ปัญหาของนักลงทุนมือใหม่ หรือไม่ใหม่ก็ตามแต่ที่มีความคิดถือหุ้นยาว โดยมากมักทำไม่สำเร็จ เนื่องจากมีสาเหตุหลายประการด้วยกัน อาทิเช่น นักลงทุนคนนั้นซื้อหุ้นมาในราคาที่สูงเกินไป พอมาเจอสภาวะตลาดไม่อำนวย ก็ไม่สามารถทนสภาพที่มูลค่าสินทรัพย์ ในพอร์ตต้องลดลงไปมากได้ หรือนักลงทุนหลายคนก็เลือกที่จะเป็นนักลงทุนระยะยาวด้วยเหตุจำเป็น เนื่องจากซื้อ – ขายเป็นไปตามสภาวะอารมณ์ของตลาด ก็เลยจำใจต้องถือยาว
โดยปกติแล้วนักลงทุนในกลุ่มนี้ ถ้าราคาหุ้นกลับมามีกำไรแล้ว ก็มักจะไม่ถือยาวอย่างที่ตั้งใจ ส่วนใหญ่ก็จะขายออกไปแล้วไปหาหุ้นตัวใหม่เล่น เพราะมีความรู้สึกในระหว่างที่ต้องมานั่งลุ้นราคาหุ้นในแต่ละวัน และอีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นอุปสรรคของนักลงทุน ในกลุ่มนี้ก็คือ ขาดความแน่วแนะ และเอาตัวเองไปเกาะติดอยู่กับตลาดมากจนเกินไป แทนที่จะสนใจตัวธุรกิจหรือกิจการมากกว่า เช่น พอข่าวประกาศจ่ายปันผล นักลงทุนก็เกิดความหวาดวิตก ว่าราคาหุ้นจะตกลงไปมากกว่าเงินปันผลที่ได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะนักลงทุนไม่ได้มีความคิด แบบเดียวกับเจ้าของกิจการ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาที่คุณซื้อบ้านเพื่ออยู่เองกับคนในครอบครัวของคุณ คุณก็คงจะไม่ขายบ้านหลังนี้ทิ้ง ถ้าราคาของบ้านนั้นตกลงมากกว่าเงินต้นของคุณ ที่คุณลงทุนซื้อมา และที่สำคัญ หน้าที่ของนักลงทุนรายย่อย ก็คือหากิจการที่ดีนั้นให้เจอ ซึ่งนั่นก็แสดงว่าคุณเข้าใจในธุรกิจนั้นดีพอสมควร และพร้อมที่จะมีส่วนร่วนในการเป็นเจ้าของร่วมไป กับการเติบโตของกิจการนั้น ๆ
ท้ายที่สุดนี้ มูลค่าของกิจการ มันก็จะสะท้อนราคาหุ้นของมันออกมาเอง โดยเฉพาะในระยะยาว ไม่ใช่เพียงแค่วันหรือสองวัน หรือสามเดือนหกเดือนอย่างที่เข้าใจว่าเราถือมันมายาวมากแล้ว