เด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ นายจ้างจะพิจารณาคุณจากเรื่องใด ?
จริงๆแล้ว องค์กรต้องการทำให้มั่นใจว่าคุณเองมีทักษะและประสบการณ์สำหรับงานเพียงพอสำหรับงานนั้นๆหรือเปล่า HR ย่อมรู้ดีสำหรับวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ที่ผ่านมาก่อนจะเรียกคุณมา สัมภาษณ์งาน ถ้าอย่างงั้นคุณควรจะแสดงจุดเด่นอะไรตอนสัมภาษณ์งานดีล่ะ ในเมื่อคุณ จบใหม่ไม่มีประสบการณ์ ?
วิธีที่ดีที่สุดคือการแนะนำผ่านจดหมายแนะนำตัวเองและ เรซูเม่สมัครงาน ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจแต่แรกแก่นายจ้าง เสมือนคุณได้ขายตัวเองและบอกผ่านตัวอักษร ดังนั้นคุณจึงควรแสดงโชว์จุดเด่นด้านการจัดการด้านอารมณ์(soft skill) อย่างเช่นการสื่อสาร ความเป็นผู้นำ การจัดการปัญหา การจัดการความขัดแย้งและการทำงานเป็นทีม การเขียนเชิงโน้มน้าวเพื่อที่จะสามารถชักจูงให้นายข้างคล้อยตามในสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อว่าคุณเหมาะสมกับบริษัทมากแค่ไหน ถึงแม้คุณจะยังไม่มีประสบการณ์ก็ตามที
6 เทคนิคสำหรับเด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์ที่ช่วยให้คุณหางานได้ดียิ่งขึ้น
Tip #1: จัดเต็มเรซูเม่ให้ นายจ้าง สะดุดตาคุณ
การที่คุณไม่มีประสบการณ์ทำงาน ไม่ได้หมายเรซูเม่ที่คุณมีจะได้รับการพิจารณา ลองใช้เทคนิคการเขียนเรซูเม่ให้เข้าตานายจ้างสำหรับงานที่ไม่ต้องการประสบการณ์ดู
- พิจารณาความต้องการของงานนั้นๆ เพื่อที่คุณจะได้เน้นความสามารถพิเศษที่จำเป็นสำหรับงานนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเขียนถึง ทักษะความเป็นผู้นำ โดยแยกมาเป็นหัวข้อต่างๆด้านการทำกิจกรรมตอนอยู่สมัยมหาวิทยาลัยถึงสิ่งที่คุณตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและสามารถจัดการความขัดแย้งระหว่างสมาชิกในทีมได้ ลองคิดถึงโปรเจคที่คุณทำกับทีมมาและหาเหตุผลที่คุณเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้สามารถส่งโปรเจคก่อนเดดไลน์ได้ทันท่วงที
- เขียนเรซูเม่เน้นข้อมูลที่เป็นจริง ระบุรายละเอียดต่างๆของกิจกรรมที่คุณได้เป็นคนปฏิบัติหรือสนับสนุนโดยละเอียด อาทิด การหายอดทำบุญการกุศลได้มากกว่า 300% อย่าลืมว่าอย่าระบุประสบการณ์ที่ไม่เป็นจริงหรือทักษะที่ระบุไว้เกินจิง ผู้สัมภาษณ์งานสามารถจับผิดคุณได้ง่ายๆว่าคุณโกหกหรือเปล่าผ่านคำถามเชิงเทคนิคเพียงไม่กี่ข้อ
- เขียนเรซูเม่ให้มีความครีเอทีฟ นายจ้างชอบทั้งความสร้างสรรค์และการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนในเรซูเม่ คุณจึงสามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์บนเรซูเม่ การเขียนโค้ดหรือสกิลเฉพาะทาง(หากสามารถระบุได้) แต่ละงานล้วนมีความต้องการที่แตกต่างกันไป จึงควรปรับรูปแบบเรซูเม่ให้เหมาะสมในการสมัครงาน รวมถึงรูปแบบและเนื้อหาในเรซูเม่ตามความต้องการของสายงานนั้นๆอีกด้วย
- จดหมายแนะนำตัวเองในการสมัครงาน คือ สิ่งที่จะบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณให้แก่นายจ้างเป็นอย่างแรก โดยควรใส่ข้อมูลทั้งหมดให้อยู่ภายในหน้าเดียว ควรแสดงให้เห็นว่าทำไมคุณถึงได้เหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัครถึงแม้คุณจะยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน ลองใช้เวลาในการเขียนและระบุถึงวิธีการแก้ปัญหาที่คุณเชื่อว่าบริษัทอาจริเริ่มในการปฏิบัติและคุณจะช่วยสนับสนุนอย่างได้อย่างไร ลองปรึกษาวิธีการจากคนรอบข้าง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนั้นๆเพิ่มเติม
Tip #2: สมัครงานระดับเจ้าหน้าที่แบบยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน
คุณสามารถสมัครงานได้หลากหลายธุรกิจในกรณีที่บริษัทนั้นๆมองหาผู้สมัครงานที่สามารถฝึกฝนทำงานเฉพาะทางได้อีก โดยนายจ้างจะอบรมคุณตั้งแต่แรกจนคุณสามารถทำงานเป็นได้ทั้งหมด
งานเฉพาะทางมีดังนี้
- งานในส่วนของร้านอาหารฟาสฟู๊ด
- ตัวแทนฝ่ายขาย
- พนักงานให้บริการรายบุคคล
- ผู้ดูแลคนป่วย
- นายหน้าอสังหาริมทรัพย์
- ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์
- ไกด์นำทัวร์
ยังมีตำแหน่งงานที่ไม่ต้องการประสบการณ์ทำงานอีกหลายตำแหน่ง คุณอาจเลือกสมัครโดยใช้ข้อมูลดังกล่าวก่อนเลือกสมัครงาน
- จำไว้เสมอว่า งานระดับเจ้าหน้าที่ เป็นการเปิดมุมมองด้านอุตสาหกรรมนั้นๆแก่ตัวคุณเองซึ่งคุณจะตอบได้ว่างานนี้หรืออุตสาหกรรมนี้ใช่สำหรับตัวเองหรือไม่ อย่ากลัวในการลองหลายๆอุตสาหกรรมเพราะการเริ่มงานจากตำแหน่งเหล่านี้จะช่วยสร้างรากฐานที่ดีในอาชีพของคุณในอนาคตได้
- นอกเหนือจากตำแหน่งที่กล่าวมา คุณยังสามารถค้นหาตำแหน่งงานระดับเจ้าหน้าที่ภายในอุตสาหกรรมที่คุณอยากจะมุ่งไปทางนั้นๆได้อีก ยกตัวอย่างหากคุณอยากทำเกี่ยวกับด้านทรัพยากรบุคคล คุณอาจลองสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับ HR อาทิ ผู้ช่วยฝ่ายบุคคล ทำให้คุณเข้าใจในธุรกิจและสายงานมากยิ่งขึ้น จะช่วยบอกได้ว่าสายอาชีพนี้ใช่สำหรับคุณจริงๆหรือเปล่า
- ประการสุดท้ายคือช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางและค่าใช้จ่าย ลองถามตัวเองดูว่า มีงานไหนที่ไม่ต้องการประสบการณ์แถวๆนี้บ้างไหม ?”
การฝึกงานถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างประสบการณ์และได้รับการพิจารณาจากนายจ้างเป็นพิเศษเมื่อคุณยังไม่มีประสบการณ์งาน HR มักเลือกจ้างผู้สมัครงานที่มีประสบการณ์ฝึกงานมามากกว่าผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในองค์กรใดๆมาก่อน นายจ้างมักจะโปรโมทพนักงานที่เคยผ่านการฝึกงานมาก่อนหรือเลือกบรรจุนักศึกษาฝึกงานให้เป็นพนักงานหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกงาน
มีทิปส์ดีๆสำหรับการฝึกงานที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ทั้งการเรียนและการสมัครงานในอนาคต
- เป้าหมายของการฝึกงานคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานและการฝึกงานก็เปิดโอกาสให้ตัวคุณเองได้ทดลองทั้งงาน ธุรกิจ และค้นหาประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ ในบางองค์กรการฝึกงานก็ได้รับค่าจ้างด้วย(ถึงจะไม่ได้มากเท่าพนักงานเงินเดือนก็ตาม)
- อย่าลืมติดต่อหัวหน้างานของคุณไว้ขณะคุณฝึกงาน ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาในการฝึกงานที่ไม่นาน แต่คุณก็สามารถใช้เป็นบุคคลอ้างอิงสำหรับการประวัติการฝึกงานได้
- คุณอาจให้คณบดีหรืออาจารย์ประจำคณะที่คุณศึกษาแนะนำสถานที่ฝึกงานหรืองานที่ไม่ต้องการประสบการณ์ให้แก่คุณได้ ไม่แน่ว่าคุณอาจได้รับการคัดเลือกจากศิษย์เก่าที่เป็นผู้คัดเลือกในองค์กรนั้นก็เป็นได้
Tip #4: อาสาสมัครทำงานกับองค์กรไม่แสวงผลกำไร
คุณสามารถใช้เวลายามว่างไปช่วยงานองค์กรไม่แสวงผลกำไร ซึ่งจะเป็นผลดีกับประสบการณ์ในชีวิตและเพิ่มทักษะสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน
เหตุผลดีๆสำหรับการเป็นอาสาสมัครถึงเป็นผลดี
- คุณจะได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับหน้างานซึ่งคุณไม่อาจหาได้จากหน้าหนังสือเหมือนตอนเรียน อย่างเช่น การคิดงบการเงินของโปรเจค การวิเคราะห์แนวคิด การวางแผน และการดำเนินโปรเจค รวมถึงการเข้าใจผลกระทบบนความเป็นจริง นอกจากนี้คุณเองยังสามารถเพิ่มพูนทักษะการสื่อสารและความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเมื่อคุณได้อุทิศตนเองแก่สังคม
- คุณสามารถได้รับประสบการณ์ในการทำงานอย่างแท้จริงถึงสิ่งที่องค์กรดำเนินงานในเชิงของการบริหาร การตลาด การเป็นคู่ค้าและการเงิน การที่คุณได้ทำหลายๆส่วนทำให้คุณเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของแต่ละแผนกดียิ่งขึ้น
- ส่วนสำคัญที่สุดคือ การเป็นอาสาสมัครทำให้คุณแตกต่างจากผู้สมัครงานรายอื่นๆที่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน คุณยังสามารถลงรายละเอียดสิ่งที่คุณได้เข้าไปช่วยขณะเป็นอาสาสมัครได้อีกด้วย
Tip #5: โชว์ทักษะการจัดการทางด้านอารมณ์เฉพาะหน้าขณะสัมภาษณ์งาน
นายจ้างให้ความสำคัญกับการจัดการทางด้านอารมณ์ การะบุไว้บนเรซูเม่ไม่เพียงพออีกต่อไป เมื่อคุณไม่มีประสบการณ์ทำงาน คุณจึงต้องแสดงให้เห็นถึงทักษะเหล่านี้
เมื่อคุณมีนัดสัมภาษณ์งาน คุณลองเตรียมตัวข้อมูลเหล่านี้เพื่อแสดงทักษะทางอารมณ์ให้เห็น
- เพื่อป้องกันอาการลกเพราะคุณเองไม่มีประสบการณ์ทำงาน จึงควรเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์ไว้ล่วงหน้า คุณลองเตรียมตัวคำพูดถึงทักษะที่มีผลต่อการตำแหน่งงานและหลังจากที่คุณเข้าไปทำงานแล้วคุณจะใช้ทักษะดังกล่าวแบบใดต่อบ้าง ร้อยเรื่องราวเข้าด้วยกัน หากคุณยังนึกไม่ออก ลองคิดถึงการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการใช้ทักษะทางด้านอารมณ์ที่ทุกคนสามารถพัฒนากันได้
- หากคุณรู้สึกว่าตัวเองอาจจะตอบคำถามสัมภาษณ์ได้ไม่โดดเด่นเพียงพอในการสัมภาษณ์ ให้ทำการบ้านมาล่วงหน้าจากการหาข้อมูลของบริษัทและตำแหน่งที่จะสมัคร ยกตัวอย่าง หากคุณจะสมัครงานในแผนกการตาด ลองเช็คจากสื่อโซเชียล วิเคราะห์ปัญหาและสร้างแนวทางการแก้ไขปัญหาหรือวิธีการปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อแสดงให้นายจ้างเห็นว่าถึงแม้คุณจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานแต่คุณก็ได้พยายามเพื่อให้ได้ทำงานที่นี่ และยังแสดงให้เห็นถึงวิธีการคิดอันเป็นระบบและทักษะการแก้ไขปัญหาอีกด้วย
เมื่อถึงตอนสัมภาษณ์งานจริง ทำตัวตามปกติพยายามผ่อนคลายตัวเอง เรามีหัวข้อที่จะช่วยคุณที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานให้ตอบคำถามอย่างมืออาชีพและเต็มไปด้วยความมั่นใจดังนี้
- ไปถึงก่อนเวลานัดสำหรับการสัมภาษณ์งาน ลองใช้ Google ในการค้นหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับบริษัทที่คุณกำลังจะไปสัมภาษณ์
- ในขณะสัมภาษณ์ จงตอบคำถามด้วยความมั่นใจและมีแรงบันดาลใจในตำแหน่งงานนั้นๆ ทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณประทับใจกับโอกาสที่จะได้ร่วมงานที่นี่ บอกให้รู้ว่าคุณสามารถทำงานอะไรให้บริษัทได้ แชร์ไอเดียสิ่งที่คุณเห็นมาและจะให้องค์กรนำไปปรับปรุงได้อย่างไรบ้าง
- อย่าลืมเตรียมคำตอบไว้ว่าทำไมคุณถึงเหมาะที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ถึงแม้ว่าคุณไม่มีประสบการณ์ทำงานเล่าเรื่องประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของคุณซึ่งคุณประสบความสำเร็จเรื่องใดบ้างและเล่าถึงทักษะที่คุณได้มา
- ให้ความสนใจแก่ผู้สัมภาษณ์งานและเป็นผู้ฟังที่ดี ตรงนี้หลายๆคนสอบตกเพราะเอาแต่พูดเรื่องของตนเองอย่างเดียว ตอบคำถามกระชับแต่ได้ใจความ หากคุณไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามอย่างไร ลองถามเพิ่มเพื่อให้อธิบายสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์งานต้องการอยากรู้ก่อนจะตอบคำถามนั้นจริงๆ
- ระมัดระวังอย่าพูดโอ้อวดเกินไป ถ่อมตัวในความสำเร็จและสิ่งที่คุณจะพูดถึงบริษัท
Tip #6: ใช้เครือข่ายคนรู้จักให้เป็นประโยชน์
เมื่อคุณยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน คุณควรมองหากลุ่มคนที่จะช่วยสร้างเครือข่ายในสังคมอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่คุณอยากจะเข้าไปเรียนรู้ กิจกรรมเครือข่ายเป็นการสร้างรายชื่อและข้อมูลอันมีค่าซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคุณในอนาคตเมื่อคุณต้องการหางาน เมื่อคุณต้องเข้าไปทำความรู้จักกับกลุ่มคนเหล่านี้ จงใช้ความจริงใจ ความถ่อมตัวและบุคลิกที่เหมาะสมเพื่อสร้างการรับรู้ ไม่แน่ว่าวันนึง ใครซักคนในกลุ่มนี้อาจแนะนำงานซึ่งเป็นงานที่คุณอยากทำก็เป็นได้
สรุปส่งท้าย
จงเป็นคนที่กระตือรือร้นอยู่เสมอ คิดนอกกรอบและเน้นการหาวิธีการจัดปัญหาการขาดประสบการณ์ทำงาน ลองปรับคำแนะนำต่างๆและวิธีการต่างๆเพื่อหาเส้นทางในสายอาชีพที่สอดรับกับทักษะและแรงบันดาลใจของคุณเอง จงอดทนและพร้อมเรียนรู้ผ่านทุกๆโอกาสทั้งที่เข้ามาเองและต้องออกไปแสวงหา เพื่อที่คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่ใส่ลงในเรซูเม่สมัครงานของคุณ แต่ยังนำไปใช้ในสายอาชีพอีกด้วย
ว่าแล้วก็ลองคลิกสมัครงานดูเลย คลิกที่นี่
#icanbebetter