ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาโลกได้ประสบกับวิกฤติการณ์ใหม่ที่สั่นสะเทือน วงการแพทย์ อย่างรุนแรง จากการพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่ไม่สามารถระบุชนิดของไวรัสได้ในประเทศจีน เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2019 จนเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 ทางการจีนได้ยืนยันว่าไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอักเสบตัวนื้คือ โคโรนาไวรัส (Coronavirus: CoV) ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ก่อให้เกิดโรค SARS และ MERS ขึ้นเมื่อหลายปีก่อน โดยคาดว่ามีศูนย์กลางอยู่ที่ตลาด Huanan เมืองอู่ฮั่น และได้ประกาศปิดการเข้าออกเมืองอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 แต่ก็ถือว่าช้าไปเสียแล้ว เพราะเวลากว่า 1 เดือนที่มีการติดเชื้อก็มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนอู่ฮั่นเข้า-ออกประเทศเป็นจำนวนกว่า 5 ล้านคนเลยทีเดียว
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยมีมาตรการในการตรวจคัดกรองผู้ป่วย และเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการคล้ายจะติดเชื้อโคโรน่าไวรัสอย่างเข้มข้น แต่ก็พบผู้ป่วยถึง 8 คน แม้จะมีอาการดีขึ้นจนสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอยู่ดี สำหรับ คนทำงานออฟฟิศ ในอาคาร หรือละแวกที่มีความหนาแน่นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ก็ต้องมีการป้องกันตนเองอย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโคโรน่าไวรัสที่อันตรายนี้
การป้องกันโคโรน่าไวรัสของคนทำงาน
เนื่องจากโคโรน่าไวรัสสามารถติดต่อกันได้จากคนสู่คน ผ่านสารคัดหลั่งอย่างน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยที่ส่งต่อโดยการไอ และการจาม ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังตัวเองในขณะอยู่ในที่ชุมชน ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. สวม หน้ากากอนามัย ตลอดเวลาเมื่อต้องไปในที่สาธารณะ หรือต้องติดต่อกับผู้ที่มีอาการป่วย
2. สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง
และถูกประเภท โดยจะมีข้อมูลระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัส
รวมถึงวิธีการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง
3. หมั่นล้างมือให้สะอาด
หรือใช้แอลกอฮอล์ล้างมือ 75% ขึ้นไปในการทำความสะอาด
4. ระมัดระวังไม่ให้นำมือที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดมาสัมผัสตา
จมูก และปาก
5. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนพลุกพล่าน
6. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
7. ทานเนื้อสัตว์ปรุงสุกเท่านั้น
8. พักผ่อนให้เพียงพอ
9. หากมีอาการไข้ ไอหายใจเหนื่อย หายใจลำบากเจ็บเสียดบริเวณหน้าอกเวลาหายใจเข้าให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
เบื้องต้นกรมควบคุมโรคได้ประเมินว่าโคโรน่าไวรัสมีระยะฟักตัวอยู่ที่ 2-14 วัน และอาจมีการแสดงอาการที่เร็วกว่านั้นในผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ดังนั้นต้องมีการสังเกตตัวเองและคนรอบข้างที่เสี่ยงติดเชื้อไวรัสได้ง่าย เพราะโรคปอดอักเสบที่เกิดจากโคโรน่าไวรัสนี้ยังไม่มีตัวยาที่รักษาได้อย่างเฉพาะเจาะจง ทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการเท่านั้น คนที่ต้องทำงานอยู่ในย่านเศรษฐกิจที่คนพลุกพล่านก็อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
#คว้าโอกาสที่ใช่ให้ชีวิตได้เรียนรู้
#jobsDB
หางานได้ง่ายกว่าเดิมผ่าน application บนมือถือจากjobsDBทั้ง iOS และ Android โหลดเลย