คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนกระตุ้นการลงทุนและการขยายตัว ทางเศรษฐกิจของประเทศให้มากขึ้น อันจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
นายจ้าง ทั้งหลายที่นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายแต่ละเดือนของลูกจ้าง (ภงด.1) ต้องคำนวณภาษีกันใหม่ โดยที่เงินได้พึงประเมินที่ได้รับในปี พ.ศ. 2551 ของ
บุคคลธรรมดาได้รับการช่วยเหลือดังนี้
นอกจากนี้ กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร ได้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ จากเดิมที่กำหนดไว้อัตราร้อยละ 3.3 เป็นอัตราร้อยละ 0.11 สำหรับรายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆ จาก ทั้งนี้ เฉพาะการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำภาย ใน 1 ปี นับจากวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ
ให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 0.01 สำหรับกรณีสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
บริษัทหรือห้างหุ้น ส่วนจำกัด รอบบัญชีเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไปที่มีทุนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน150,000 บาท
ทั้งนี้ มาตรการภาษีที่นำเสนอ จะช่วยลดภาระภาษีอันเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการออมระยะยาวในประเทศมากขึ้น สนับสนุนการประกอบกิจการของวิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนกระตุ้นและเร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชนให้สอดคล้องกับการส่งเสริมให้ เกิดปีแห่งการลงทุน (Investment Year) อันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป
ที่มา : www.avaccount.com