ที่ต้องตั้งเป้าหมายในการทำงาน หรือตั้งเป้าหมายกับสายอาชีพที่ทำ เพราะจะช่วยให้คุณวางแผนในระยะยาวกับสายอาชีพที่ทำอยู่ได้ ว่าจะไปทิศทางไหนดี ส่วนในระยะสั้นก็จะช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกวันคุณอยากไปทำงาน ตอนนี้ก็ใกล้สิ้นปีแล้ว ใครที่คิดว่า ได้โบนัสแล้วจะลาออก เตรียมตั้งเป้าหมายการทำงาน แล้วเตรียมหางานไว้ต้องแต่เนิ่น ๆ เลยค่ะ เพราะถ้าไปเริ่มช่วงใกล้ ๆ อาจจะไม่ทันคนอื่นเค้านะคะ
สำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มตั้งเป้าหมายยังไง ลองดูคำแนะนำจาก jobsDB ด้านล่างนี้ได้เลย
1. เป้าหมายการทำงานระยะสั้น (1-3 ปี)
ลองลิสต์เป้าหมายระยะสั้นออกมาก่อน ซึ่งเป็นเป้าหมายเดี่ยว ๆ หรือเป้าหมายที่จะช่วยสนับสนุนหรือต่อยอดไปสู่เป้าหมายระยะยาวได้ เช่น
- หากูรูในสาขาวิชาชีพของคุณมาเป็นที่ปรึกษาในการทำงาน
- เข้ารับการอบรม สัมมนา หรือลงเรียนคอร์สสั้น ๆ เพื่อฝึกฝนเพิ่มเติมทักษะและความรู้
- พยายามไปสัมภาษณ์งานให้ได้อาทิตย์ละ 2 ที่
- ผ่านการทดสอบและได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองทางวิชาชีพ
2. เป้าหมายการทำงานระยะยาว (3 ปีขึ้นไป)
ลิสต์เป้าหมายการทำงานระยะยาวต่อ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ใช้เวลาหลายปีและต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้มา อาจเป็นเป้าหมายสุดท้ายหรือนำไปสู่เป้าหมายระยะยาวอื่น ๆ ได้ เช่น
- พัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะบางอย่าง
- มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
- เติบโตก้าวหน้าในบริษัทอื่นหรือสายงานอื่น
- ได้รับใบปริญญาบัตรหรือได้วุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นจากที่มีอยู่ ในสาขาที่เกี่ยวกับวิชาชีพที่ทำ
และเพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมายของคุณยิ่งขึ้น ลองเขียนเป้าหมายกับสายอาชีพที่คุณทำขึ้นมาให้ โดยใช้สูตร “ SMART Goals ” หรือสูตร “ฉลาดที่จะตั้งเป้าหมาย” สูตรนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
1. เจาะจงและชัดเจน (Specific)
คนเรามักจะทำตามเป้าหมายได้สำเร็จก็ต่อเมื่อคุณตั้งเป้าหมายที่เจาะจงและชัดเจนเพราะถ้าตั้งเป้าหมายแบบทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เจาะจงอะไรเป็นพิเศษ คนเราก็จะไม่ใส่ใจกับเป้าหมายเท่าที่ควร นอกจากเป้าหมายที่เจาะจงและชัดเจนแล้ว อาจเป็นเป้าหมายง่าย ๆ และดูมีกลยุทธ์ด้วย
เช่น ถ้าถามตัวเองว่า: เราจะทำยังไงดี เพื่อให้ได้งานใหม่ที่ใช่กว่าเดิม?
(x) หางาน
(✓) สมัครงานที่บริษัทใกล้บ้านที่ต้องการพนักงาน IT
2. สามารถวัดผลได้ (Measurable)
คุณต้องรู้ว่าเมื่อไหร่หรือขั้นไหน ถึงเรียกว่าเป้าหมายของคุณประสบความสำเร็จแล้วเพราะถ้าเป้าหมายที่คุณตั้งไว้วัดได้ จะช่วยให้คุณไม่ออกนอกลู่นอกทาง และบรรลุถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ควรเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง และเป็นเป้าหมายที่ทำให้มีแรงจูงใจในการทำสิ่งนั้นให้สำเร็จด้วย
เช่น ถ้าถามตัวเองว่า: เราจะรู้ได้ยังไงว่า การที่ถูกเรียกให้ไปสัมภาษณ์งาน ถึงเป้าหมายที่วางไว้แล้ว?
(x) ไปสัมภาษณ์งานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
(✓) พยายามไปสัมภาษณ์งานกับสำนักงานบัญชีให้ได้อย่างน้อย 3 ที่อาทิตย์หน้า
3. บรรลุผลสำเร็จได้ (Attainable)
เพื่อให้ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ เป้าหมายที่คุณตั้งไว้ ต้องเป็นสิ่งที่คุณมีความตั้งใจและมีความสามารถที่จะทำมันได้ด้วยคุณจะตั้งเป้าหมายสูงแค่ไหนก็ได้ แต่มันต้องสามารถปฏิบัติได้จริงไม่ใช่ตั้งเป้าหมายไปเล่น ๆ งั้น ๆ โดยที่คุณทำมันไม่ได้จริง การตั้งเป้าหมายก็จะไม่มีประโยชน์ คุณต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จให้ได้ด้วย
เช่น ถ้าถามตัวเองว่า: เราจะทำงานให้สำเร็จได้ยังไง?
(x) เราอยากทำงานให้ได้ดีอย่างสม่ำเสมอ
(✓) เราต้องทำผลงานให้ดี ให้ผ่าน KPI ทุกเดือน เพื่อให้งานออกมาดีอย่างสม่ำเสมอ
4. มีความเกี่ยวข้อง (Relevant)
เลือกเป้าหมายที่สำคัญกับคุณจริง ๆ เป้าหมายนั้นต้องเกี่ยวข้องกับสายอาชีพที่คุณอยากประสบความสำเร็จ โดยต้องมีความเป็นไปได้ที่จะทำมันให้สำเร็จได้จริง และเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับเป้าหมายอื่น ๆ ที่คุณมีด้วย
เช่น ถ้าถามตัวเองว่า: สิ่งที่ฉันจะทำนี้ มันคุ้มค่ารึเปล่า?
(x) ฉันจะไปเรียนวิชาผสมเครื่องดื่ม เพราะมันน่าสนใจดี
(✓) ฉันจะเริ่มเรียน MBA เทอมหน้า เพื่อพัฒนาความรู้ทางธุรกิจของฉัน
5. กำหนดระยะเวลา (Timely)
Timely ในที่นี้ยังหมายรวมถึง จับต้องได้ มีกำหนดระยะเวลา และมีขอบเขตเรื่องเวลาอีกด้วย
เป้าหมายต้องถูกจำกัดด้วยการกำหนดเวลา เพราะถ้าไม่ได้กำหนดเวลาไว้ คนส่วนมากก็จะไม่ได้กระตือรือร้นที่จะทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นให้คุณกำหนดวันและเวลาไปเลย ว่านานแค่ไหนและเมื่อไหร่ที่คุณจะสามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ
เช่น ถ้าถามตัวเองว่า: ฉันจะทำรายงานที่ต้องส่งวันจันทร์นี้ ให้เสร็จเมื่อไหร่ดี?
(x) ฉันจะทำรายงานนี้ให้เสร็จภายในวันจันทร์พอดิบพอดี
(✓) ฉันจะแก้ไขรายงานให้มากที่สุดคืนนี้ จะมาทบทวนและเรียบเรียงอีกครั้งช่วงสุดสัปดาห์ และส่งรายงานวันจันทร์
สอบถามเทคนิคการหางาน และเทคนิคการทำงานได้ง่าย ๆ หรือหางานจากบริษัทชั้นนำมากมาย แค่ add friend แล้วแชทมาคุยกับเราเลย ที่นี่
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ