กลยุทธ์ 5W1H กับการนำมาประยุกต์ใช้ทางการตลาด เพื่อพัฒนาองค์กร

กลยุทธ์ 5W1H กับการนำมาประยุกต์ใช้ทางการตลาด เพื่อพัฒนาองค์กร
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 29 October, 2024
Share

Key Takeaway

  • หลักการ 5W1H คือวิธีการแก้ปัญหาและการตั้งคำถามที่ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของปัญหา มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจแนวคิดจากมุมมองที่หลากหลาย ช่วยให้เข้าใจสถานการณ์และปัญหาได้ดี 
  • มีองค์ประกอบคำถามที่สำคัญ ได้แก่ อะไร (What) ใคร (Who) เมื่อไร (When) ที่ไหน (Where) ทำไม (Why) และอย่างไร (How) 
  • หลัก 5W1H ใช้งานได้ง่าย มีความอเนกประสงค์ และสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ
  • การนำหลัก 5W1H มาปรับใช้ภายในองค์กร ช่วยให้เพิ่มความชัดเจนในการสื่อสาร ช่วยประหยัดเวลา ลดความสับสน และข้อผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สะดวกในการติดตามผล และยังลดตึงเครียดของพนักงานได้ดีเลย 

เหล่านักการตลาดหรือคนที่กำลังเรียนการตลาดคงคุ้นเคยกับศัพท์การตลาด อย่างคำว่า 5W1H ซึ่งเป็นเทคนิคทางการตลาดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงใช้ได้เสมอ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของวิชาการตลาดเลยก็ว่าได้ มาหาคำตอบกันว่า 5W1H คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่างการวิเคราะห์ ได้ในบทความนี้ 

รู้จัก 5W1H คืออะไร

รู้จัก 5W1H คืออะไร

เทคนิคการวิเคราะห์ 5W1H หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Kipling Method’ ตามบทกวีของ Rudyard Kipling และเขาได้อธิบายแนวคิดนี้ไว้ในปี 1902 

“I keep six honest serving-men

(They taught me all I knew);

Their names are What and Why and When

And How and Where and Who”

เทคนิค 5W1H คือวิธีการแก้ปัญหาและตั้งคำถามที่ครอบคลุมองค์ประกอบพื้นฐานของปัญหาทั้งหมด ซึ่งจะประกอบไปด้วย อะไร (What) ใคร (Who) เมื่อไร (When) ที่ไหน (Where) ทำไม (Why) และอย่างไร (How) วิธีการนี้มีจุดประสงค์เพื่อสำรวจแนวคิดและไอเดียจากหลากหลายมุมมอง ช่วยให้เข้าใจปัญหาในสถานการณ์นั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง โดยทั่วไป 5W1H ถูกนำมาใช้เป็นเทคนิคในการปรับปรุงองค์กรเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั่นเอง

5W1H มีองค์ประกอบอะไรบ้าง

5W1H มีองค์ประกอบอะไรบ้าง

ต่อไปมาทำความเข้าใจองค์ประกอบของหลัก 5W1H กันอย่างละเอียดดีกว่า โดยแต่ละองค์ประกอบจะมีอะไรและสำคัญอย่างไรบ้าง ไปดูกัน!

1. What — อะไร

คำถาม ‘อะไร?’ (What?) ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในหลัก 5W1H โดยมีจุดประสงค์เพื่อระบุและอธิบายประเด็นหลักของสถานการณ์ ปัญหา หรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ คำถามนี้จะช่วยวางรากฐานสำหรับการวิเคราะห์ต่อไป โดยกำหนดทิศทางและขอบเขตของการสืบค้น ช่วยให้เราเข้าใจว่าเรากำลังเผชิญกับอะไร และควรจะเริ่มต้นแก้ไขจากจุดไหน

2. Who — ใคร

คำถาม ‘ใคร?’ (Who?) ในหลักการ 5W1H มุ่งเน้นไปที่การระบุบุคคล กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา ซึ่งรวมถึงผู้ที่ประสบปัญหา ผู้ที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหา และผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไข การเข้าใจว่า ‘ใคร’ เกี่ยวข้องบ้างนั้น สำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความรับผิดชอบและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรอบคอบ 

3. Where — ที่ไหน

คำถาม ‘ที่ไหน?’ (Where?) ในวิธีการ 5W1H มีจุดประสงค์เพื่อระบุตำแหน่ง สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา ซึ่งอาจหมายถึงสถานที่ทางกายภาพ แพลตฟอร์มต่างๆ หรือแม้แต่แผนกเฉพาะภายในองค์กร การระบุสถานที่อาจส่งผลต่อการวิเคราะห์และการแก้ปัญหาในอนาคต แม้ว่าไม่ได้มีความสำคัญในทุกกรณีแต่ยังคงเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาเสมอเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน 

4. When — เมื่อไร

คำถาม ‘เมื่อไร?’ (When?) ในหลักการ 5W1H จะเน้นที่มิติของเวลาในสถานการณ์หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา โดยครอบคลุมถึงช่วงเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้น กำลังเกิดขึ้น หรือคาดว่าจะเกิดขึ้น การทำความเข้าใจกรอบเวลานี้มีความสำคัญในหลายด้าน เช่น ช่วยในการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว การระบุรูปแบบที่เกิดซ้ำ และการป้องกันปัญหาในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดลำดับความสำคัญและกำหนดความเร่งด่วนของการแก้ปัญหาได้

5. Why — ทำไม

คำถาม ‘ทำไม?’ (Why?) ในวิธีการ 5W1H มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาเหตุผลเบื้องลึกของสถานการณ์หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา โดยเน้นที่การเข้าใจสาเหตุของปัญหาหรือแรงจูงใจที่ซ่อนอยู่เบื้่องหลัง การตอบคำถามนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการระบุผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากไม่แก้ไขปัญหานั้นอีกด้วย 

6. How — อย่างไร

คำถาม ‘อย่างไร?’ (How?) ในหลักการ 5W1H มุ่งเน้นที่กระบวนการและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ หรือปัญหาที่กำลังพิจารณา คำถามนี้ช่วยในการสำรวจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือจะใช้วิธีการใดในการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ การถาม ‘อย่างไร’ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการคิดและการถกเถียงเกี่ยวกับวิธีการและกลยุทธ์ต่างๆ ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการนำไปปฏิบัติหรือแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้พิจารณามุมมองที่หลากหลายและสำรวจแนวทางที่เป็นไปได้ต่างๆ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย

ข้อดีของการแก้ปัญหาด้วยกลยุทธ์ 5W1H

ข้อดีของการแก้ปัญหาด้วยกลยุทธ์ 5W1H

วิธีการแก้ปัญหาด้วย 5W1H มีข้อดีหลายประการ ซึ่งทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา ดังนี้

  • ง่ายต่อการนำมาใช้งาน: วิธีการนี้มีความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจและนำไปปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถใช้คำถามพื้นฐานที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายได้เลย
  • มีความอเนกประสงค์: 5W1H สามารถปรับใช้ได้กับปัญหาหลากหลายประเภทและในหลายบริบท เนื่องจากคำถามสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะได้เลย
  • ช่วยแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ: วิธีการนี้ส่งเสริมการวิเคราะห์ปัญหาอย่างรอบด้าน โดยคำถามแต่ละข้อช่วยให้ผู้ใช้พิจารณาปัญหาจากมุมมองที่ต่างกัน ทำให้ได้ภาพรวมที่ครอบคลุมและละเอียดของสถานการณ์

ตัวอย่างการนำ 5W1H มาใช้งานภายในองค์กร

ตัวอย่างการนำ 5W1H มาใช้งานภายในองค์กร

มาดูตัวอย่างคำถาม เพื่อทำความเข้าใจหลัก 5W1H กันอีกเพิ่มเติม ดังนี้

What (อะไร)

  • ตัวอย่างคำถามที่มักใช้ ได้แก่ 
  • ‘ปัญหาของลูกค้าคืออะไร?’ 
  • ‘ประเด็นหลักที่ต้องแก้ไขคืออะไร?’ 
  • ‘ผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร?’

Who (ใคร)

  • ตัวอย่างคำถามที่มักใช้ ได้แก่ 
  • ‘ใครคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย?’ 
  • ‘ใครเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ?’ 
  • ‘ใครจะได้รับผลกระทบจากปัญหา?’ 

Where (ที่ไหน)

  • ตัวอย่างคำถามที่มักใช้ ได้แก่ 
  • ‘ปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน?’ 
  • ‘ทรัพยากรหลักอยู่ที่ไหน?’ 
  • ‘ปัญหาส่งผลกระทบในพื้นที่ไหนบ้าง?’ 

When (เมื่อไร)

  • ตัวอย่างคำถามที่มักใช้ ได้แก่ 
  • ‘ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อไร?’ 
  • ‘กำหนดเวลาโครงการคือเมื่อไร?’ 
  • ‘สินค้าจะเปิดตัวเมื่อไร?’
  • ‘เราจะนัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาได้เมื่อไร?’ 

Why (ทำไม)

  • ตัวอย่างคำถามที่มักใช้ ได้แก่ 
  • ‘ทำไมปัญหาจึงเกิดขึ้น?’ 
  • ‘ทำไมเราจึงต้องทำโครงการนี้ให้สำเร็จ?’
  • ‘ทำไมผลิตภัณฑ์นี้จึงจำเป็นสำหรับบริษัทของเรา?’ 

How (อย่างไร)

  • ตัวอย่างคำถามที่มักใช้ ได้แก่ 
  • ‘ปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างไร?’ 
  • ‘เราจะบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ได้อย่างไร?’ 
  • ‘เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?’ 

ประโยชน์ของการนำหลัก 5W1H มาปรับใช้ภายในองค์กร

ประโยชน์ของการนำหลัก 5W1H มาปรับใช้ภายในองค์กร

การนำวิธี 5W1H มาปรับใช้ภายในองค์กร ช่วยเรื่องการสื่อสารและมอบหมายงาน ดังนี้

  • เพิ่มความชัดเจนในการสื่อสาร: 5W1H ช่วยให้คำสั่งงานมีความครบถ้วนและชัดเจน ลดความคลุมเครือ
  • ช่วยประหยัดเวลาไม่ให้สูญเปล่า: คำสั่งที่ชัดเจนช่วยลดเวลาที่พนักงานต้องใช้ในการทำความเข้าใจงานหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
  • ลดความสับสนและข้อผิดพลาด: ความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างผู้มอบหมายงานและผู้ปฏิบัติงาน ช่วยลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิดและความผิดพลาด
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ความเข้าใจที่ชัดเจน ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และรวดเร็วขึ้น
  • สะดวกในการติดตามผล: ข้อมูลที่ครบถ้วน โดยเฉพาะในส่วนของขั้นตอนการทำงาน (How) ช่วยให้การติดตามความคืบหน้าของงานทำได้ง่ายขึ้น
  • ลดความตึงเครียดของพนักงาน: คำสั่งที่ชัดเจนช่วยลดความลังเล และความกังวลของพนักงานเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นในการทำงาน และลดความเครียดที่อาจเกิดจากความไม่แน่ใจและความสับสนในการทำงานด้วย

สรุป

หลักการเทคนิค 5W1H เป็นวิธีการแก้ปัญหาและการตั้งคำถามที่ครอบคลุมองค์ประกอบของปัญหาทั้งหมด โดยมีองค์ประกอบคำถามที่สำคัญ ได้แก่ อะไร (What) ใคร (Who) เมื่อไร (When) ที่ไหน (Where) ทำไม (Why) และอย่างไร (How) ซึ่งวิธีการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจแนวคิดจากหลากหลายมุมมอง ช่วยให้เข้าใจปัญหาในสถานการณ์นั้นๆ ได้อย่างดี 

การนำหลัก 5W1H มาปรับใช้ภายในองค์กรช่วยเพิ่มความชัดเจนในการสื่อสาร ประหยัดเวลา ลดความสับสน และข้อผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยังลดความกังวลของพนักงานได้ดีเลย 

หากคุณกำลังตามหาองค์กรที่ช่วยให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพ ให้ Jobsdb เป็นตัวช่วย ด้วยฟีเจอร์เด่นที่จะช่วยให้หางานได้ตามพื้นที่ที่ต้องการ ตำแหน่งงานที่ชอบ และเงินเดือนที่ใช่ ใช้งานง่าย แค่ไม่กี่คลิก!

More from this category: การพัฒนาด้านอาชีพ

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา