วิธีคำนวณขอเงินคืนภาษี 2567 พร้อมขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียม
Key Takeaway
- เงินคืนภาษี คือเงินที่ผู้เสียภาษีได้รับคืนจากกรมสรรพากร เมื่อมีการชำระภาษีมากเกินกว่าที่ต้องจ่ายจริง
- เงินคืนภาษีมาจากการที่ผู้เสียภาษีชำระภาษีเกินกว่าที่ต้องจ่าย เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91 ภาษีมูลค่าเพิ่ม และการชำระภาษีล่วงหน้ามากเกินไป
- การคืนเงินภาษีผ่านพร้อมเพย์ 2567 ใช้เวลาประมาณ 7-10 วันทำการ แล้วแต่กรณี
เมื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91) ของปี 2567 เรียบร้อยแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า ต้องจ่ายภาษีเพิ่มหรือมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนจากกรมสรรพากรหรือไม่ หากยื่นขอคืนจะทำอย่างไรได้บ้าง มีขั้นตอนยุ่งยากหรือไม่ แต่การยื่นขอคืนภาษีไม่ได้ยากอย่างที่คิด บทความนี้จะมาคลายทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการคืนภาษีในปี 2567 พร้อมทำความเข้าใจว่าเงินคืนภาษีคืออะไร และมีวิธีการคำนวณอย่างไร รวมถึงสามารถนำเงินคืนภาษีไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรได้บ้าง
เงินคืนภาษี 2567 คืออะไร มีที่มาจากไหน?
เงินคืนภาษี คือเงินที่ผู้เสียภาษีมีสิทธิ์ได้รับคืนจากกรมสรรพากร โดยผู้เสียภาษีจะได้รับเงินคืนก็ต่อเมื่อมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย มากกว่าภาษีที่ต้องจ่ายจริง หรือการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีทั้งสิทธิส่วนตัวหรือครอบครัวก็สามารถนำมาคำนวณเพื่อลดหย่อนภาษีได้
โดยเงินคืนภาษี ปี 2567 มีที่มาจาก 2 แหล่ง คือ
- เงินหักภาษี ณ ที่จ่ายเกิน คือจำนวนเงินภาษีที่ถูกหักจากรายได้ระหว่างปีมากกว่าจำนวนเงินภาษีที่ต้องจ่ายจริง เช่น พนักงานบริษัทหรือฟรีแลนซ์ ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% หรือ 5% ทุกเดือน ตลอดเวลาที่ได้เงินเดือนหรือได้รับค่าจ้าง
- ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี คือการนำค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกำหนด เช่น ค่าลดหย่อนบุตร ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร เบี้ยประกันชีวิต รวมถึงการบริจาคให้กับโรงพยาบาลรัฐก็สามารถนำสิทธิ์เหล่านี้ไปหักออกจากเงินเดือนหรือรายได้ก่อนคำนวณภาษี เพื่อให้จ่ายภาษีลดลงและหากถูกหักภาษีไว้เกินก็อาจได้รับเงินคืนภาษี
เอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นขอเงินคืนภาษี
การยื่นขอเงินคืนภาษีควรเตรียมเอกสารให้ครบ ได้แก่
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เสียภาษี
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรกที่มีชื่อและเลขบัญชีธนาคาร
- หนังสือรับรองเงินเดือนและการหักภาษี (ใบ 50 ทวิ)
- แบบ ภ.ง.ด.90 และแบบ ภ.ง.ด.91
- หลักฐานลดหย่อนภาษี (ถ้ามี) เช่น เอกสารลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ หนังสือรับรองการซื้อกองทุน ใบเสร็จ Easy E-Receipt และหลักฐานการบริจาคให้กับโรงพยาบาล
ขั้นตอนในการยื่นขอเงินคืนภาษี
เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็เป็นวิธีการยื่นภาษีออนไลน์ที่สามารถทำตามขั้นตอนต่างๆ ได้ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://efiling.rd.go.th/rd-cms
- เลือกเมนู ยื่นภาษีออนไลน์
- เข้าสู่ระบบด้วย Digital ID หรือ Digital ID
- เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการยื่นภาษี ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 และภ.ง.ด.91
- เลือกใช้ข้อมูลที่สรรพากรได้รับหรือกรอกข้อมูลด้วยตนเอง
- กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียภาษี ข้อมูลเงินเดือนหรือรายได้ และค่าลดหย่อนภาษี (ถ้ามี) จากนั้นระบบจะคำนวณภาษีให้อัตโนมัติ
- เมื่อยื่นแบบภาษีเสร็จเรียบร้อย ระบบจะถามว่า ต้องการขอคืนเงินภาษีที่ชำระเกินไว้หรือไม่? หากต้องการขอคืนให้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน หรือเลขบัญชีธนาคาร
- กดยืนยันข้อมูลเพื่อชำระภาษี และสามารถติดตามสถานะขอคืนหรือนำส่งเอกสาร เพื่อความสะดวกรวดเร็วในยื่นขอเงินคืน
ขอคืนเงินภาษี ใช้เวลานานแค่ไหน?
โดยปกติระยะเวลาการขอคืนภาษีจะได้รับภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สามารถแบ่งได้ตามแต่ละกรณี ดังนี้
คืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เงื่อนไขการคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 หากยื่นแบบภาษีภายในเวลาที่กำหนดและเอกสารครบถ้วนถูกต้อง ก็จะได้รับเงินภาษีคืนภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ยื่นแบบภาษี แต่หากยื่นแบบภาษีช้า หรือเลยกำหนดเวลาที่กำหนดทำให้มีระยะคืนภาษีที่นานกว่าปกติและอาจทำให้เสียค่าปรับได้
คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ส่วนเงื่อนไขการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT Refund สำหรับชาวต่างชาติ คือนักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VAT Refund for Tourists โดยต้องมียอดซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 2,000 บาท จากนั้นขอใบขอคืนภาษี ภ.พ.10 และใบเสร็จรับเงินต้นฉบับไปแสดงให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินเพื่อประทับตราใบขอคืนภาษี และนักท่องเที่ยวสามารถไปที่เคาน์เตอร์คืนภาษีเพื่อขอคืนภาษีได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ
คืนภาษีประเภทอื่น
การคืนภาษีประเภทอื่นๆ ก็สามารถขอคืนได้ เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีจากการลงทุนในธุรกิจ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะมีเงื่อนไขและระยะเวลาที่ต่างกันไปตามกฎหมายกำหนด
คืนเงินภาษีผ่านพร้อมเพย์กี่วันถึงได้?
เมื่อยื่นคืนเงินภาษีผ่านพร้อมเพย์กี่วันถึงจะได้รับเงินคืน คำตอบคือเมื่อกรมสรรพากรตรวจสอบ อนุมัติคำขอคืนภาษีแล้ว และผ่านเกณฑ์การยื่นขอเงินคืนภาษี จะได้รับเงินผ่านพร้อมเพย์ภายใน 7-10 วันทำการ
วิธีเช็กว่าได้เงินภาษีคืนเท่าไร ทำอย่างไร
สำหรับวิธีเช็กสถานะการคืนเงินภาษีในแต่ละครั้งว่าได้เงินภาษีคืนเท่าไรและเช็กอย่างไร ทำได้โดยการตรวจสอบผ่านช่องทางออนไลน์ของกรมสรรพากร ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://efiling.rd.go.th/rd-cms
- เลือกเมนู ตรวจสอบสถานะการคืนภาษี
- กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลข 13 หลัก) และข้อมูลอื่นๆ
- คลิกปุ่ม ตรวจสอบ เพื่อดูรายละเอียดการคืนภาษี เช่น วันที่กรมสรรพากรอนุมัติการคืนภาษี และสถานะต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- หากครบกำหนดคืนภาษี แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน สามารถติดต่อกรมสรรพากรเพื่อสอบถามสถานะการยื่นแบบภาษี
สรุป
เมื่อยื่นชำระแบบภาษีตามกฎหมายแล้ว อย่าลืมที่จะยื่นขอคืนภาษีปี 2567 ด้วย เพราะการขอคืนภาษีก็เป็นสิทธิประโยชน์สำคัญที่ช่วยให้ผู้เสียภาษีได้รับเงินคืนจากการชำระภาษีที่เกิน ในส่วนของการยื่นขอภาษีควรเตรียมเอกสารจำเป็นให้พร้อม
เช่น ใบ 50 ทวิ ใบเสร็จรับเงินต่างๆ ที่ใช้ในการลดหย่อนภาษี และเอกสารสำคัญอื่นๆ เพื่อป้องกันข้อมูลตกหล่น ซึ่งการยื่นภาษีสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ทำให้ยื่นภาษีจากที่บ้านได้สะดวกและยื่นทันภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งช่วยให้ได้รับเงินภาษีคืนรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าปรับหรือดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากการยื่นแบบภาษีเกินระยะเวลาที่กำหนด
หากกำลังมองหาโอกาสและความก้าวหน้าทางอาชีพ สามารถสมัครงานที่ใช่ผ่าน Jobsdb ด้วยฟีเจอร์หางาน ที่ช่วยค้นหางานได้รวดเร็ว ให้คุณเลือกตำแหน่งงานในฝันเพื่อให้เหมาะกับทักษะของคุณ ทำเลที่ตั้งที่คุณเดินทางได้สะดวก และเงินเดือนในแบบที่คุณต้องการ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคืนภาษี 2567 (FAQ)
ดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเงินคืนภาษีกัน
ตรวจสอบสถานะคืนภาษี 2567 อย่างไร
สามารถตรวจสอบสถานะคืนภาษี 2567 ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรได้ที่ https://efiling.rd.go.th/rd-cms
ส่งเอกสารช้า มีผลต่อการขอคืนภาษีไหม
การส่งเอกสารช้ามีผลต่อการขอคืนภาษี เพราะทำให้เจ้าที่ต้องตรวจสอบและขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ยื่นภาษี
ถ้าได้รับเงินคืนภาษีน้อยกว่าที่ขอไว้ ทำอย่างไร
เมื่อได้รับหนังสือแจ้งคืนเงิน ค.21 หากไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาคืนเงินภาษี ให้ยื่นคำร้องยื่นคำร้องขอแก้ไขต่อเจ้าหน้าที่ผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่นั้นภายใน 15 วันนับแต่วันที่รับหนังสือ
รู้ได้อย่างไรว่ากรมสรรพกรต้องการเอกสารเพื่อตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจะติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล หรือ SMS เพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม แต่หากไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบสถานะเอกสารได้ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร