การคัดสรรบุคลากรในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ แต่ละองค์กรคงต้องให้ความสำคัญในการเฟ้นหาคนดีมีฝีมือกันอย่างเข้มข้น เพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์กร และพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับองค์กร เป็นกำลังในการฝ่าวิกฤตที่ต้องเผชิญอยู่ได้ไปได้อย่างสวยงาม ไม่ต่างจากการคั้นกะทิให้ได้หัวกะทิที่เข้มข้นและอร่อยที่สุด
หากคัดสรรคนที่ไม่เหมาะสมเข้ามาร่วมงานอาจเกิดปัญหา ทำความเสียหายให้กับองค์กร หรือสไตล์การทำงานไม่เหมาะกับวัฒนธรรมองค์กร ทำให้ต้องคัดสรรบุคลากรใหม่ เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
ดังนั้นก่อนจะดำเนินการคัดสรรบุคลากร อยากให้อ่านตรงนี้สักนิด เพื่อให้คุณได้คนที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ
- การจะได้คนเก่งมาร่วมงานต้องลงทุนมากหน่อย ทำได้โดยเฝ้าติดตามเรซูเม่ออนไลน์ของผู้สมัคร หากเจอคนที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ตรงตามที่เราต้องการ จะได้ติดต่อทาบทาม เข้ามาคุยรายละเอียดกัน หากบริษัทของคุณมี profile ที่ดี จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้สมัครได้มาก การเลือกใช้บริการเว็บไซต์หางานที่เป็นมืออาชีพเป็นทางหนึ่งที่คุณจะได้พบกับผู้สมัครที่มีคุณภาพเช่นกัน
- ติดต่อผ่านบริษัทที่ให้บริการ Head-Hunter หรือ Executive Recruitment ซึ่งคุณสามารถระบุความต้องการของคุณได้อย่างเต็มที่ โดยบริษัทเหล่านั้นจะทำการคัดสรรบุคลากรมาให้ตามที่คุณระบุ วิธีนี้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการสรรหา แค่เตรียมงบประมาณไว้ให้มากหน่อย เพราะค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะสูงขึ้นตามอัตราเงินเดือนของผู้สมัคร ยิ่งคุณจ้างคนเก่ง เงินเดือนสูง ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย...หากคุณกำลังคิดเสียดายสตางค์อยู่ในใจละก็ ให้นึกถึงความคุ้มค่าที่คนมีฝีมือเหล่านี้จะทำประโยชน์ให้กับองค์กรของคุณ เปรียบเทียบกับค่าเสียเวลา และค่าใช้จ่ายสำหรับการคัดสรรคนใหม่ ในกรณีที่คุณคัดเลือกบุคลากรผิดพลาด
- อย่ามองข้ามศักยภาพของพนักงานปัจจุบัน เปิดโอกาสให้พนักงานของคุณได้เป็นหนึ่งในผู้สมัครก่อนที่จะประกาศรับสมัครบุคคลภายนอก พนักงานปัจจุบันย่อมมีความเข้าใจในเป้าหมายและความต้องการขององค์กรอยู่แล้ว ให้เขาได้แสดงวิสัยทัศน์ในการดำเนินการในตำแหน่งที่คุณเปิดรับ ซึ่งอาจเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น คุณจะได้เห็นแนวคิด และรู้จักพนักงานของคุณดีขึ้น คุณอาจพบว่า พวกเขามีศักยภาพสูงกว่างานที่เขาทำอยู่ และมีคุณสมบัติตรงตามที่คุณต้องการ ซึ่งสามารถเติมเต็มตำแหน่งว่างของคุณได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี
- เป็นผู้นำที่ดีของลูกน้อง เอาใจใส่และดูแลรักษาพนักงานของคุณ ด้วยการสร้างแรงจูงใจ ให้คำแนะนำ ให้รางวัล ให้การยอมรับ ให้ความยืดหยุ่นสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน การเลื่อนตำแหน่ง สวัสดิการ รวมไปถึงการให้พนักงานมีส่วนร่วมในเรื่องสำคัญๆ ด้วย องค์กรที่จัดสรรสิ่งเหล่านี้ให้แก่พนักงานได้อย่างเหมาะสม จะเป็นองค์กรที่สามารถมัดใจพนักงาน ให้พนักงานเกิดความรักและพร้อมจะอุทิศตนทำงานให้แก่องค์กรอย่างเต็มที่ เมื่อเกิดการกล่าวขานกันปากต่อปากจากคนในสู่คนนอก ว่าองค์กรของคุณเป็นองค์กรที่ดีน่าร่วมงานด้วย เชื่อเถอะว่า คำพูดจากปากพนักงานมีพลังมากกว่าคำที่องค์กรเขียนโฆษณาตัวเองไว้มากมายนัก และเมื่อผู้คนให้การยอมรับองค์กรของคุณ เมื่อนั้นคุณก็จะเป็นผู้เลือกอย่างแท้จริง
- ให้พนักงานมีส่วนร่วมในกระบวนการจ้างงาน โดยอาจให้พนักงานที่เกี่ยวข้องสามารถแนะนำผู้สมัครที่มีคุณภาพให้แก่บริษัท ช่วยในการคัดเลือกเรซูเม่ รวมทั้งช่วยสัมภาษณ์เพื่อประเมินศักยภาพในเบื้องต้นได้ และเมื่อรับพนักงานใหม่เข้ามาทำงานแล้ว พนักงานที่มีส่วนในกระบวนการคัดสรรยังสามารถช่วยให้คำแนะนำพนักงานใหม่ได้ด้วย
- เลือกคนที่ใช่จริงๆ ซึ่งหมายถึงคนที่มีประสบการณ์และความสามารถในหน้าที่รับผิดชอบต่อตำแหน่งงานนั้นๆ อยู่แล้ว หรือเป็นคนที่มีแนวโน้มที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพไปถึงจุดนั้นได้ อย่าพยายามที่จะฝึกคนที่ไร้ซึ่งแรงจูงใจ หรือคนที่ยังห่างไกลกับที่คุณคาดหวังมากๆ เพราะหลายองค์กรพบกับความล้มเหลวในการพยายามปลุกปั้นคนที่ไม่มีศักยภาพมานักต่อนักแล้ว องค์กรที่จะก้าวไปข้างหน้าคือองค์กรที่นำจุดแข็งมาใช้ในการต่อยอด มากกว่าการพยายามพัฒนาจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็ง ซึ่งเป็นไปได้ยาก
คนคือทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร จึงต้องคัดสรรและดูแลรักษาเป็นอย่างดี เริ่มต้นจากคำแนะนำข้างต้นสู่ความสำเร็จในการคัดสรรบุคลากร ในที่สุดคุณอาจพบว่าคนที่ใช่ อยู่ใกล้กว่าที่คิด