ด้วยสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวด้วยเช่นกัน เรียกว่า “รายรับเท่าเดิม เพิ่มเติมคือรายจ่าย” หลาย ๆ คนจึงเลือกหาช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ ๆ อย่างการหาอาชีพเสริม เพื่อเอารายได้ส่วนนั้นมาจุนเจือค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ ในครอบครัว ถึงจะได้เป็นก้อนเล็กก้อนน้อยแต่ก็พอแบ่งเบาภาระไปได้บ้าง
ทั้งยังเป็นการการกระจายความเสี่ยงอีกช่องทาง เพราะหากวันหนึ่งงานประจำที่ทำเกิดปัญหาเลิกจ้าง layoff ขึ้นมา จะได้มีอาชีพเสริมไว้เป็นหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ ไม่เคว้งจนเกินไปนัก ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสให้เราได้ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน ได้เปิดใจลองอะไรใหม่ ๆ ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างสูญเปล่า ได้ฝึกทำ ฝึกลอง เพิ่มทักษะและการเรียนรู้ด้านอื่น ๆ อีกทางหนึ่ง
อยากทำอาชีพเสริมแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี เชื่อว่าเป็นคำถามที่อยู่ในใจของคนที่จะเริ่มแต่ไม่รู้จะคลำ จะก้าวจากตรงไหนก่อน JodsDB เข้าใจความมั่นใจตรงนี้ดี วันนี้เราเลยเอาวิธีไกด์ของคนที่อยากลองทำอาชีพเสริมาฝากกัน เผื่อไปปรับใช้ได้
เริ่มต้นให้ลองใช้เวลาทำความเข้าใจกับตัวเองให้ดีก่อน เพื่อให้รู้ว่าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ตัวเราเองพอมีทักษะไหน หรือความสามารถพิเศษอะไรที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทำอาหาร งานศิลปะ การเล่าเรื่อง ถ่ายภาพ/วิดีโอ ชอบเล่า ชอบสร้างคอนเทนต์ ชอบเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ คือต้องเริ่มจากรู้ใจตัวเองก่อน จะลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ ให้เห็นภาพเลยก็ได้ แนะนำว่าให้ลิสต์ที่พอมีทักษะและเงื่อนไขส่วนตัวของเราว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง ทำงานได้เฉพาะช่วงเวลาไหน สิ่งเหล่านี้จะช่วยวางเฟรมเวิร์กให้คุณเดินต่อไปได้ง่ายขึ้น
ไม่เช่นนั้นการลองผิดลองถูกไปอย่างไร้จุดหมาย อาจจะทำให้เราเสียเวลาโดยใช่เหตุ แถมเหนื่อยเปล่า ๆ อีก ยอมให้เวลาลงทุนกับการเริ่มต้นสักหน่อย เพื่อที่จะเดินต่อไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น
ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกความสามารถพิเศษหรือสิ่งที่คุณมีแพชชันจะเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินได้มากมายในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มงานศิลปะ หากเลือกอาชีพเสริมเป็นสายงานดังกล่าว กลุ่มตลาดที่เลือกอาจจะต้องมองหาตลาดแบบ go inter ตลาดต่างชาติ อย่างการวางขายในแอปฯ อย่าง pinkoi แหล่งรวมงานแฮนด์เมดจากทั่วโลก เพราะถ้าขายคนไทยกันเองอาจจะตั้งราคาสูงไม่ได้มากนัก
ทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น คือจะสื่อว่าต่อให้จะได้คำตอบแล้วว่า ความสามารถหรือทักษะไหนของคุณที่โดดเด่น บางอย่างอาจจะเลือกมาทำเป็นอาชีพเสริมไม่รุ่ง ดีไม่ดี ใช้เวลาและลงแรงกว่างานประจำ และอาจะกระทบกับงานหลักได้ ทางที่ดีควรมองหาโอกาสของความเป็นไปได้ รวมถึงศึกษาตลาดที่จะรองรับ “ความสามารถ” นั้น พร้อมสำรวจดูว่ามีคู่แข่งเยอะไหม Niche Market หรือไม่ กำลังซื้อเป็นอย่างไร คุ้มที่จะลงทุน ลงเวลา จะสร้างรายได้ทางใหม่ หรือสร้างภาระมากขึ้นกว่าเดิม ต้องลองชั่งน้ำหนักให้ดี
เมื่อศึกษาตลาดและรู้ว่าต้องดึงเอาความสามารถของเราส่วนไหน มาเป็นอาชีพเสริมแล้ว ต่อไปก็เข้าสู่ขั้นตอนของการทดลอง ฝึกทักษะที่จำเป็นต้องใช้ประกอบอาชีพเสริมให้แข็งแกร่ง จากความชอบพอทำได้ ต้องกลายเป็นสิ่งที่เชี่ยวชาญ ทั้งในเชิงของทฤษฎีและปฏิบัติ จะเริ่มจากการลงเรียนคอร์สเพิ่ม เพื่อเติมความรู้ในสิ่งที่ขาดก่อนก็ได้ แล้วค่อยนำทฤษฎีนั้นมาฝึกซ้ำ ๆ จนเกิดเป็นความชำนาญ
ยกตัวอย่าง กรณีเลือกอาชีพเสริมเป็นการขายอาหาร อาจจะเริ่มจากการทำเซ็ตอาหารเช้า เซ็ตอาหารกลางวันไปขายคนที่ทำงาน นอกจากรสชาติที่เป็นหัวใจหลักแล้ว ความรู้เรื่องการเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ การเก็บอาหารต้องฟรีซในอุณหภูมิเท่าไร แพ็กเกจ การขนส่ง ต้นทุน ฯลฯ คือต้องฝึกคิดตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง รวมถึงการฝึกทำอาหารซ้ำ ๆ ลองผิดลองถูก
จะเอาไปให้เพื่อน ๆ ชิมก่อนแล้วรับฟังฟีดแบ็กมาปรับปรุงก่อนก็ได้ นอกจากจะได้ใจและทำให้ลูกค้าคุ้นเคยกับแบรนด์แล้ว ยังได้ในแง่ของรสชาติที่ถูกปากด้วย เหมือนทำกรุ๊ป Testing เพื่อให้ได้ความเสมอต้นเสมอปลายของรสชาติ และตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด
หากเซ็ตระบบทุกอย่างลงตัวแล้ว ทั้งเรื่องของทักษะความสามารถของตัวเองและได้ช่องทางการตลาดเรียบร้อย จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนเรื่องการสร้างแบรนด์ ทำสินค้าให้ติดตลาด ต่อให้อาชีพเสริมของคุณจะไม่ได้มีโปรดักส์อะไรที่จับต้องได้ จะเป็นแนวสอนพิเศษให้ความรู้ หรือลองแต่งนิยายออนไลน์ขาย อย่างไรก็หนีไม่พ้นการตลาดอยู่ดี เพราะแบรนด์ก็คือตัวคุณเอง
จะมีโปรดักส์เป็นชิ้นเป็นอันหรือไม่นั้น อย่างไรคุณก็จำต้องมีความรู้เรื่องการตลาด อย่างน้อยต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า เป็นใคร ชอบให้สื่อสารแบบไหน ราคาแบบไหนที่เขาจะซื้อ จุดขายแบบไหนถึงเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้ ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าแต่ละกลุ่ม ล้วนมีความชอบและพฤติกรรมการจ่ายไม่เหมือนกัน ฟังดูแล้วเป็นสิ่งยุ่งยาก แต่หากคิดจะทำอาชีพเสริมแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่หนีไม่พ้น ทำทั้งทีทำให้ดีไปเลย
ก่อร่างสร้างตัวมาอย่างดีแล้ว จะลืมข้อนี้ไม่ได้เลย นั่นคือการ Maintain ให้สิ่งที่เซ็ตมาตรฐานไว้คงอยู่แบบเดิม รักษาจุดขายที่มีและต่อยอดให้ดีกว่าเดิม พร้อมกับพยายามเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้หมุนไปตามโลกเสมอ อาจจะไม่ต้องทันแต่อย่าหยุดก้าวก็พอ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ ทักษะใหม่ ๆ หากดูแล้วว่าเกี่ยวข้องกับอาชีพเสริมก็ควรอัปเดตเรื่อย ๆ อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วหยุดพัฒนา ต่อให้เป็นอาชีพเสริม สุดท้ายแล้วลูกค้าก็จะไหลไปสู่สิ่งที่ดีกว่าที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ตามยุคสมัย
ไม่มีใครตอบได้ว่าถ้าเลือกทำอาชีพเสริมแล้ว จะดีหรือไม่ดี จะล้มเหลวหรือผิดหวัง อย่างน้อยเลือกทำก็ได้รู้คำตอบ ไม่ทำเลยไม่มีทางรู้อะไร และถ้าเริ่มต้นจากอะไรที่เราสนใจ เป็นความสามารถพิเศษอยู่แล้ว ก็น่าจะทำได้อย่างเต็มที่ บนโลกนี้ไม่งานไหนไม่ลำบาก ทุกงานเหนื่อยและกดดันทั้งนั้น แต่ถ้างานนั้นมาจากสิ่งที่เราชอบ เหนื่อยแต่ใจรัก ต่อให้ล้มก็ลุกก้าวต่อได้ไวกว่า ไม่รักแล้วยังเหนื่อย
มองหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ หรือหางานใหม่ที่ให้รายได้ที่ตรงใจคุณไปเลยแบบไม่ต้องเหนื่อยซ้ำ ๆ ได้แล้วที่ Jobsdb แพลตฟอร์มหางานอันดับหนึ่งของประเทศไทย