คำถามคือทำไมคุณต้องเรียนรู้ ทฤษฎีเหล่านี้ คำตอบก็คือทฤษฎีบริหารนี้จะทำให้คุณรู้จักลูกน้องหรือบุคลากรในหน่วยงานที่ คุณต้องรับผิดชอบในแต่ละกลุ่ม ซึ่งช่วยให้คุณเกิดความเข้าใจและรู้จักบริหารคนที่แตกต่างกันไป รวมทั้งการปรับเปลี่ยนทัศนนคติของคนในทีม ผู้บังคับบัญชาจะไม่ควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเข้มงวด แต่จะส่งเสริมให้รู้จักควบคุมตนเองมากขึ้น วิธีการบริหารตามแนวนี้ จะเป็นการรวบรวมบุคคลและเป้าหมายโครงการเข้าไว้ด้วยกัน การจูงใจต้องใช้วิธีการจูงใจในระดับสูง
1. ทฤษฎีX(The Traditioal View of Direction and Control) ทษฤฎีนี้เกิดข้อสมติฐานที่ว่า
- คนไม่อยากทำงาน และหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ
- คนไม่ทะเยอทะยาน และไม่คิดริเริ่ม ชอบให้การสั่ง
- คนเห็นแก่ตนเองมากว่าองค์การ
- คนมักต่อต้านการเปลึ่ยนแปลง
- คนมักโง่ และหลอกง่าย
2.ทฤษฎี Y(The integration of Individual and Organization Goal) ทฤษฎีข้อนี้เกิดจากข้อสมติฐานที่ว่า
- คนจะไม่ให้ความร่วมมือ สนับสนุน รับผิดชอบ ขยัน
- คนไม่เกียจคร้านและไว้วางใจได้
- คนมีความคิดริเริ่มทำงานถ้าได้รับการจูงใจอย่างถูกต้อง
- คนมักจะพัฒนาวิธีการทำงาน และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
3. ทฤษฎี Z(Z Theory) (William G. Ouchl) ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย UXLA (Iof California t Los Angeles) ทฤษฎีนี้รวมเอาหลักการของทฤษฎี X และ Y เข้าด้วยกัน แนวความคิดก็คือ องค์การต้องมีหลักเกณฑ์ที่ควบคุมมนุษย์ แต่มนุษย์ก็รักความเป็นอิสระ และมีความต้องการหน้าที่ของผู้บริหารจึงต้องปรับเป้าหมายขององค์การให้สอด คล้องกับเป้าหมายของบุคคลในองค์การ ทฤษฎีมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการคือ
- การทำให้ปรัชญาที่กำหนดไว้บรรลุ
- การพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- การให้ความไว้วางใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
- การให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ทฤษฎีนี้ใช้หลักการ 3 ประการ คือ
- คนในองค์กรต้องซื่อสัตย์ต่อกัน
- คนในองค์การต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
- คนในองค์การต้องมีความใกล้ชิดเป็นกันเอง
หลักการบริหารที่มีประสิทธิภาพ(Edgar L Morphet )
- การบริหารที่มีผู้บริหารเพียงคนเดียวในองค์การ (Division Of Labor)
- มีการกำหนดมาตรฐานทำงานที่ชัดเจน (Standardization)
- มีเอกภาพในการบังคับบัญชา (Unity of command)
- มีการกระจายอำนาจและความรับผิดชอบให้แก่ผู้ร่วมงาน (Delegation of Authority and Responsibility)
- มีการแบ่งฝ่ายงานและบุคลากรผู้รับผิดชอบให้แก่ผู้ร่วมงานให้เฉพาะเจาะจงขึ้น (Division of Labor)
- มีการกำหนดมาตรฐานการทำงาน ที่ชัดเจน (Span of control)
- มีการมอบหมายการควบคุมดูแลที่เหมาะสม (Stability)
- เปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ในองค์การได้ (Flexibility)
- สามารถทำให้คนในองค์การเกิดความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย (Security)
- มีการยอมรับนโยบายส่วนบุคคลที่มีความสามารถ (Personnel Policy)
- มีการประเมินผลการปฏิบัติงานทั้งส่วนบุคคลและองค์การ (Evaluation)