Key Takeaway
เหล่านักการตลาดหรือคนที่กำลังเรียนการตลาดคงคุ้นเคยกับศัพท์การตลาด อย่างคำว่า 5W1H ซึ่งเป็นเทคนิคทางการตลาดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงใช้ได้เสมอ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของวิชาการตลาดเลยก็ว่าได้ มาหาคำตอบกันว่า 5W1H คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่างการวิเคราะห์ ได้ในบทความนี้
เทคนิคการวิเคราะห์ 5W1H หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Kipling Method’ ตามบทกวีของ Rudyard Kipling และเขาได้อธิบายแนวคิดนี้ไว้ในปี 1902
“I keep six honest serving-men
(They taught me all I knew);
Their names are What and Why and When
And How and Where and Who”
เทคนิค 5W1H คือวิธีการแก้ปัญหาและตั้งคำถามที่ครอบคลุมองค์ประกอบพื้นฐานของปัญหาทั้งหมด ซึ่งจะประกอบไปด้วย อะไร (What) ใคร (Who) เมื่อไร (When) ที่ไหน (Where) ทำไม (Why) และอย่างไร (How) วิธีการนี้มีจุดประสงค์เพื่อสำรวจแนวคิดและไอเดียจากหลากหลายมุมมอง ช่วยให้เข้าใจปัญหาในสถานการณ์นั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง โดยทั่วไป 5W1H ถูกนำมาใช้เป็นเทคนิคในการปรับปรุงองค์กรเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั่นเอง
ต่อไปมาทำความเข้าใจองค์ประกอบของหลัก 5W1H กันอย่างละเอียดดีกว่า โดยแต่ละองค์ประกอบจะมีอะไรและสำคัญอย่างไรบ้าง ไปดูกัน!
คำถาม ‘อะไร?’ (What?) ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในหลัก 5W1H โดยมีจุดประสงค์เพื่อระบุและอธิบายประเด็นหลักของสถานการณ์ ปัญหา หรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ คำถามนี้จะช่วยวางรากฐานสำหรับการวิเคราะห์ต่อไป โดยกำหนดทิศทางและขอบเขตของการสืบค้น ช่วยให้เราเข้าใจว่าเรากำลังเผชิญกับอะไร และควรจะเริ่มต้นแก้ไขจากจุดไหน
คำถาม ‘ใคร?’ (Who?) ในหลักการ 5W1H มุ่งเน้นไปที่การระบุบุคคล กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา ซึ่งรวมถึงผู้ที่ประสบปัญหา ผู้ที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหา และผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไข การเข้าใจว่า ‘ใคร’ เกี่ยวข้องบ้างนั้น สำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความรับผิดชอบและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรอบคอบ
คำถาม ‘ที่ไหน?’ (Where?) ในวิธีการ 5W1H มีจุดประสงค์เพื่อระบุตำแหน่ง สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา ซึ่งอาจหมายถึงสถานที่ทางกายภาพ แพลตฟอร์มต่างๆ หรือแม้แต่แผนกเฉพาะภายในองค์กร การระบุสถานที่อาจส่งผลต่อการวิเคราะห์และการแก้ปัญหาในอนาคต แม้ว่าไม่ได้มีความสำคัญในทุกกรณีแต่ยังคงเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาเสมอเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน
คำถาม ‘เมื่อไร?’ (When?) ในหลักการ 5W1H จะเน้นที่มิติของเวลาในสถานการณ์หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา โดยครอบคลุมถึงช่วงเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้น กำลังเกิดขึ้น หรือคาดว่าจะเกิดขึ้น การทำความเข้าใจกรอบเวลานี้มีความสำคัญในหลายด้าน เช่น ช่วยในการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว การระบุรูปแบบที่เกิดซ้ำ และการป้องกันปัญหาในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดลำดับความสำคัญและกำหนดความเร่งด่วนของการแก้ปัญหาได้
คำถาม ‘ทำไม?’ (Why?) ในวิธีการ 5W1H มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาเหตุผลเบื้องลึกของสถานการณ์หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา โดยเน้นที่การเข้าใจสาเหตุของปัญหาหรือแรงจูงใจที่ซ่อนอยู่เบื้่องหลัง การตอบคำถามนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการระบุผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากไม่แก้ไขปัญหานั้นอีกด้วย
คำถาม ‘อย่างไร?’ (How?) ในหลักการ 5W1H มุ่งเน้นที่กระบวนการและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา คำถามนี้ช่วยในการสำรวจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือจะใช้วิธีการใดในการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ การถาม ‘อย่างไร’ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการคิดและการถกเถียงเกี่ยวกับวิธีการและกลยุทธ์ต่างๆ ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการนำไปปฏิบัติหรือแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้พิจารณามุมมองที่หลากหลายและสำรวจแนวทางที่เป็นไปได้ต่างๆ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย
วิธีการแก้ปัญหาด้วย 5W1H มีข้อดีหลายประการ ซึ่งทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา ดังนี้
มาดูตัวอย่างคำถาม เพื่อทำความเข้าใจหลัก 5W1H กันอีกเพิ่มเติม ดังนี้
การนำวิธี 5W1H มาปรับใช้ภายในองค์กร ช่วยเรื่องการสื่อสารและมอบหมายงาน ดังนี้
หลักการเทคนิค 5W1H เป็นวิธีการแก้ปัญหาและการตั้งคำถามที่ครอบคลุมองค์ประกอบของปัญหาทั้งหมด โดยมีองค์ประกอบคำถามที่สำคัญ ได้แก่ อะไร (What) ใคร (Who) เมื่อไร (When) ที่ไหน (Where) ทำไม (Why) และอย่างไร (How) ซึ่งวิธีการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจแนวคิดจากหลากหลายมุมมอง ช่วยให้เข้าใจปัญหาในสถานการณ์นั้นๆ ได้อย่างดี
การนำหลัก 5W1H มาปรับใช้ภายในองค์กรช่วยเพิ่มความชัดเจนในการสื่อสาร ประหยัดเวลา ลดความสับสน และข้อผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยังลดความกังวลของพนักงานได้ดีเลย
หากคุณกำลังตามหาองค์กรที่ช่วยให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพ ให้ Jobsdb เป็นตัวช่วย ด้วยฟีเจอร์เด่นที่จะช่วยให้หางานได้ตามพื้นที่ที่ต้องการ ตำแหน่งงานที่ชอบ และเงินเดือนที่ใช่ ใช้งานง่าย แค่ไม่กี่คลิก!