นาทีนี้ไม่มีอะไรมาแรงไปกว่าอาชีพด้านไอที เพราะโลกที่หมุนอย่างรวดเร็วจะการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง เรียกได้ว่าเราได้เปลี่ยนผ่านจากยุคอนาล็อกเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์มาหลายปีแล้ว และโลกยุคดิจิทัลนี้เองที่ทำให้ตลาดแรงงานต้องปรับตัวให้ทัน ไม่เว้นแม้แต่คนทำงานสายไอทีที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีเป็นอย่างดี
แม้ว่าคนทำงานสายไอทีจะถูกมองว่าเป็นแรงงานที่จะอยู่รอดในยุคดิจิทัล แต่ถ้าหากไม่รู้จักปรับตัวก็อาจจะล้าหลังได้ไม่แพ้อาชีพอื่น เพราะทักษะไอทีหลายอย่างที่เคยถูกมองว่า “ใหม่” เมื่อหลายปีก่อนกลับกลายมาเป็นทักษะพื้นฐานที่คนทำงานด้านไอทีจำเป็นต้องมีไปซะแล้ว
ทักษะของคนไอที
Randstad Sourceright ผู้ให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลระดับชั้นน้ำของโลก ได้สรุปรายงานเรื่องทักษะด้าน IT ที่มาแรงในปี 2022 จากการศึกษาข้อมูลจากตลาดแรงงานกว่า 26 ประเทศ และผ่านทางการสังเกตความเปลี่ยนแปลงความต้องการในตลาดแรงงานบนเว็บไซต์จัดหางานขึ้นชื่ออย่าง LinkedIn, World Economic Forum, Gartner และ ZDnet
ซึ่งได้ผลสรุปออกมาว่าทิศทางตลาดแรงงานมีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน และมี 7 ทักษะด้านไอทีที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในช่วงปี 2022 ดังนี้
หลายคนอาจรู้จัก Cloud Computing ผ่าน Google cloud หรือ iCloud จากค่าย Apple แต่จริง ๆ แล้วเทคโนโลยี Cloud Computing นั้นล้ำมากกว่าการใช้เป็นที่เก็บรูปหรือแชร์ไฟล์เท่านั้น เพราะ Cloud Computing เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้จัดเก็บและจัดการการเข้าถึงข้อมูลในองค์กร ซึ่งสามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานและทำธุรกิจไปได้อย่างสิ้นเชิง สร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน
รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพไปจนถึงเพิ่มความรวดเร็วในการส่งต่อข้อมูล หรือติดตามการทำงานให้อย่างมีระบบ และยังเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลรักษาข้อมูลที่เป็นความลับสำคัญของบริษัทให้ปลอดภัยในระดับสูงได้ด้วย
อาชีพที่ต้องมีทักษะด้าน Cloud Computing ในระดับเชี่ยวชาญก็คือ Cloud solution engineer ที่ต้องมีความรู้ความเข้าใจในด้าน Cloud Technology รวมถึง Cloud Security ในระดับสูง อาชีพนี้ยังเป็นที่ต้องการของตลาดงานทั่วโลกอีกด้วย
ตลาดซอฟท์แวร์ด้าน AI และ NLP engineer มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณ 33% ขึ้นไปถึง 50% เลยทีเดียว ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าเทคโนโลยี AI และ NLP มีแนวโน้มที่จะถูกพัฒนาให้ฉลาดแะตอบคำถามได้ดีกว่าเดิมจากความสามารถในการวิเคราะห์ได้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าองค์กรหลายแห่งเริ่มนำเทคโนโลยี AI มาใช้ตอบคำถามลูกค้าผ่าน ChatBot
ซึ่งแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน AI เป็นที่ต้องการอย่างมาก จากรายงานของEmsi Burning Glass ที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากโพสต์หางานทั่วสหราชอาณาจักร
ระบุว่างานที่เกี่ยวข้องกับทักษะด้าน AI จะเพิ่มขึ้นถึง 297% ภายใน 2 ปีนี้ และใน 12 เดือนที่ผ่านมา มีโพสต์หางานด้าน AI กว่า 142,346 โพสต์
แต่สหราชอาณาจักรกลับมีแรงงานที่เชี่ยวชาญด้าน AI อยู่ที่เพียง 11.8% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ เรียกได้ว่าหากมีทักษะด้าน AI แล้วอยากย้ายไปทำงานที่อังกฤษจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
เมื่อมีเทคโนโลยี AI แล้วสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้ก็คือทักษะด้าน Machine Learning ที่เป็นกระบวนการเรียนรู้ของ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้ AI ฉลาดขึ้น สามารถตอบสนองต่อคำสั่งที่ซับซ้อน รวมไปถึงมีวิธีการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นผ่านการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี Machine Learning
ซึ่งทักษะนี้สามารถพบได้ในคนที่ทำอาชีพ Machine Learning Engineer หรือหากใครอยากเข้ามาทำอาชีพนี้ก็ต้องไปเรียนรู้ภาษาอย่าง Python, SQL, Java และ C++ พร้อมกับฝึกโปรแกรมและเครื่องมืออื่น ๆ เช่น TensorFlow, R Programming และ Apache Kafka เพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นแต้มต่อในการทำงาน
“Data is the oil” คือวลีเด็ดที่ใช้อธิบายความสำคัญของทักษะ Data Science ได้เป็นอย่างดี เพราะเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ต้องการข้อมูลมาใช้เพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจธุรกิจกันทั้งนั้น TechRepublic ระบุว่าในปี 2019 Data Scientist ถูกจัดให้เป็นอาชีพที่ดีที่สุดจาก LinkedIn และ Glassdoor รายได้ของอาชีพนี้ในสวิตเซอร์แลนด์มีอัตราสูงถึง 110,612 ดอลล่าเลยทีเดียว
นอกจาก Data Scientist ต้องมีความรู้ด้านภาษา Python, R และ SQL เป็นหลักแล้ว ยังจะต้องมีความเข้าใจทางด้านธุรกิจ และมีทักษะการทำ Data Visualization เพื่อให้สามารถถ่ายทอดข้อมูลให้ครบถ้วนและเข้าใจง่ายด้วย
อวัยวะที่ 33 ของคนยุคนี้คือ โทรศัพท์มือถือ สิ่งที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทุกช่วงวัยไปแล้ว จากการสำรวของ Pew Research ในประเทศเกาหลีใต้พบว่ากว่า 100% ของประชากรมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง ซึ่งมากกว่าประเทศอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ที่มีอัตราการเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือกว่า 90% จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะในประเทศไหน ๆ ใคร ๆ ก็มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น
ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต่างพากันพัฒนา Application เพื่อใช้ดึงดูดลูกค้าและช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ทักษะที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นอย่าง การออกแบบ UX/UI การพัฒนาแอปข้ามแพลตฟอร์ม Backend Computing, Frontend Developer, หรือแม้แต่ Infrastructure Architect เป็นทักษะจำเป็นของคนอาชีพนี้ เราขอพ่วงทักษะความเข้าใจธุรกิจเข้าไปด้วย เพราะจะช่วยให้คุณเติบโตในสายงานนี้อย่างก้าวกระโดด
IoT หรือที่ย่อมาจาก Internet of Things คือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านอินเตอร์เน็ต เราขอยกตัวเองเป็นอุปกรณ์ภายในบ้าน อย่างเช่นหลอดไฟ ทีวี หรือเครื่องปรับอากาศ ที่สามารถสั่งให้เปิด ปิด จากมือถือผ่าน IoT Technology และนี่เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าการเป็นฉากในหนัง Sci-Fi แล้ว ทำให้เทคโนโลยี IoT ถูกขนานนามให้เป็น The Next Big Thing
โดยรายงานของ Accenture มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2024 จะมีตัวเลขของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกันได้ถึง 4 หมื่นล้านอุปกรณ์ สมทบด้วยรายงานของ Statista ตัวเลขนี้จะสูงถึง 7 หมื่นล้านภายในปี 2025 ทำให้วิศวกรไปจนถึง Developer ที่มีทักษะนี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
Blockchain คือ เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบไม่มีตัวกลาง ที่กลายมาเป็น Solution ใหม่ที่ช่วยจัดการแก้ปัญหาด้านความไม่โปร่งใสและลดขั้นตอนที่ต้องผ่านคนกลาง โดยที่เทคโนโลยี Blockchain เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการทำธุรกรรมการเงิน เพราะ Blockchain สร้างการลงทุนแบบใหม่ที่เรียกว่า Cryptocurrency ที่มาแรงแซงทางโค้งแบบที่อะไรก็มาหยุดไว้ไม่อยู่
ด้วยแนวโน้มการลงทุนใน Cryptocurrency มีท่าทีที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี Blockchain จึงสูงตามไปด้วย
จากรายงานของ Glassdoor งานที่เกี่ยวกับด้านนี้เติบโตขึ้นสูงถึง 300% ในปี 2019 และทักษะที่ Blockchain Developer ต้องมี ได้แก่ ความรู้ด้าน Data Structure, Smart Contracts, Cryptography, Blockchain Architecture
และความสามารถในการทำงานข้ามแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้ตอบโจทย์ธุรกิจให้ดีกว่าเดิม
ที่มา :
https://bit.ly/3HWEzKJ
https://bit.ly/3xWwEsp
https://bit.ly/3no0WiY
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android