พนักงานบริการมือโปรนั้น เวลาจะเสิร์ฟอาหารจะไม่ถามแขกว่าอาหารจานนี้เป็นของลูกค้าท่านใด แต่จะจดจำให้ได้ว่าใครสั่งอะไร และสามารถเสิร์ฟได้อย่างแม่นยำ ไม่ผิดตัว
ในโรงแรมหรือภัตตาคารที่มีมาตรฐาน จะมีการฝึกอบรมพนักงาน พนักงานเสิร์ฟ บริกร ในการรับคำสั่งอาหารและเสิร์ฟอาหารได้อย่างถูกต้อง แม้ว่าพนักงานที่นำอาหารมาเสิร์ฟจะเป็นคนละคนกับพนักงานที่รับคำสั่งจากลูกค้าก็ตาม
สิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่พลาดในการเสิร์ฟอาหารก็คือการเขียนแผนผังที่นั่งของแขก(Table Plan/Seating Plan) ก่อนรับคำสั่งอาหาร โดยการกำหนดว่าในแต่ละโต๊ะ จะนับหมายเลขจากซ้ายมือของประตูทางเข้าร้านอาหารเป็นหมายเลข 1 จากนั้นก็ใช้วิธีนับตามเข็มนาฬิกา
นอกจากนี้ ก่อนเสิร์ฟอาหาร พนักงานจะต้องบอกชื่ออาหารก่อนเช่นกัน เพื่อให้แขกรู้ตัวและเพื่อให้แขกแน่ใจว่าสิ่งที่แขกสั่งนั้นถูกต้อง และไม่ผิดตัว
บ่อยครั้งในห้องอาหารที่พนักงานบริการไม่ได้บอกแขกก่อนลงอาหาร จนบางครั้งผิดพลาดลงอาหารผิดโต๊ะ จนแขกรับประทานหมดเรียบร้อยแล้วบอกว่า “รายการนี้ไม่ได้สั่ง” ส่งผลให้เสียเวลา เสียต้นทุน เสียความรู้สึกทั้งแขกและพนักงาน เพียงแค่บอกให้แขกทราบว่าอะไรที่มาเสิร์ฟนี้คืออะไร ก็จะไม่เกิดข้อผิดพลาดเช่นนี้ขึ้น
ยิ่งในกรณีที่แขกเข้ามารับประทานอาหารพร้อมคุยเรื่องธุรกิจไปด้วย การบอกให้แขกรู้ตัวก่อนเสิร์ฟอาหารยิ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น ต้องขออนุญาตแขกก่อน มิฉะนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุ เช่น อาหารหกลงบนเอกสารสำคัญของแขก หรือจังหวะเข้าไม่ดีอาหารหรือจานโดนแขก เป็นต้น
แค่เพียงกล่าว “ขอโทษครับ ข้าวผัดปูครับ” ก็ใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้การทำให้แขกสนใจก่อนลงอาหาร ด้วยการไอ สัมผัสแขก หรือส่งเสียง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการ ไม่สุภาพ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ในการสร้างความประทับใจให้กับแขก พนักงานบริการควรจดจำคำวิเศษที่นิยมใช้กัน5 คำ ดังนี้
เทคนิคเหล่านี้ไม่ยาก และยังจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับแขกติดใจในบริการ ต้องการที่กลับมาใช้บริการที่ร้านอาหารของคุณอีก หรือดีกว่านั้น เขาอาจบอกต่อเพื่อน ๆ ให้มาใช้บริการร้านคุณอีกด้วย