สงสัยไหมว่า ช่วงที่ผ่านมานี้เราได้ยินเกี่ยวกับโรค “กรดไหลย้อน” บ่อยขึ้น และคนใกล้ตัวเราเป็นโรคนี้กันมากขึ้น วันนี้ jobsDB จึงนำข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มาฝากเพื่อให้คน ทำงาน ออฟฟิศได้รู้ทันโรค และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ เพราะว่า มันเป็นโรคที่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดค่ะ
สาเหตุของโรคเกิดจากพฤติกรรมในการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมของคนทำงาน ทำให้กรดที่ออกมาย่อยอาหารไหลย้อนขึ้นไปบนหลอดอาหารซึ่งไม่ทนต่อกรด
- ชอบกินชา กาแฟ และของมัน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้กล้ามเนื้อหูรูดส่วนต่อระหว่างกระเพาะอาหารและหลอดอาหารคลายตัว
- กินอาหารไม่เป็นเวลา ชอบกินจุบจิบ กินอาหารเย็นหนัก ๆ หรือกินมื้อดึกอิ่มแล้วนอนทันที
- การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปจนเกินไป จะเพิ่มความดันในช่องท้องมากขึ้น
- ท่านอนที่ไม่ถูกต้อง หัวเสมอหรือต่ำกว่าลำตัว
อาการเมื่อกรดไหลย้อนขึ้นมาจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนกลางอก จุกในลำคอ แน่นท้อง แน่นหน้าอก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว ขมในปาก คลื่นไส้ นอนไม่ค่อยหลับ กลืนอาหารลำบาก เจ็บคอ ทรมานมาก ถ้าใครมีอาการดังกล่าวละก็ รีบไปพบแพทย์นะคะ เพราะหากปล่อยให้หลอดอาหารระคายเคืองไปนาน ๆ อาจทำให้เป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
การรักษาเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าคุณเป็นโรคกรดไหลย้อน แพทย์มักจะให้ยาในกลุ่มยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร พร้อมกับย้ำให้คุณเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ต่อไปนี้
- ไม่รับประทานอาหารอิ่มเกินไปในแต่ละมื้อควรรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ เพื่อให้มีอาหารในกระเพาะอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะได้ไม่ต้องทำงานหนักในการย่อยอาหาร สามารถย่อยอาหารได้หมดก่อนที่เราจะเข้านอน อย่ากินอย่างเร่งรีบ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด อย่าดื่มน้ำมากในขณะรับประทานอาหาร
- ไม่ควรล้มตัวลงนอนในช่วง 2-3 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเพราะกรดที่ออกมาย่อยอาหารยังไม่หมด ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปได้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดไม่กระชับเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช็อกโกแลต เปปเปอร์มินต์ เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน น้ำมัน ของทอด อาหารขยะ และอาหารที่มีไขมันสูงทั้งหลาย เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ไปเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารเช่น ชา กาแฟ กระเทียม หัวหอม พริกและอาหารเผ็ดร้อน หน่อไม้ฝรั่ง ไข่ พาสต้า ก๋วยเตี๋ยว แป้งข้าวโพด ลูกพรุน ส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำอัดลม น้ำตาล อาหารขยะ และอาหารที่ผ่านการแปรรูป เป็นต้น
- ปรับท่าทางการนอนให้ถูกต้องนอนหนุนหมอนให้หัวสูงกว่าลำตัว พยายามนอนตะแคงขวา เพื่อจะได้ไม่กดทับท้องจนกรดไหลย้อน
- อย่าใส่เข็มขัด เสื้อผ้า กางเกง หรือกระโปรงที่รัดแน่นจนเกินไปเพื่อไม่ให้ความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากจนเกินไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่เครียดจนเกินไปเพราะ ความเครียด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีกรดมาก
- เมื่อรู้สึกว่ากรดไหลย้อนให้ดื่มน้ำ กลืนน้ำลาย หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อช่วยสลายกรด
ใครที่มีพฤติกรรมการกิน การนอนตามที่กล่าวมาข้างต้น โรคกรดไหลย้อนอาจมาหาคุณได้สักวัน รู้ตัวแล้วควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียแต่เนิ่น ๆ ดีกว่า จะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไร้โรคภัยค่ะ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ท่าโยคะง่าย ๆ รักษาออฟฟิศซินโดรม
ผลเสียของการทำงานหนักเกินไป
ยืดเส้นยืดสายคลายปวดเมื่อย