Key Takeaway
เราคงปฎิเสธกันไม่ได้ว่าการเพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์การตลาด ถือเป็นช่องทางที่หลายธุรกิจเลือกใช้โปรโมตแบรนด์ของตัวเอง บทความนี้จะพามาเจาะลึก! กลยุทธ์การทำ Marketing ด้วยหลักการ CRM หรือ Customer Relationship Management ว่าคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อการพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จ
CRM (Customer Relationship Management) คือกระบวนการที่ธุรกิจใช้ในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยมุ่งเน้นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว แนวคิด CRM ครอบคลุมทั้งกลยุทธ์ เทคนิค และเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายในการดูแลลูกค้า และรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน
ในปัจจุบัน เมื่อกล่าวถึง CRM มักจะหมายถึงซอฟต์แวร์ CRM โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการจัดการงานขายและการดูแลลูกค้า ซอฟต์แวร์ CRM มีหลากหลายประเภทตามความต้องการใช้งาน เช่น ด้านการขาย การจัดการบัตรสมาชิก หรือการบริการลูกค้า
แม้ว่า CRM จะกลายเป็นคำที่มีความหมายกว้างขวางแต่จุดประสงค์หลักของซอฟต์แวร์ CRM ทุกประเภท ยังคงมุ่งเน้นการตอบสนองพฤติกรรมลูกค้า ความต้องการด้านการดูแล และจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นสำคัญ
CRM คือกระบวนการที่สามารถใช้ได้ทั้งกับธุรกิจแบบ B2B และ B2C ซึ่งทั้งสองมีความแตกต่างกันในหลายด้าน สะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละรูปแบบธุรกิจ ดังนี้
สำหรับงานขาย การตลาดแบบ CRM Marketing คือการตลาดที่มีความเหมาะสมกับธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม เนื่องจากทุกธุรกิจต้องพึ่งพาทีมขายในการติดต่อลูกค้าแต่ถ้าจะระบุเฉพาะเจาะจง สามารถแบ่งกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้ CRM ได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
ธุรกิจ B2B (Business to Business) มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้ CRM มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีกระบวนการขายที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน ต้นทุนในการหาลูกค้าสูง รวมถึงมูลค่าของแต่ละดีลมีความสำคัญมาก พนักงานขายต้องติดตามและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดตลอดขั้นตอนการขาย ตั้งแต่การเริ่มต้นไปจนถึงการปิดการขาย การเก็บเงิน และการให้บริการหลังการขาย ซึ่ง CRM คือตัวช่วยให้สามารถจัดการกระบวนการทั้งหมดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจ B2C (Business to Customer) คือการเน้นขายสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูง ถึงแม้จะเป็นธุรกิจแบบ B2C แต่บางประเภทก็มีลักษณะคล้ายกับ B2B ในแง่ของความซับซ้อนและมูลค่าของการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น ธุรกิจอัญมณี อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ หรือบริการที่มีมูลค่าสูง อย่างงานออกแบบและที่ปรึกษาโครงการ โดยธุรกิจเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ CRM เพื่อติดตามดูแลลูกค้าแต่ละรายอย่างใกล้ชิด ให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด เพื่อนำไปสู่การปิดการขายได้สำเร็จนั่นเอง
CRM มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร ไปดูกัน!
การรักษาฐานลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จระยะยาวของธุรกิจ แม้ว่าทีมขายจะปิดยอดขายได้สูงแต่หากไม่สามารถทำตามความคาดหวังของลูกค้า และรักษาความพึงพอใจของลูกค้าไว้ได้ ก็อาจเสียลูกค้าไปในที่สุด ปัญหานี้มักเกิดจากการขาดการติดตามและดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องหลังการขาย ซึ่งส่งผลให้ความพึงพอใจของลูกค้าลดลงเรื่อยๆ
การนำระบบ CRM มาใช้คือการช่วยให้แก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยให้ทีมขายและทีมบริการลูกค้า สามารถติดตามและจัดการทุกเคสของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น เมื่อลูกค้ามีความพึงพอใจสูง โอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคู่แข่งก็จะลดลง
ระบบ CRM คือระบบที่ช่วยจัดระเบียบข้อมูลของลูกค้า ให้ทุกคนในองค์กรเข้าถึงและใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างสะดวก ระบบยังช่วยติดตามไทม์ไลน์การติดต่อและการ Follow Up ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ CRM ยังช่วยให้ข้อมูลลูกค้าไม่ผูกติดกับพนักงานขายคนใดคนหนึ่ง แต่อยู่ในฐานข้อมูลกลางของบริษัท ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลเมื่อพนักงานลาออกด้วย
CRM ช่วยให้ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าได้อย่างเป็นระบบ ทั้งข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลการติดต่อ ด้วยข้อมูลเหล่านี้จึงสามารถทำการออกแบบแคมเปญการตลาดเฉพาะบุคคลได้ง่ายมากขึ้น เนื่องด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติของระบบ จึงช่วยให้งานที่ต้องทำการตลาดเจาะกลุ่มเฉพาะลูกค้า ที่ต้องใช้เวลานานๆ สำเร็จได้เร็วมากขึ้น
ประโยชน์สำคัญที่ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ระบบ CRM คือการช่วยประหยัดเวลา ทั้งในแง่การค้นหาข้อมูล การต่อยอดงาน และการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น จากการมีข้อมูลที่ครบถ้วน การจัดทำรายงานก็ทำได้โดยไม่ต้องรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง ส่งผลให้มีเวลาในการดูแลลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการบริการลูกค้าที่ดีขึ้นโดยรวม
การใช้ CRM จึงไม่เพียงแต่ช่วยในการจัดการข้อมูล แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการปรับปรุงคุณภาพการบริการและความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว
CRM มีส่วนช่วยจัดการรายงานการขาย เนื่องจากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบครัน จึงทำให้สามารถเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา และที่สำคัญข้อมูลมักจะอัปเดตอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทำให้บริหารจัดการดีลสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถเห็นภาพรวมขั้นตอนการขายได้ชัดเจน
ต่อไปมาดู 5 ขั้นตอนที่สำคัญในการทำ CRM ให้มีประสิทธิภาพกัน!
เพื่อให้เครื่องมือ CRM ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แบรนด์หรือองค์กร ควรสร้างฐานข้อมูลของลูกค้าให้ครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพรวมขั้นตอนการติดต่อของลูกค้าในทุกมิติ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในแผนกไหนก็ต้องใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างง่ายดาย กล่าวคือไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ หรือฝ่ายการตลาด หากสามารถรวมข้อมูลของลูกค้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้ จะช่วยให้ขั้นตอนการทำงานต่อไปสะดวกขึ้น และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
ในปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำการตลาดออนไลน์ไม่เพียงแต่ต้องทำให้แบรนด์รู้ใจลูกค้าเท่านั้น แต่ยังต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้การเลือกใช้เครื่องมือ CRM ที่มีระบบ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและคาดการณ์ต่างๆ ได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ AI จะช่วยลดภาระงานและทำให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
หากแบรนด์เลือกใช้เครื่องมือที่มีเทคโนโลยี AI หรือ Big Data การคาดการณ์กลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นลูกค้าจะง่ายขึ้นอย่างมาก โดยสามารถเริ่มต้นด้วยการทำ Audience Segmentation หรือการแบ่งกลุ่มลูกค้า เพื่อที่จะสามารถทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นการสื่อสารและโต้ตอบกับลูกค้าผ่านข้อมูลเชิงลึกที่ได้เก็บรวบรวมมาในขั้นแรก เพราะในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าต้องการบริการที่เฉพาะบุคคลมากขึ้น รวมทั้งยังมีความคาดหวังให้แบรนด์นำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ
ถือเป็นความท้าทายที่แบรนด์ในยุคนี้ต้องเผชิญ นอกจากการแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆ แล้ว แบรนด์ยังต้องพยายามชนะใจลูกค้าอีกด้วย อย่างไรก็ตามควรระวังไม่ให้การสื่อสารกลายเป็นการรบกวนลูกค้า เพราะอาจส่งผลให้ยอดขายลดลง และเกิดความคิดเห็นเชิงลบมากขึ้นแทน
เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าให้ดีมากยิ่งขึ้น การตรวจสอบ และประเมินผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากโลกในปัจจุบันถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ทำให้ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นแบรนด์หรือองค์กร ควรหมั่นติดตามความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อประเมินผลและปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของแบรนด์พร้อมที่จะแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ในอนาคต
CRM คือกระบวนการที่ธุรกิจใช้ในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า เน้นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว เพื่อบรรลุเป้าหมายในการดูแลและรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน มีประโยชน์ต่อธุรกิจ เช่น ช่วยให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ จัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ สร้างแคมเปญการตลาดที่เหมาะสม ประหยัดเวลาการทำงาน และจัดการรายงานการขาย
ใครรักงานการตลาดและชอบแนวคิดการทำการตลาดแบบ CRM มาหางานได้ที่ Jobsdb เว็บไซต์หางาน ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์หางานได้ตามทำเลที่ต้องการ ตำแหน่งที่อยากทำ และเงินเดือนที่ถูกใจ เป็นเว็บไซต์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวก ให้ทุกขั้นตอนการหางานรวดเร็วมากยิ่งขึ้น