สินค้าและบริการ เมื่อขายมาได้ระยะหนึ่งก็จะเริ่มมียอดขายลดลง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ประเด็นที่น่าสังเกตก็คือ สินค้าและบริการในวันนี้แจ้งเกิดได้ยาก แต่เมื่อติดตลาดไปแล้วกลับตายเร็ว หรือขายดีเป็นเทน้ำเทท่าได้ไม่นานก็เริ่มทรงจนทรุด เรียกกันได้ว่าช่วงกอบโกย ในวันนี้นอกจากจะไม่ค่อยมีโอกาสแล้วยังมีแค่ช่วงสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม สินค้า – บริการไม่ใช่ทุกประเภทที่จะสามารถนำเทคนิคต่างๆ ไปใช้ได้ทันที แต่อย่างน้อยทุกประเภทก็สามารถนำเทคนิคต่างๆ ไป “ปรับใช้” หรือ “จุดประกาย” ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าสำหรับธุรกิจของท่าน มาลองตั้งคำถามให้กับสินค้า – บริการของท่าน ไม่แน่สินค้า - บริการของท่านอาจอยู่ได้ยาวนาน มีคุณค่าและขายได้ราคาที่มากขึ้นก็ได้
- สิ่งที่เราขายทุกวันนี้ ไม่ว่าจะขายโดยใช้พนักงาน หรือสื่อสารในทุกสื่อให้ลูกค้ารับรู้ คำถามก็คือ “เราขายและ สื่อสาร ด้วยจุดขายเดิมๆ มานานเกินไปหรือไม่” เพราะถ้าเราขายด้วยจุดขายเดิมๆ ในแง่ทฤษฎีอาจจะขัดในแง่ของ Positioning ของตัวสินค้า แต่สิ่งที่ชัดกว่าก็คือความซ้ำซากจำเจน่าเบื่อหน่าย
- "ระหว่าง เปลี่ยนจุดขาย กับ เพิ่มจุดขาย แบบใดที่เหมาะกับสินค้าหรือบริการของเรา" ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากลัวลูกค้าสับสนก็อาจจะไม่กล้าเปลี่ยน จุดขาย แต่สามารถ “เพิ่ม” จุดขาย เพื่อให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้ออีกครั้ง และสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ จาก จุดขาย ใหม่ๆได้ด้วย
- "นอกจากการ เปลี่ยนหรือเพิ่มจุดขาย แล้ว เราสามารถทำอะไรได้อีก" เช่น สินค้า – บริการของเราทำไมไม่ทำเป็นรุ่นพิเศษ หรือมีจำนวนจำกัด (Limited and Special) โดยทำออกมาปีละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มมูลค่าและขายได้ราคา ซึ่งสร้างสีสันให้กับลูกค้าประจำที่อาจจะจำเจกับรูปแบบเดิมๆ
- สร้างสีสัน และจุดดึงดูดสินค้าหรือบริการตัวใหม่ๆ เพื่อ ดึงดูดลูกค้า ให้มาสนใจสินค้า - บริการของเรา โดยการ “ใส่เรื่องราว” ที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวที่มาที่ไปของแหล่งวัตถุดิบ หรือดีไซน์ใหม่ที่มีแรงบันดาลใจมีที่มาที่ไป หรือการให้บริการรูปแบบใหม่ที่เกิดจากาการมองเห็นคุณค่า และความต้องการที่ลูกค้าเองก็ยังคาดไม่ถึง ก็จะช่วยเพิ่มทั้ง “มูลค่าและจุดดึงดูด”
- ถ้าคิดและวิเคราะห์ดูแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็อาจจะไม่คุ้มกับสินค้าหรือบริการเดิมที่มีอยู่ แล้วทำไมเราไม่สร้างสินค้าหรือบริการตัวใหม่ๆ มาทดแทน การใช้วิธีนี้อาจจะคุ้มค่า ถ้าทำอย่างไรก็ไม่สามารถสู้ต้นทุนที่ต่ำกว่ามากของคู่แข่ง หรือเป็นสินค้าหรือบริการที่รับศึกรอบด้านและลูกค้าหมดความสนใจไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากตัวอย่าง 5 คำถามเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เราทำ ไม่ว่าท่านจะตั้งคำถามเพียงข้อเดียวแล้วอาจจะได้คำตอบเลย หรือถามหลายข้อ ไปจนครบ 5 ข้อแล้วท่านเกิด “มุมมองใหม่ๆ” สิ่งที่ตามมาก็คือ กลยุทธ์และวิธีการใหม่ๆ เพราะเป็นกฎของธรรมชาติที่ทุกท่านน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วก็คือ “สิ่งที่เราขาย ถ้าขายด้วยสิ่งเดิมๆ และขายด้วยวิธีการเดิมๆ ไม่มีทางที่ผลจะออกมาดีกว่าเดิม”
ดังนั้น ก่อนจะไปแนวทางอื่น มาลองใช้คำถาม 5 คำถามในวันนี้อย่างจริงจัง บางทีอาจจะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณพลิกโฉมไปจากเดิมก็ได้
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
คว้างานที่ใช่ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า
ทำไมต้องพยากรณ์ยอดขาย (Sales Forecast)