมากมายในราคาจับต้องได้

• ราคาอาหาร: เป็นแบบบุฟเฟต์ให้เลือก 5 ราคา ได้แก่ 499, 699, 899,1,199 และ 1,799 บาท เป็นราคาสุทธิยังไม่รวม VAT จำกัดเวลากิน 1.30 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 ห้าง MBK Center 
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 065 719 2284
• เว็บไซต์: Senju Shabu&Sushi Premium Buffet
• พิกัด: Senju Shabu & Sushi Premium Buffet

13. Shabu One

ร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่มีการจัดตกแต่งร้านในบรรยากาศีที่น่ารัก เป็นกันเอง ใช้สอยพื้นที่ในร้านอย่างคุ้มค่า ตกแต่งแบบสมัยใหม่แต่ก็ผสมผสานโทนไม้ให้ดูเป็นความญี่ปุ่น รองรับที่นั่งภายในร้านได้ถึง 42 ที่นั่ง มีบรรยากาศที่ดีทั้งต่อลูกค้าที่มาทานคนเดียวหรือมากันหลายคน 

สำหรับเมนูของทางร้านสามารถเลือกได้ว่าต้องการรับเป็นบุฟเฟต์ชาบูหรือเมนูอะลาคาร์ทอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม ส่วนใครที่ต้องการลองทานทั้งแบบชาบูพรีเมียมและอะลาคาร์ทเมนูพรีเมียมก็สามารถสั่งได้เช่นกัน ซึ่งซิกเนเจอร์อะลาคาร์ทที่นี่จะเป็นข้าวหน้าเนื้อ (กิวด้ง) ส่วนวัตถุดิบชาบู มีทั้งซีฟู๊ดพรีเมียม เนื้อนำเข้าเกรดออสเตรเลีย และคัดลายเนื้อนำเข้าของแต่ละส่วนมาเสิร์ฟทั้งหมูและวัว

• ราคาอาหาร: แบบบุฟเฟต์มี 3 เรตราคา ได้แก่ 429, 479, 659 บาท เป็นราคาสุทธิไม่รวม VAT จำกัดเวลากิน 1.30 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 The Nine Center Rama 9 ถนนพระราม 9 
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 02-716-7895
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/shabuone1/
• พิกัด: Shabu One

14. Tenten ชาบู 4 สี หมีออนเซน

ร้านชาบูอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์ที่มาพร้อมกับซุปเข้มข้นสุดแซ่บถึง 6 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นหม่าล่าชาบู ซุปต้มยำ ซุปปลาแห้ง ซุปทงคตสึ ซุปมิโซะฮอกไกโด และซุปสุกี้ยากี้ เป็นความเข้มข้นกลมกล่อมเอกลักษณ์ของร้านนี้ กินพร้อมกับวัตถุดิบเนื้อวัว เนื้อหมู เซ็ตอาหารทะเลที่นำเข้ามากันแบบสดๆ วันต่อวัน

ส่วนของเนื้อวัวเรียกได้ว่าคัดมาทุกส่วนที่เป็นลายดีที่สุด สายเนื้อห้ามพลาดเด็ดขาด นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของทางร้านคือยังมีน้ำจิ้มมากถึง 8 แบบ ส่วนใครที่อยากทานเป็นอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ก็เลือกสั่งได้ มีทั้งซูชิเซ็ต ซาซิมิ และข้าวหน้าต่างๆ รวมอยู่ในบุฟเฟต์ให้ได้เลือกแล้ว

• ราคาอาหาร: เป็นแบบบุฟเฟต์มี 3 เรต ได้แก่ 499, 599 และ 799 บาท เป็นราคาสุทธิไม่รวม VAT จำกัดเวลากิน 1.30 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่สยามสแควร์วัน ชั้น 5
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น.
• เบอร์โทร: 062-479-1623
• เว็บไซต์: Tenten ชาบู 4 สี หมีออนเซน | Bangkok
• พิกัด: Tenten ชาบู 4 สี หมีออนเซน

15. Koriko Yakiniku 

ร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างที่มีการตกแต่งร้านให้อยู่ในธีมปิ้งย่างแบบญี่ปุ่นแท้จากการใช้วัสดุที่เป็นไม้ และเลือกแสงไฟส้ม รวมถึงการคุมโทนสีต่าง ๆ ให้มีความเป็นไม้ ๆ เป็นแนวร้านยากินิกุของญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ ๆ มาพร้อมกับเตาปิ้งย่างขนาดพอดีสำหรับตั้งแต่มา 1 คนหรือมากันหลายคนและยังเลือกได้ว่าต้องการเพิ่มบริการหม้อชาบูด้วยหรือไม่ 

สำหรับวัตถุดิบเกรดพรีเมียมของร้าน Koriko Takiniku จะโดดเด่นในเรื่องอาหารทะเลที่เป็นวัตถุดิบสดนำเข้า ทั้งหอยเชลล์ หอยนางรมสด หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึกสดยักษ์ กุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่ หรือจะเป็นปลาดิบซาซิมิอย่างแซลมอนเกรดนอร์เวย์นำเข้าก็มีให้สั่งกัน รวมถึงอาหารญี่ปุ่นราคารวมในบุฟเฟต์แล้วเรียบร้อย ระดับเมนูพรีเมียมทั้งหมดทุกรายการ

• ราคาอาหาร: เป็นแบบบุฟเฟต์ มี 3 เรท ได้แก่ 399 บาท , 699 บาท และ 1,189 บาท เป็นราคาสุทธิไม่รวม VATจำกัดเวลา 1.30 ชั่วโมง
• ที่ตั้งร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่โครงการวีด้า เจมโมโปลิส โซนจามจุรีฟร้อนท์ ห้องJ0006 เขตประเวศ
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการเวลา 11:30–22:00 น. ในวันจันทร์–พฤหัสบดี และเปิดให้บริการเวลา 10:00–22:00 น. ในวันศุกร์–อาทิตย์ ไม่มีวันหยุด
• เบอร์โทร: 092-260-3002
• เว็บไซต์: https://facebook.com/korikoTH/?paipv=0&eav=AfbeOIqgB0t-obBPI1R-7IPOJ_AaBDUwpVI3UePN4JSmhV0fASnzkcQcF87VzOsc9IU&_rdr
• พิกัด: KORIKO​ YAKINIKU​

สรุป

ร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพแต่ละร้านมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกันและมีหลายราคา หลายประเภทอาหารให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์การกินของทุกคนได้ ตอบโจทย์วัยทำงานในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นชาบูเสียบไม้ ปิ้งย่าง ชาบูสุกี้ยากี้ หรืออาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียมอื่นๆ อีกมากมาย

สามารถเลือกสั่งได้ตามต้องการ นอกจากนี้จุดเด่นร้านชาบูต่างๆ ที่แนะนำมานี้ต้องยกให้กับน้ำซุปคุณภาพและวัตถุดิบที่สดใหม่ สำหรับใครที่ต้องการอิ่มอร่อยแบบจัดเต็มหลังเลิกงาน ก็แวะไปร้านใกล้ที่ทำงาน ไปกินเติมพลังกับเพื่อนๆ ได้เลย