หากคุณทำงานที่เดิมแบบเดิม ๆ มานานหลายปี คุณอาจเกิดความรู้สึกเหนื่อย เบื่อ เซ็ง หรือเริ่มถึงจุดอิ่มตัว อาการหมดไฟในการทำงานอาจแก้ไขได้ด้วยการลาหยุดพัก เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายของคุณขึ้นมาใหม่ แต่หากคุณรู้สึกว่าคุณพัฒนาและเติบโตไปไกลเกินกว่างานและบริษัทที่กำลังทำอยู่แล้ว การลาออกไปแสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่อื่นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับคุณ แต่คุณจะรู้ได้ยังไงว่าอาการที่คุณกำลังเป็นนั้น อาจหายได้แค่ลาพักหรือมันถึงเวลาแล้วที่คุณควรโบกมือบ๊ายบายงาน หลายคนคงมีคำตอบให้ตัวเองในใจแต่อาจยังลังเลสงสัย เพื่อขจัดความคลุมเครือนี้ jobsDB ได้รวบรวม 8 สัญญาณเตือนให้คุณรู้ว่าถึงเวลาที่สมควรค่าแก่การลาออกแล้ว มาฝากกันค่ะ
1. ปิดตาก็ยังทำงานได้
การทำงานในหน้าที่ของตนได้อย่างดีเป็นสิ่งที่นายจ้างทุกคนปรารถนาจะได้เห็นจากพนักงาน แต่หากว่าคุณทำงานของคุณได้ดีเสมือนว่าถ้าให้คุณปิดตาทำผลงานก็ยังออกมาได้ดีอยู่ คือทำทุกวันจนกลายเป็นรูทีนที่ไม่เหลือความท้าทายใด ๆ ในงาน จนคุณเบื่อจนถึงขีดสุดแล้วล่ะก็ นี่เป็นสัญญาณที่แรงมากที่บอกให้คุณรู้ว่าถึงเวลาที่คุณต้องก้าวออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของคุณได้แล้ว
2. สภาพแวดล้อมไม่น่าทำงาน
สภาพแวดล้อมในที่ทำงานส่งผลกระทบกับคุณมากกว่าที่คุณคิด คุณอาจมีเพื่อนร่วมงานจอมเผือกที่สนใจแต่เรื่องกอสซิปมากกว่าทำงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ หรือสมาชิกในทีมของคุณที่ทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของทีม คุณถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานด้วยวัฒนธรรมองค์กรอยู่มั้ย สรุปแล้วก็คือ ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่ได้รับแรงบันดาลใจหรือไม่ได้รับพลังบวกจากสภาพแวดล้อมในที่ทำงานเลย อาจเป็นไปได้ว่าพลังลบที่คุณได้รับจากที่ทำงานคือสาเหตุที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อการทำงานและผลงานของคุณ
3. ไม่อยากตื่นไปทำงาน
ถ้าทุกเช้าที่ลืมตาตื่น คุณรู้สึกไม่อยากไปทำงาน คุณต้องถามตัวเองแล้ว ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น อาการนี้เป็นมานานแค่ไหนแล้ว พยายามหาเหตุผลให้ได้ว่า ที่คุณไม่อยากตื่นไปทำงานนี้เป็นเพราะอะไร เพราะคนที่ทำงาน เนื้องาน หรือวัฒนธรรมขององค์กร การขาดความกระตือรือร้นในการทำงานแม้จะเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ถ้าสะสมไว้นานวันเข้าโดยไม่หาทางแก้ไขอาจทำให้คุณถึงจุดอิ่มตัวและกลายเป็นคนเฉื่อยชาไปเลยก็ได้
4. ทำงานให้จบไปวัน ๆ
คุณทำงานเพราะอยากสร้างผลงานที่ดีให้กับองค์กรและสังคม หรือทำงานเพราะแค่ต้องการเงินเดือนอย่างเดียว ไม่ผิดที่จะคิดว่า ที่ทำงานทุกวันนี้ก็เพื่อเงินเป็นหลัก แต่นอกจากเรื่องเงินแล้ว คุณควรมีวัตถุประสงค์รองด้วย ไม่ใช่ทำงานให้จบไปวัน ๆ แต่คุณควรมองหาแรงบันดาลใจอื่น ๆ ที่จะทำให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพด้วย เพื่อให้ได้ผลงานที่ออกมามีคุณภาพ และจะส่งผลกับเงินเดือนของคุณไปด้วย แต่หากคุณหาแรงบันดาลใจจากงานที่ทำอยู่นี้ไม่เจอ ให้ลองมองหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ดูค่ะ
5. หน้านิ่วคิ้วขมวดตอนทำงานตลอด
ถ้าให้เพื่อนร่วมงานพูดถึงคุณตอนทำงาน เค้าจะพูดถึงคุณว่ายังไงกันบ้าง ถ้าเพื่อนร่วมงานบอกว่า คุณชอบหงุดหงิด เครียด และหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา คุณต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าอะไรทำให้คุณเครียดขนาดนั้นตอนทำงาน ความเครียดทำให้ความสามารถในการทำงานแย่ลง ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน บางทีอาจทำให้ตัดสินใจอะไรผิดไป และเกิดความผิดพลาดในการทำงานก็เป็นได้
6. เคมีไม่เข้ากันกับเพื่อนร่วมงาน
ถ้าคุณเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจน ว่าถึงเวลาที่คุณต้องลองมองหางานอื่นแล้ว เคมีที่เข้ากันได้ระหว่างคนในทีมเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมี เพื่อให้ทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์คได้ดี ถ้าคุณรู้สึกว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง แน่นอนว่าสไตล์การทำงานของที่นี่ ไม่น่าเหมาะกับตัวคุณ คุณคงไม่อยากใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อวันในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ทำให้คุณเป็นทุกข์ใช่มั้ยคะ
7. มองไม่เห็นอนาคตจากองค์กรนี้
เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองกับงานหรือองค์กรที่คุณทำอยู่ เมื่อนั้นคือเวลาที่คุณเติบโตไปไกลเกินกว่าที่งานและองค์กรจะรองรับศักยภาพของคุณได้แล้ว และในเมื่อคุณพยายามมองหาความท้าทายในการทำงานที่มากขึ้น และต้องการจะเติบโตในสายอาชีพมากกว่านี้ แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้านายหรือผู้บริหาร อาจถึงเวลาที่คุณต้องออกไปหาความท้าทายและการเติบโตในสายอาชีพจากที่อื่นแล้ว
8. ความคิดเห็นของคุณไม่เป็นที่ยอมรับ
ถ้าคุณถูกดับฝัน หรือถูกทำลายความกระตือรือร้นในการทำงาน เพราะความคิดเห็นของคุณมักถูกเมิน ไม่เอามาใส่ใจ หรือไอเดียที่เสนอไปไม่เคยได้รับการพิจารณา ก็สมควรแก่เวลาที่คุณควรจะมองหาองค์กรอื่นที่ให้คุณค่ากับความคิดเห็น ยอมรับและยกย่องในผลงานของคุณ
มีข้อไหนตรงกับตัวคุณบ้าง ถ้าตรงกับคุณมากกว่า 1 ข้อ อาจถึงเวลาที่คุณจะต้องโบกมือลางานเก่าและเริ่มมองหางานใหม่ได้แล้วนะคะ
หากคุณกำลังมองหางานใหม่ที่ใช่ ง่าย ๆ แค่แชทหาเราที่นี่ได้เลย
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มีบริษัทมาเสนอให้ไปทำงานด้วย จะอยู่ทำงานที่เดิมหรือไปที่ใหม่ดี