ในแต่ละสายอาชีพมักมีการวัดผลหรือคัดเลือกบุคคลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในหลายๆ อาชีพก็ต้องการความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่ดี โดยต้องมีคะแนนการวัดผลการสอบมาประกอบในการยื่นสมัครงาน หนึ่งในการสอบที่ได้มาตรฐานและได้รับความนิยมจากบริษัทชั้นนำ ก็คือคะแนน TOEIC นั่นเอง บทความนี้เลยจะพาไปรู้จักกับเรื่องราว TOEIC ให้มากขึ้น พร้อมทั้งชี้เป้าสายอาชีพที่ต้องใช้คะแนน TOEIC
TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication คือการสอบวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษ เพื่อใช้การสมัครงาน ซึ่งแนวทางการทดสอบนั้นจะเน้นด้านการฟังและการอ่านเป็นหลัก ซึ่งในข้อสอบก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Listening และ Reading โดยทั้ง 2 ส่วน จะมีข้อสอบทั้งหมด 100 ข้อ 495 คะแนน รวมทั้ง 2 ส่วนก็จะเป็น 990 คะแนน
- การดูรูป ฟังตัวเลือก และตอบคำถาม
- คำถาม คำตอบแบบสั้นๆ ที่ใช้การสนทนา
- เน้นบทสนทนาที่ยาวขึ้น
- บทสนทนาหลักที่ใช้เพื่อยพูดคุยและตอบคำถาม
- ทดสอบด้านแกรมมา
- ทดสอบการด้านใช้รูปประโยคต่างๆ
- การอ่านเพื่อทำความเข้าใจ
สำหรับพาร์ท Listening ถือเป็นส่วนที่ไม่ยากมากนัก ก่อนทำการสอบอาจลองฟังเพลง ดูหนัง หรือฟังข่าวภาษาอังกฤษ รวมไปถึงการลองหาโอกาสพูดคุยกับชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความคุ้นชินในด้านฟังสำเนียงต่างๆ ให้มากขึ้น
ส่วนพาร์ท Reading ถือเป็นส่วนที่จริงจังขึ้นมาพอสมควร โดยก่อนสอบควรหัดทำความเข้าใจศัพท์ภาษาอังกฤษต่างๆ การใช้สำนวน และความเชื่อมโยงของประโยคหรือเหตุการณ์ต่างๆ
การยื่นคะแนน TOEIC เพื่อใช้ในการสมัครงานนั้น จริงๆ แล้วถือว่าเหมาะกับทั้งเด็กจบใหม่และผู้ที่เคยทำงานมาแล้ว รวมไปถึงผู้ที่ต้องการอัปเงินเดือน เนื่องจากในบางตำแหน่งที่ต้องมีการใช้คะแนน TOEIC ยื่น เมื่อถึงเวลาที่ผ่านคัดเลือกเข้ามาทำงาน ก็อาจจะมีการให้ค่าภาษาเพิ่มเติมได้ แล้วแต่ตำแหน่งที่สมัครและการตกลงกันระหว่างคุณกับบริษัทนั้นๆ
ในบางตำแหน่งอาจไม่ได้ระบุไว้ว่าต้องการคะแนน TOEIC ในการคัดเลือกเข้าทำงาน แต่หากคุณมีคะแนน TOEIC ติดตัวไว้ ก็สามารถยื่นประกอบการสมัครเพิ่มเติมได้เช่นกัน ก็จะช่วยทำให้คุณได้เปรียบเหนือคู่แข่งคนอื่นๆ นั่นเอง
ในปัจจจุบันนี้ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาหลักที่ใช้ในการสื่อสาร แถมหลายๆ บริษัทก็เริ่มมีพนักงานต่างชาติเข้ามาทำงานด้วย เพราะฉะนั้นแล้วบริษัทส่วนใหญ่จึงอยากได้พนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มาร่วมงาน ยิ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องภาษาอังกฤษแล้วด้วย บริษัทนั้นๆ ก็มักจะใช้คะแนนเกณฑ์ TOEIC เป็นเกณฑ์การตัดสินนี่แหละ เพราะคะแนน TOEIC ถือเป็นข้อสอบระดับมาตรฐานที่บริษัทต่างๆ ทั่วโลกให้การยอมรับ
โดยเราได้ลิสต์รายชื่อตัวอย่างอาชีพต่างๆ ที่ต้องใช้คะแนน TOEIC มาให้ดูกัน โดยเรียงตามลำดับคะแนนคร่าวๆ ดังนี้
- งานวิศวกรฝ่ายขาย
- งานบริการด้านเทคนิค
- สถาปนิก
- ฝ่ายบัญชี
- ฝ่ายสรรหาและคัดสรรบุคลากร
- ฝ่ายการตลาด
- ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์
- งานโรงแรม
- แผนกอาหารและเครื่องดื่ม
- งานด้านการท่องเที่ยว
- ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
- เลขานุการ
- ฝ่ายนำเข้า-ส่งออกระหว่างประเทศ
- งานด้านสายการบิน
- พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
- ธุรกิจระหว่างประเทศ
- การประสานงานระหว่างประเทศ
โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะสมัครในตำแหน่งใดๆ ก็ตาม ควรมีคะแนน TOEIC ติดตัวไว้ เพื่อเป็นหลักฐานในการแสดงความสามารถด้านภาษาอังกฤษของตัวคุณ โดยเรายังมีเรื่องอื่นๆ ที่ควรรู้เกี่ยวกับคะแนน TOEIC มาฝากกันเพิ่มเติมอีกด้วย
- เกณฑ์ของคะแนน TOEIC ที่ดี คือเริ่มต้นตั้งแต่ 550 คะแนนขึ้นไป
- หากทำคะแนนได้มากกว่า 750 คะแนน จะยิ่งเป็นสนใจมากขึ้น
- ผลสอบ TOEIC สามารถใช้ได้ 2 ปี นับจากวันสอบ
- หลายบริษัทไม่ได้กำหนดคะแนน TOEIC ที่ต้องการไว้ชัดเจน แต่จะกำหนดไว้คร่าวๆ ว่าต้องผู้ที่ความสามารถภาษาอังกฤษที่ดี
- บางบริษัทจะใช้คะแนน TOEIC เป็นแค่ด่านแรก แต่จะการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษอีกขั้น
การใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นมีการคะแนน TOEIC ติดตัวไว้จึงถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าความสามารถด้านภาษาอังกฤษของคุณไม่เป็นสองรองใคร ส่วนใครที่กลัวว่าภาษาอังกฤษจะเป็นเรื่องยาก เราบอกเลยว่าอย่าเพิ่งกลัวจนเกินไป หากฝึกฝนบ่อยๆ รับรองว่าต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
ส่วนใครที่กำลังมองหางานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ หรืองานที่ต้องใช้คะแนน TOEIC รวมไปถึงงานอื่นๆ ทุกสายงาน ที่ JobsDB พร้อมเสิร์ฟงานคุณภาพจากบริษัทชั้นนำให้คุณได้เลือกสมัครกันเพียบ! ให้บริการแล้ววันนี้ทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน