พูดถึงการทำงานหนักในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า การทำงานแบกหาม หรือใช้แรงงาน หรอกนะคะ แต่หมายถึงการทำงานออฟฟิศของมนุษย์เงินเดือนแบบเรา ๆ โดยตรงค่ะ jobsDB จะชวนคุณมาสำรวจตัวเองว่า คุณทำงานหนักไปหรือเปล่า และจะเกิดผลเสียอะไรตามมาบ้าง ตามหลักแล้ว คนเราไม่ควรทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่หลายคน ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตนเองยังคงต้องทำงานทั้ง ๆ ที่อยู่นอกเวลางาน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมถึงวันหยุดพักผ่อนประจำปีด้วย เอ..แล้วใครกันนะ ที่ทำงานหนักขนาดนั้น ใช่คุณหรือเปล่าที่มีพฤติกรรมแบบนี้
พฤติกรรมเหล่านี้เองที่บ่งบอกว่าคุณทำงานหนักเกินไป ซึ่งการไม่ปล่อย วางเรื่องงานอาจทำให้คุณเหนื่อยเกินไป หมดพลัง ขาดแรงจูงใจ และส่งผล ให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง โดยพบว่า ผู้ที่ทำงานล่วงเวลามักมีอาการ ปวดหัว เหนื่อย หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ และอาจเกิดโรคต่าง ๆ จากการ ทำงานได้ด้วย นอกจากส่งผลต่อร่างกายและจิตใจแล้ว ยังอาจเกิดปัญหา ครอบครัวตามมาอีกด้วย ปัจจุบันพบว่า อัตราการหย่าร้างจากการที่ฝ่ายหนึ่ง ให้ความสำคัญกับงานมากจนไม่สนใจที่จะพักผ่อนหรือใช้เวลาร่วมกับ ครอบครัว มีเพิ่มขึ้น
หากทำงาน นอกเวลางานหรือในวันหยุดเป็นประจำจะทำให้คุณเสพติดการทำงาน และยิ่งคุณได้รับคำชมหรือการยกย่องเชิดชูจากการอุทิศตนทำงานหนักเช่นนั้น ยิ่งทำให้คุณเกิดทัศนคติว่า หากคุณหยุดทำงานนอกเวลาเมื่อไร คุณก็จะไม่มีคุณค่า ดังนั้นสมองคุณก็จะสั่งให้คุณทำงาน ทำงาน และทำงานตลอดเวลา
เมื่อทำงาน มากเกินไป สมองก็ล้า คนทำงานจึงมักหาสิ่งกระตุ้น เช่น กาแฟ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ของหวานต่าง ๆ ในขณะที่ไม่ได้รับประทานอาหารมีประโยชน์ที่ร่างกายต้องการอย่างแท้จริง หากปล่อยไปนานเข้า กลไกภายในร่างกายก็จะค่อย ๆ เสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้อ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย และเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา
ทางออกของ ปัญหานี้อยู่ที่การบริหารจัดการเวลาให้ดี จัดลำดับความสำคัญงานที่ต้องทำให้เสร็จภายในเวลางานแต่ละวัน เมื่อเลิกงานควรกลับบ้านและพักผ่อนจนถึงเช้า โดยไม่ต้องคิดกังวลเรื่องงานอีก ในวันหยุดพักผ่อน ควรเป็นเวลาของการพักผ่อนอย่างแท้จริงเพื่อเติมพลังให้ชีวิตของคุณ สามารถกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีแรงจูงใจในการทำงานต่อไป
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ