หลังจบการศึกษาเป็นช่วงเวลาที่ เด็กจบใหม่ เริ่มต้นหางาน เพื่อให้ตัวเองมีการงานที่มั่นคง และไม่รู้สึกเคว้งคว้างเมื่อเห็นเพื่อนคนอื่น ๆ มีงานทำกันหมดแล้ว เด็กจบใหม่จึงต้องมีความพร้อม หากต้องการให้ตัวเองเป็น ผู้สมัครงานที่โดดเด่น ในสายตาผู้ประกอบการ นอกจากการมี เรซูเม่ และประสบการณ์ที่น่าสนใจแล้ว การมีความพร้อมสำหรับการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นหางานนั้น เราต้องมีความพร้อม และต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้เสียก่อน ว่าเราพร้อมจะทำงานแล้วหรือยัง นักศึกษาจบใหม่หลายคนยังคงเคยชินกับการเป็นนักศึกษา ทำให้ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมในการทำงานได้ดี เมื่อเจอกับปัญหา และ อุปสรรคในการทำงาน ก็จะรู้สึกท้อ และคิดอยากจะเปลี่ยนงานใหม่อยู่เรื่อย ๆ
ต้องยอมรับว่าการหางานไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป หากเรามีความตั้งใจจริง เมื่อเริ่มต้นหางาน นอกเหนือจากความพร้อมด้านคุณสมบัติแล้ว ต้องมีความพร้อมด้านจิตใจด้วย คำถามต่อไปนี้ จะช่วยให้เราเรียนรู้ตัวเอง และให้คำตอบกับตัวเองได้ว่าเรามีความพร้อมแค่ไหน ช่วงเวลานี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ที่สำหรับ การทำงาน
1. พร้อมหรือยังที่จะไปทำงาน
สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เด็กจบใหม่ปรับตัวได้ยาก คือการต้องตื่นนอนตอนเช้าไปทำงานทำทุกวัน เพื่อให้ไปทำงานทันเวลา หากไปทำงานสายเมื่อไรก็ตาม ต้องเตรียมตัวรู้สึกผิดไว้ได้เลย เจ้านายอาจตั้งคำถามว่าทำไมจึงมาทำงานสาย หากเรายังไม่พร้อมที่จะต้องตื่นนอนแต่เช้าตรู่ทุกวัน นั่นหมายความว่าเราอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับชีวิตการทำงาน
2. เหตุผลของการหางาน
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นหางาน เราต้องหาคำตอบให้กับตัวเองก่อนว่าทำไมเราจึงสมัครงานนี้ อย่าให้คำว่า “ทำงานเพราะอยากได้เงิน” เป็นเหตุผลของการตัดสินใจหางานของเรา เพราะนั่นเท่ากับว่าเราไม่มีเป้าหมายที่แน่นอนในการทำงาน การทำงานเพียงเพราะอยากจะได้งาน หรือเพราะงานนี้ให้ผลตอบแทนที่สูง จะทำให้เราทำงานนี้ไม่ได้นาน ไม่ช้าไม่นานก็ต้องลาออก เพื่อหางานที่ให้เงินเดือนสูง ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเรามี เป้าหมายในการทำงาน เราจะรู้ว่าทำไมเราจึงสมัครงาน
3. ทำงานนี้แล้วก้าวหน้าแค่ไหน
งานแรกที่เราทำอาจไม่ใช่งานที่ดีพร้อมที่สุด แต่ต้องไม่ใช่งานที่เราทำเพราะจำเป็นต้องทำ สิ่งที่เราเลือกควรเป็นงานที่สามารถวางรากฐานของความก้าวหน้าให้กับเราได้ ก่อนที่เราจะสัมภาษณ์งานเราต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่างานนี้มีความก้าวหน้าแค่ไหน ไม่เช่นนั้นแล้ว เราอาจต้องลาออก เมื่อค้นพบว่างานที่เราทำอยู่นั้นไม่มีความก้าวหน้ารอเราอยู่ เราจึงต้องคิดให้รอบคอบก่อนเริ่มต้นหางาน เพื่อให้การทำงานของเรามีความมั่นคงมากขึ้น
4. ความสะดวกในการเดินทาง
สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ ความก้าวหน้าในการทำงาน คือความสะดวกในการเดินทาง เราต้องพิจารณาดูว่าบริษัทที่เราจะไปทำงานนั้น มีความสะดวกในการเดินทางมากเพียงไหน หากเราต้องเสียเวลาส่วนหนึ่งไปกับการเดินทาง เราจะรู้สึกว่าเราเหนื่อยล้า และไม่สามารถไปทำงานได้อย่างมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อเราเริ่มหางาน เราต้องพิจารณาที่ตั้งของบริษัทด้วยว่าสะดวกกับเรามากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีความสะดวกในการเดินทางมากก็จะยิ่งทำให้เราอยากไปทำงานมากเท่านั้น
5. พร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่
ความพร้อมของเด็กจบใหม่ไม่ได้มีเพียงความพร้อมทางด้านความรู้ความสามารถเท่านั้น แต่เราต้องสามารถบอกกับนายจ้างได้ว่าเราสามารถเริ่มงานได้เมื่อไร บางคนจะติดปัญหาเรื่องวันเริ่มต้นทำงาน เมื่อเราบอกนายจ้างไปว่าพร้อมเมื่อจบการศึกษาแล้ว นายจ้างอาจจะรอไม่ได้ เนื่องจากความเร่งรีบในการหาคนทำงานแต่ละบริษัทนั้นไม่เหมือนกัน ก่อนที่จะสมัครงานเราต้องมั่นใจว่าเราจะเริ่มงานได้ตรงตามเวลาที่นายจ้างต้องการ จึงจะเป็นคนหางานที่เป็นที่ต้องการของนายจ้าง
เมื่อเราเริ่มต้นหางาน เราต้องมั่นใจว่าเราเป็นคนทำงานที่มีความพร้อมมากกว่าคนหางานคนอื่น อีกทั้ง ทำให้นายจ้างรู้สึกว่าเขาเลือกคนไม่ผิด และรู้สึกประทับใจที่ได้สัมภาษณ์เราเข้าทำงาน เราต้องทำให้การหางานที่ใคร ๆ ว่าเป็นเรื่องยากนั้น กลายเป็นเรื่องที่ไม่เกินความสามารถ และไม่ใช่ยาขมหม้อใหญ่สำหรับเด็กจบใหม่อีกต่อไป
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ