จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เดือนสิงหาคม 2558 มีบัณฑิตจบใหม่ทั้งหมดประมาณ 360,000 คน แต่ก็มีจำนวนไม่น้อย ที่ว่างงานอยู่กว่า 157,000 คน หรือคิดเป็น 43% เลยทีเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจอยู่ไม่น้อย แต่หากจะถามถึงเหตุผล หรือที่มาของอัตราการว่างงานนี้ คงจะมีหลายปัจจัยด้วยกัน
ทั้งด้านสภาวะทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น แต่เหตุผลที่ใกล้ตัวที่สุดคงไม่พ้นเหตุผลที่เกิดจากตัวของเด็กจบใหม่เอง โดยผลจากแบบสำรวจ ผู้ประกอบการมองหาอะไรจากนักศึกษาจบใหม่ โดย jobsdb ได้ระบุ 3 ปัจจัยที่ทำให้นักศึกษาจบใหม่ว่างงาน ดังนี้
1. เรียกเงินเดือนสูงเกินไป (59%) – เรื่องค่าตอบแทนเป็นเหตุผลแรก ๆ ที่ HR ต้องพบเจอ และเจรจาต่อรอง เพื่อให้เกิดความพึงพอใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งตัวองค์กรเอง และผู้สมัครงาน
2. เลือกงาน เลือกองค์กร (48%) – เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กจบใหม่จะเลือกทำงานกับเฉพาะองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียง หรือทำเฉพาะงานที่ตรงกับสายงานจริง ๆ หรือทำเฉพาะงานที่ตนถนัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
3. ขาดทัศนคติเชิงบวก (36%) – การคิดบวกเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ HR ให้ความสำคัญ เพราะการมีทัศนคติเชิงบวกจะมีผลทำให้พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และความสุข แล้วเมื่อมีความสุข พนักงานก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ในองค์กรได้นาน
ทั้งนี้ทั้งนั้น น้อง ๆ เด็กจบใหม่ ก็อย่าเพิ่งสิ้นหวัง หมดกำลังใจไป เพราะจากแบบสำรวจดังกล่าว jobsdb ยังได้สอบถามถึงความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการในตัวเด็กจบใหม่ในด้านต่าง ๆ อีกด้วย
ในด้านของประสบการณ์ทำงานที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญเป็นพิเศษ 3 อันดับแรกคือ
1. เคยผ่านการฝึกงานมาก่อน (75%) – เพราะการฝึกงานเป็นเสมือนการที่ได้ทำงานจริง และมีการรับรองที่เชื่อถือได้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่โดดเด่นที่สุดในโปรไฟล์ของนักศึกษาจบใหม่
2. เคยทำงานนอกเวลา (49%) – การทำงานนอกเวลา หรืองาน part-time เป็นการทำงานจริง และได้ค่าตอบแทนแบบชีวิตงานจริง ๆ แสดงถึงการที่เป็นคนแบ่งเวลาได้อย่างคุ้มค่า และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งยังโชว์ถึงความขยัน อดทนในตัวเองอีกด้วย
3. เคยทำกิจกรรมนอกหลักสูตร (41%) – กิจกรรมนอกหลักสูตรเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่แสดงให้เห็นหลาย ๆ แง่มุมในตัวนักศึกษาเอง อาทิ ความสามารถในการทำงานเป็นทีม หรือความสามารถอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร
คุณลักษณะของเด็กจบใหม่ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจจ้าง 3 อันดับแรก
1. สามารถเปิดรับความรู้ใหม่ และพัฒนาตนเองได้ (50%) – การทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วนั้นทำให้เราได้ความรู้ หรือแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่างเปิดกว้าง และรู้รอบมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาตัวเองต่อไป
2. สามารถทำงานเป็นทีมได้ (50%) – หลาย ๆ องค์กรต้องการทีมที่มีประสิทธิภาพ ที่จะสามารถรังสรรค์ผลงานดี ๆ ให้กับองค์กรต่อไป เพราะหลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว องค์กรจะไปได้ไกลหรือไม่ ความมี Teamwork และ Team Spirit นั้นสำคัญ
3. มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (45%) – ความกระหายใคร่รู้ หรือกระตือรือร้นที่จะหาความรู้ และเรียนรู้เพิ่มเติมกับสิ่งใหม่ ๆ นั้นจะเป็นพลังที่ทำให้องค์กรมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ทักษะสำคัญของเด็กจบใหม่ที่เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจจ้าง 3 อันดับแรก
1. ทักษะการสื่อสารที่ดี (62%) – เพราะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะทำให้การดำเนินงานนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ มีความเข้าใจที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
2. ทักษะด้านภาษา (62%) – ไม่ว่าเป็นภาษาที่ 2 อย่างภาษาอังกฤษ ที่มีอิทธิพลกับทุกวงการธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นภาษากลางที่ทั่วโลกใช้ ในการสื่อสาร นอกจากนี้ ภาษาที่ 3 เช่น ภาษาจีน ญี่ปุ่น ฯ ก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะในสายงาน หรือบริษัทที่ต้องร่วมงานกับเจ้าของภาษาดังกล่าว
3. ทักษะเฉพาะตามสายอาชีพ (54%) – เป็นทักษะเฉพาะตามที่เด็กจบใหม่ได้เรียนมา หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทำงานตรงสายที่เรียนนั่นเอง เป็นเหมือนเป็นการพูดภาษาเดียวกัน ลดขั้นตอนในการสอนงาน และประหยัดเวลา
ไม่ว่าผลของแบบทดสอบเรื่องผู้ประกอบการมองหาอะไรจากนักศึกษาจบใหม่นั้นจะออกในรูปแบบไหน การเตรียมความพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานจริง ๆ ของน้อง ๆ นักศึกษาจบใหม่ ย่อมมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือการใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ร่ำเรียนมาให้เต็มที่ แสดงศักยภาพภายในออกมาให้ทุกคนได้เห็น รวมถึงการใช้ช่องทางอันทันสมัยต่าง ๆ เพื่อพรีเซนต์ให้ผู้ประกอบการได้เห็นถึงความสามารถ โดยน้อง ๆ นักศึกษาจบใหม่สามารถสร้างโปรไฟล์ของตนเองขึ้นมาได้ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการหางานได้ทุกที่ ทุกเวลา รับรองว่าน้อง ๆ จะไม่มีวันนั่งทำวิจัยฝุ่นอย่างแน่นอน
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ