จากข้อมูลทาง SME Bank ระบุว่า ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ร้อยละ 80 เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ซึ่งน่าตกใจว่าทำไมตัวเลขนี้ถึงได้สูงจนทำให้ผู้ประกอบการ SMEs สะบักสะบอมเช่นนี้ และอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เอ่ยก็ล้มหายตายจากธุรกิจไปไม่รู้เท่าไร ส่วนที่เหลือร้อยละ 20 จึงจะเป็นจำนวนของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจจริง ๆ
ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการ SMEs จะต้องลงมือกระทำอย่างเร่งด่วนก็คือ ค้นหาและกำจัด อุปสรรคทางธุรกิจ ให้อยู่รอดปลอดภัยได้ มิเช่นนั้นแล้ว ตัวเลขหนี้ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้อาจจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่คุณจะต้องทำอย่างแรกเลยก็คือ
1.ทักษะความรู้ ความชำนาญในธุรกิจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสามารถใน การทำธุรกิจ ของผู้ประกอบการ ซึ่งจะต้องค้นหาตัวเองว่ามี ทักษะความรู้ ความสามารถที่โดดเด่นนั้นเพียงพอ ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจนั้นอยู่รอดได้หรือไม่ การที่เรามีเงินทุนนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ต้องวัดกันที่ฝีมืออีกด้วย แต่หากว่าค้นหาแล้ว ยังไม่เจออีก มีข้อแนะนำอยู่ 2 อย่างก็คือ เลิกทำธุรกิจหรือหาคนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกัน เท่าที่ผ่านมามี ธุรกิจ จำนวนมากที่มีหุ้นส่วนจำนวนเยอะมาก และแต่ละคนก็มีความสามารถแตกต่างกันไป เช่น ความสามารถทางด้านคิด แผนการตลาด การโปรโมตประชาสัมพันธ์ หรือการจัดการภายในองค์กร เป็นต้น อย่าลืมว่าไม่มีใครเก่งทีสุดหรือดีทีสุด แต่ถ้าเราเอาความสามารถของแต่ละคนมาผนึกรวมกัน ก็จะทำให้ความเก่งกาจในธุรกิจนั้นก้าว ไปถึงความเป็นที่สุดนั้นได้
2. ข้อมูลที่จำเป็นต่อการเติบโต เราจะเห็นได้ว่า ทุก ๆ ธุรกิจในปัจจุบันนี้ต้องอาศัยข้อมูลต่าง ๆ เพี่อหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจก้าวไปอย่างมั่นคง ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้ไปกว่าเงินทุนที่เรากำลังหากันอยู่ อาทิเช่น ข้อมูลเรื่อง ความต้องการของผู้บริโภค อย่าลืมว่าทุกวันนี้มีการแข่งขันสูง ลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเรารอด ดังนั้น เราจำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง หากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว ธุรกิจของคุณอาจจะมีผลกระทบก็เป็นได้ นอกจากนี้แล้ว วงจรของสินค้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยด้วย นั่นหมายความว่าสินค้าทุกชนิดจะมีวงจรชีวิตที่ถูกกำหนดโดยผู้บริโภค และแน่นอนว่าผู้ประกอบการจะต้องมีข้อมูลเหล่านี้ เพื่อใช้ปรับแผนเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ
3. การวางแผนการตลาด หัวข้อนี้สำคัญมากต่อผู้ประกอบการซึ่งจะต้องค้นหาว่า แผนการตลาด ของเรานั้นมี จุดอ่อนและจุดแข็งตรงไรบ้าง วิธีนี้สามารถทำได้โดยการศึกษาแผนการทำงานของคู่แข่ง หากเราทำแผนมาเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้วพบว่ามีจุดอ่อนอยู่ ขอแนะนำให้ทบทวนและเปลี่ยนการตลาดใหม่หมด อย่าลืมด้วยว่าทุกวันนี้การทำงานต้องศึกษาจากลูกค้าและคู่แข่ง บางครั้งแนวคิดของเราอาจขัดแย้งกับความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ต้องปรับปรุงเพื่อให้ธุรกิจนั้นไปตลอดรอดฝั่ง
4. มาตรฐานในการผลิต เท่าที่เราทราบกันอยู่ว่า คุณภาพที่ดีของสินค้าคือปัจจัยสำคัญต่อความอยู่รอด หากทุกวันนี้ยังไม่สามารถกอบโกยผลกำไรเพื่อจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยได้เลย เราต้องหันมาทบทวนกันเรื่องมาตรฐานของสินค้ากันอีกครั้ง เพื่อให้รู้ว่าคุณภาพของสินค้าเราตรงกับ ความต้องการของผู้บริโภค รึเปล่า ดังนั้นการสร้างมาตรฐานการผลิตคือสิ่งที่เราต้องตระหนักและพัฒนากัน อย่างเรื่อย ๆ และหากต้องนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับ ความต้องการของผู้บริโภค เราก็ควรยอมลงทุน เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ธุรกิจของคุณอาจจะโครงเครงก็ได้ ดังเช่นเรืออยู่บนสายน้ำเชี่ยว
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ ก็คือส่วนหนึ่งของอุปสรรคทางธุรกิจที่สำคัญ และมีผลกระทบต่อความอยู่รอดของธุรกิจของคุณ เราเชื่อว่ายังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่เป็นตัวฉุดคุณอยู่ ยังไงก็เอาใจช่วยคุณให้พ้นอุปสรรคตรงนี้ไปด้วยดี
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ